นายกฯเร่งมาตรการศก.ให้จบก่อนไตรมาสสี่

นายกฯเร่งมาตรการศก.ให้จบก่อนไตรมาสสี่

"สมคิด" เผยนายกฯสั่งจัดประชุมกรอ.ระดับภาค-จังหวัด เตรียมลงใต้นั่งหัวโต๊ะที่สุราษฎร์ฯ พร้อมสั่งเร่งมาตรการศก.ในเดือนพ.ย.ให้จบก่อนไตรมาสสี่

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน(กรอ.) ซึ่งเป็นการประชุมที่ดีมากแตกต่างจากครั้งอื่นเพราะได้เชิญภาคประชาสังคมมาเข้าร่วมประชุมด้วยทำให้การประชุมประกอบด้วย 3 ภาคคือภาครัฐ เอกชนและภาคประชาชน โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถึงมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลประกาศไปก่อนหน้านี้ ทั้งเรื่องการปล่อยสินเชื่อให้กองทุนหมู่บ้าน การจัดสรรงบประมาณสนับสนุนตำบลละ 5 ล้านบาท และการเร่งเบิกจ่ายโครงการขนาดเล็กไม่เกิน 1 ล้านบาท รวมทั้งแพ็คเกจสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) ซึ่งในช่วงเดือนก.ย.ที่ผ่านมามาตรการที่ประกาศไปเริ่มดำเนินการไปได้ดีโดยเฉพาะกองทุนหมู่บ้าน มีเม็ดเงินลงไปกว่า 1ใน 3 แล้ว ทั้งนี้โครงการต่าง ๆ ที่รัฐบาลประกาศไปมีความคืบหน้าเกิดขึ้นแล้ว และมีงานวิจัยระบุว่าแนวโน้มความเชื่อมั่นของครัวเรือนเริ่มดีขึ้น โดยนายกรัฐมนตรีให้นโยบายว่าเดือนต.ค.นี้จะเป็นเดือนแรกหลังรัฐบาลประกาศมาตรการไป และเดือนพ.ย.จะเป็นเดือนที่ 2 ที่จะต้องเร่งดำเนินมาตรการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องการให้เคลียร์มาตรการต่าง ๆ ให้จบภายในไตรมาส 4 ปีนี้ เพื่อเป็นการสร้างเศรษฐกิจภายในทดแทนสิ่งที่ขาดหายไปจากการส่งออกที่ไม่สามารถควบคุมได้เพราะไม่รู้ว่าเศรษฐกิจโลกจะเป็นอย่างไร      

 นายสมคิด กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมกรอ.นายกรัฐมนตรีจะจัดประชุมทุกเดือน พร้อมสั่งการให้มีการประชุมกรอ.จังหวัดในทันที โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและมีหน่วยงานภาครัฐประกอบด้วย เกษตรจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และท่องเที่ยวจังหวัด เป็นต้น ส่วนภาคเอกชนจะมีหอการค้าจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ขณะที่ภาคประชาชนจะมีองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) เครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและ ปราชญ์ชาวบ้านฯ ให้ทุกส่วนมาประชุมร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น ตามนโยบายของรัฐบาลที่เน้นการเติบโตภายในควบคู่ไปกับการส่งออก ซึ่งเศรษฐกิจภายในจะหมายถึงการผลิต การเกษตร วิสาหกิจชุมชน ท่องเที่ยวท้องถิ่น และทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง รวมถึงด้านสังคม การดูแลคนชราและเรื่องการศึกษาด้วย นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังกำหนดให้จัดประชุมกรอ.ระดับภาค ซึ่งมีกรอ.จังหวัดต่าง ๆ มาร่วมประชุม โดยนายกรัฐมนตรีจะเข้าไปร่วมประชุมด้วย เริ่มต้นที่ภาคใต้จะประชุมกรอ.ภาคที่จ.สุราษฎร์ธานี และต่อด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อตามงานว่าขับเคลื่อนไปถึงไหน โดยนายกรัฐมนตรีกำชับให้ภาคประชาชนเข้ามามีบทบาทในการหารือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วย  

รองนายกฯ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมกรอ. ภาคเอกชนได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีรับทราบว่า นับตั้งแต่นายกรัฐมนตรีคิกออฟเรื่องประชารัฐ ได้เกิดความตื่นตัวในภาคประชาสังคมที่จะเข้ามาทำงานร่วมกับภาครัฐและเอกชน เป็นการเริ่มต้นทำงานด้านเศรษฐกิจท้องถิ่นถือเป็นการคิกออฟการเติบโตทางเศรษฐกิจจากภายในซึ่งจะต้องทำทั้งประเทศ เป็นการร่วมกันปฏิรูป จะส่งผลไปถึงการจัดทำงบประมาณที่จะไปได้ดีสอดรับกัน จะอาศัยต่างประเทศอย่างเดียวไม่ได้เพราะเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงภาวะซบเซา

“ผมอยากให้ประชาชน ดูการให้สัมภาษณ์ของประธานบริษัทโตโยต้าที่เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย ว่าจะเดินหน้าไปได้แน่นอน โตโยต้าจะไม่ละทิ้งประเทศไทย อยากให้คนไทยมั่นใจและอย่าตกใจมากกับข่าว”นายสมคิด กล่าว