เตือนรัฐบาลระวังม.157 ชี้ 'สมเด็จช่วง' จะเป็นสังฆราชถูกกม.

เตือนรัฐบาลระวังม.157 ชี้ 'สมเด็จช่วง' จะเป็นสังฆราชถูกกม.

"จตุพร" เตือนรัฐบาลระวังถูกชาวพุทธฟ้องตามมาตรา157 ชี้ "สมเด็จช่วง" เป็นสมเด็จพระสังฆราช จะถูกต้องตามกม.

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล เมื่อ 15 ม.ค. โดยยืนยันว่า วงการสงฆ์ทั้งฝ่ายธรรมยุตนิกาย และมหานิกาย ไม่มีความขัดแย้งตามพวกที่เคลื่อนไหวต่อต้านการแต่งตั้งสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ หรือ สมเด็จช่วง เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20

นายจตุพร ย้ำว่า ทั้งสองนิกายอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมาตลอด และการประชุมของมหาเถรสมาคม (มส.) มีความชัดเจนแล้วว่า มส.ได้เสนอชื่อสมเด็จช่วง ซึ่งเป็นสมเด็จราชาคณะที่มีความอาวุโสสูงสุด โดยสมณศักดิ์ตามกฎหมายคณะสงฆ์ ปี 2505 แก้ไขในปี 2535 ให้รัฐบาลเรียบร้อยแล้ว โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีสิทธิ์ตรวจสอบเอกสาร แล้วนำขึ้นทูลเกล้าฯ แต่งตั้ง

แต่ในขณะนี้ท่าที่ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมายเริ่มเปลี่ยนไป เมื่อพุทธะอิสระและพวกออกมาขู่ว่า ถ้านายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้งสมเด็จช่วง เป็นสมเด็จพระสังฆราชต้องขาดกัน จนเสียงเริ่มอ่อนและอธิบายว่า ถ้ามีการคัดค้านก็ยังไม่เสนอแต่งตั้ง

"ต้องรู้ว่ารัฐบาลทำหน้าที่เป็นทางผ่านเท่านั้น ส่วนที่เหลือเป็นพระราชอำนาจในการแต่งตั้ง ถ้าถ่วงรั้งไว้จะเข้าข่ายการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ม. 157 ชาวพุทธแจ้งความบ้างจะยุ่งกันแน่"

การคัดค้านของพุทธะอิสระและพวก ยังใช้การกล่าวหาเชื่อมโยงให้สมเด็จช่วง พระอุปัชฌาย์ของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดธรรมกาย ที่ถูกตรวจสอบในคดีมากมายให้มีความผิดด้วย

นายจตุพร กล่าวว่า ในเวลานี้ พุทธะอิสระ และพวกยังเสนอความเห็นกันจนเลยเถิดถึงขั้นให้นายกรัฐมนตรีเสนอชื่อก่อนแล้วให้ มส. พิจารณา ซึ่งเป็นการขัดแย้งกับกฎหมายคณะสงฆ์ นอกจาก ยังเสนอให้ยกเลิกสมณศักดิ์ รวมทั้งให้เฉลี่ยทรัพย์สินของวัดที่ประชาชนศรัทธาไปให้วัดอื่นๆ สิ่งนี้แสดงถึงความพยายามให้พระทุกรูปมีสมณศักดิ์เหมือนกัน และมีสถานะเท่ากับพุทธะอิสระ ซึ่งอาจเป็นความคิดถึงขั้นจะมีโอกาสได้เข้าไปควบคุมวงการสงฆ์ในอนาคตด้วยก็ได้