'ปูติน' เดือดตุรกีแทงข้างหลังสอยบินรบร่วง

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัสเซียว่า เหตุการณ์ที่ตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียตกในซีเรียเมื่อวานนี้ เกิดขึ้นขณะนักบินของรัสเซียกำลังเสี่ยงชีวิตต่อส้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายเยี่ยงวีรบุรษ แต่รัสเซียกลับต้องสูญเสียชีวิตนักบินจากการแทงข้างหลังโดยผู้สมรู้ร่วมคิดกับกลุ่มผู้ก่อการร้าย

ผู้นำรัสเซียยืนยันว่า เครื่องบินทิ้งระเบิด ซู-24 ลำนี้กำลังปฏิบัติภารกิจโจมตีเป้าหมายผู้ก่อการร้ายในเมืองลาทาเกียของซีเรีย โดยบินเหนือพื้นดิน 6,000 ม.ในน่านฟ้าซีเรียและอยู่ห่างจากชายแดนของตุรกี 1 กม. ก่อนถูกยิงโดยขีปนาวุธจากเครื่องบินเอฟ-16 ของตุรกี และตกห่างจากชายแดนตุรกี 4 กม. ทั้งที่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงตุรกีแต่อย่างใด

นายปูตินเปิดเผยว่า รัสเซียรู้มานานแล้วว่า น้ำมันในเขตควบคุมของกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอสในซีเรียถูกขายต่อไปยังตุรกีและเงินนี้ก็กลายเป็นเงินทุนให้กับกลุ่มก่อการร้าย กลุ่มไอเอสมีรายได้จากการขายน้ำมันหลายร้อยล้านดอลลาร์หรืออาจหลายพันล้านดอลลาร์และยังได้รับการคุ้มครองจากกองทัพของชาติหนึ่ง จึงเข้าใจได้ว่าทำไมกลุ่มไอเอสถึงกล้าสังหารคนได้อย่างอำมหิตและก่อการร้ายไปทั่วโลกแม้กระทั่งใจกลางยุโรป

ประธานาธิบดีรัสเซียกล่าวอีกว่า การยิงเครื่องบินรบรัสเซียครั้งนี้เกิดขึ้นทั้งที่รัสเซียลงนามข้อตกลงกับสหรัฐเพื่อป้องกันไม่ให้มีเหตุการณ์ลักษณะนี้ และตุรกีก็ร่วมปฏิบัติการทางทหารที่นำโดยสหรัฐในการต่อสู้กับกลุ่มไอเอสในซีเรียด้วย

นายปูตินย้ำด้วยว่า ที่ผ่านมา รัสเซียปฏิบัติต่อตุรกีไม่ใช่ในฐานะเพื่อนบ้านใกล้ชิดเท่านั้น แต่ในฐานะชาติที่เป็นมิตรด้วย แต่เหตุการณ์นี้จะส่งผลร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เขาไม่รู้ว่าใครจะได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ แต่ไม่ใช่รัสเซียแน่นอน และเขาจะไม่ปล่อยให้เรื่องนี้หายไปโดยไร้คำตอบ

ขณะที่ชะตากรรมของนักบินสองคนของรัสเซียที่ดีดตัวออกมาได้ก่อนเครื่องบินถูกยิงนั้น ล่าสุดมีรายงานว่านักบินนายหนึ่งถูกกลุ่มกบฎในซีเรียยิงเสียชีวิตขณะกระโดดร่มลงสู่พื้นดิน ส่วนนักบินอีกนายหนึ่งยังไม่ทราบชะตากรรม