สตช.สั่งตรวจเข้ม สตม.เช็คคนเข้าออก

สตช.สั่งตรวจเข้ม สตม.เช็คคนเข้าออก

สตช.สั่งตรวจเข้ม สตม.เช็คคนเข้าออก กำชับตรวจแบล็กลิสต์กลุ่มก่อการร้ายยังไม่มีประวัติเข้ามาในประเทศไทย

หลังจากเกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงอย่างต่อเนื่อง 6 ครั้ง ในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเช้าวันที่14มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งมีการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับกลุ่มคนร้าย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากนั้น

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 มกราคม พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากเหตุระเบิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีการกำชับการทำงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เริ่มจากการคัดคนเข้าออกของ สตม. ตรวจสอบแบล็กลิสต์ ตรวจสอบโอเวอร์สเตย์ ในพื้นที่ ในส่วนของมีการสืบสวนหาข่าวเชิงลึกนั้น กองบัญชาการตำรวจสันติบาลกำลังดำเนินการอยู่ จากการข่าวตอนนี้ยังไม่มีเหตุความรุนแรงในประเทศไทย และได้สั่งการให้สันติบาลให้ดูสถานทูตอินโด และสถานที่ต่างๆ ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ต.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม ให้ความสำคัญและสั่งทุกหน่วงยงานตรวจสอบ

“ในส่วนของ สตม.มีการตรวจสอบสองมิติ คือการบริการนักท่องเที่ยว อีกมิติหนึ่งคือมิติด้านความมั่นคง ในการคัดกรองคนเข้าออก และได้มีการใช้เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ในคัดกรองบุคคล มีการประสานกับสายการบินต่างๆ ที่ผ่านมาเคยประชุมกับประชุมกับประเทศอินโดนีเซีย สิ่งเหล่านี้มีการประสานข้อมูลกันตลอด”โฆษก ตร. กล่าว

“ในส่วนของคนที่อยู่over stayมีอยู่ประมาณแสนกว่าคน ภายใน3เดือน จะต้องลดจำนวนลงให้ได้ ที่ผ่านมาสามารถจับกุมและคัดกรองบุคคลเหล่านี้ได้จำนวนมากแล้ว ทุกข่าวสารที่เกิดขึ้นเป็นข่าวสารที่ต้องพิสูจน์ทราบ และที่สำคัญ ตม. สันติบาล ได้มีหน่วยข่าวที่รับข่าวสารร่วมกันกับอาเซียนอยู่แล้ว มีการตั้งจุดบริการการข่าวอย่างต่อเนื่อง ฝากถึงประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง เบื้องต้นขณะนี้ยังไม่ทราบประวัติคนที่ก่อเหตุ ยืนยันว่ากลุ่มไอเอสไม่ปรากฏอยู่ในเมืองไทย ในส่วนของภาคใต้ที่อาจจะมีความเชื่อมโยงกันนั้น จากการพูดคุยกับพื้นที่ยังไม่มีอะไร”

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่กรุงจากาตาร์ ประเทศอินโดนีเซีย ทางการไทยมีการประสานงานด้านการข่าวอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าจะไม่เหตุเกิดในไทย แต่ สตช.ก็มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารต่อเนื่อง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวเคยมีประวัติเข้ามาในประเทศไทยหรือพัวพันกับเหตุระเบิดต่างๆในไทยหรือไม่ พ.ต.อ.กฤษณะ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบว่ามีประวัติเข้ามาในไทย