ชี้จับ'ณัฐวุฒิ-จตุพร' ทำภาพลักษณ์รัฐบาลแย่

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมช.ต่างประเทศ กล่าวว่า การที่คสช.ควบคุมตัวนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ไปเมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ในขณะที่ทั้ง 2 คนกำลังจะเดินทางไปกราบสักการะอนุเสาวรีย์และไปดูรายละเอียดข้อเท็จจริงต่างๆในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น ไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาลในสายตาของประชาคมโลกอย่างแน่นอน เพราะเขาจะมองเห็นว่ารัฐบาลนี้มีการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชนในการเดินทางและการแสดงออกหรือแสดงความคิดเห็นอย่างสงบและสันติ ซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ

เพราะทุกวันนี้นายกฯประกาศอยู่ตลอดเวลาว่าประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตย และอยู่ระหว่างการร่างรัฐธรรมนูญที่สากลจะให้การยอมรับและจะเคารพในสิทธิมนุษยชน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้กับ นายจตุพรและนายณัฐวุฒิ มันเป็นการฟ้องหรือแสดงให้เขาเห็นว่ารัฐบาลและคสช. ไม่ได้ยึดมั่นในหลักการแห่งประชาธิปไตยขั้นพื้นฐานแม้แต่น้อย ความเชื่อมั่นของนานาชาติที่เฝ้ามองขบวนการประชาธิปไตยของไทยและการที่เขาจะได้เห็นว่าไทยเรากำลังจะเดินไปตามโรดแมปและมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยที่กำลังจะทำประชามติจากประชาชนทั้งประเทศนั้นก็คงจะเสื่อมถอยและห่างไกลจากความเป็นจริง และคงจะเป็นสิ่งที่เลือนลางไปเสียแล้ว  

นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เชื่อได้ว่าทั้งสื่อต่างชาติและสถานทูตต่างๆก็คงจะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้กลับไปยังเมืองหลวงของเขาโดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่เป็นประชาธิปไตย และที่สำคัญที่สุดคือสำนักงานตัวแทนข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศไทย คงรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นกลับไปยังสำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ค ทำให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลไทยในสายตาประชาคมโลกแย่ลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

และเมื่อเขารู้ถึงมูลเหตุที่แท้จริงว่าการที่นายจตุพรและนายณัฐวุฒิ จะเดินทางไปดูอุทยานราชภักดิ์ก็เพื่อดูและตรวจสอบหลักฐานที่มีการกล่าวหาว่ามีความไม่โปร่งใสและความไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นในโครงการก็ยิ่งทำให้รัฐบาลดูไม่ดีเลย จึงอยากให้รัฐบาลรีบแก้ไขภาพพจน์ของรัฐบาลโดยเร็วและควรระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกและรัฐบาลก็ไม่ควรกล่าวหาหรือปิดกั้นไม่ให้ประชาชนออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบโครงการนี้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเพราะวันนี้ประชาชนคนไทยต่างคาดหวังที่จะเห็นการทุจริตคอร์รัปชั่นหมดสิ้นไปจากผืนแผ่นดิน