อย่าผ่าน...ปราณบุรี

เห็นพาดหัวตัวไม้แบบนี้เป็นใครก็ต้องตามไปอ่านรายละเอียดของข่าว...

รายนามแขกพิเศษมีมาจองห้องพักกันอย่างแน่นขนัด ได้แก่...

1. ประเภทพักชั่วคราวไม่ค้างคืน ขอใช้บริการภัตตาคารและบันเทิงเฉพาะช่วงน้ำขึ้น ได้แก่คณะคุณปลาจองเป็นคณะใหญ่ เนื่องจากรวบรวมกันมาจากถิ่นต่างๆ ทั่วอ่าวไทย 72 ชนิด ส่วนใหญ่ใช้บริการครีบพุ้ยน้ำเข้ามาทางแพรกเพื่อใช้บริการอย่างเช่น กะพงขาว กะพงแดงสีเลือด นวลจันทร์ทะเล กระบอก กดทะเล ส่วนคณะคุณกุ้ง 32 ชนิด แจ้งว่าขอใช้บริการภัตตาคารชั้นล่าง (หน้าดิน)ในช่วงน้ำขึ้นเช่นกัน คณะคุณกุ้งก็มี กุ้งขาว กุ้งแชบ้วย กุ้งกุลาดำ กุ้งตะกาด กุ้งหัวมัน ฯลฯ

2. พวกประเภทพักประจำใช้ห้องสวีทรวมชั้นใต้ดิน ติดแอร์คอนดิชั่น และใช้บริการอาหารมื้อค่ำมื้อเดียวในภัตตาคารเท่านั้น แต่ใช้บริการแบบนี้นานหลายเดือนพร้อมอาหาร แขกชุดนี้ได้แก่ คณะทัวร์เศรษฐีปูดำ ขอใช้บริการพิเศษช่วงดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ โดยจองเรือยอร์ช (ขาใบพาย) ออกไปวางไข่กลางทะเล

3. คณะเช่าเหมาปี ขอลดค่าที่พัก โดยการอาสากำจัดขยะและบำบัดน้ำเสียให้แก่ทางโรงแรม แขกประเภทนี้ที่จองแล้ว มี 2 คณะใหญ่ ได้แก่ คณะคุณหอย คณะนี้เที่ยวแบบประหยัด เลยขอใช้บริการแบบราคาถูก โดยขอพักห้องพัดลอมแถบรากโกงกางและพื้นเลน กลุ่มนี้เขาก็แบ่งกันอีกเป็นกลุ่มหอยฝาเดียว ขอใช้ห้องเตียงเดี่ยว มี 22 ชนิด เช่นหอยดำ หอยกะทิ หอยขี้นก หอยขี้กา ส่วนกลุ่มหอยสองฝา ขอใช้ห้องเตียงคู่ มี 4 ชนิด อย่างเช่น หอยนางรม หอยแครง เป็นต้น

4. คณะคุณปูขอใช้ที่พักแบบกางเต็นท์ กระจายอยู่ทั่วไปตามพื้นเลน บ้างก็ขอใช้พื้นที่ผูกเปลตามรากแสม โกงกาง คณะนี้มี 29 ชนิด อย่างปูแสม ปูก้ามดาบ

แล้วประกาศที่ปิดไว้หน้าโรงแรมคือ...ที่พักเต็มแล้วผู้ที่ต้องการสำรองห้องพักในปีหน้า โปรดติดต่อเคาท์เตอร์ป่าเฉพาะช่วงน้ำขึ้น แต่ถ้าเจอวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่มีคณะคุณกุ้งหอยปูปลามาพัก โรงแรมก็ต้องปิดกิจการ...

นี่เป็นป้ายสื่อความหมายที่ติดไว้ในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติของ วนอุทยานปราณบุรี ที่ผมชอบมาก อ่านไปยิ้มไป เขียนได้ดี สนุก แล้วมีป้ายแบบนี้ติดไว้แทบตลอดเส้นทางเดินให้อ่านได้เพลินตลอดการเดินเที่ยวบนเส้นทางนี้ และผมไม่เคยเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนที่ไหนที่ร่มรื่นเท่านี้เลย ร่มรื่นมาก อาจจะเป็นเพราะต้นไม้นั้นขึ้นกันแน่นขนัด ร่มไม้ใบบังจึงกั้นแดดได้หมด เวลาไปเดินเที่ยวจึงเย็นสบาย แล้วความรู้บนป้ายสื่อความหมายทำให้เรารู้ที่มาของคำหลายคำในป่าชายเลน เช่น คำว่า “แพรก” เราเคยได้ยินแพรกสา แพรกหนามแดง ก็เพิ่งมารู้ความหมายคราวนี้เอง เส้นทางเดินนี้เดินสบายๆ ไปเรื่อยๆ (เพราะมันเย็นสบาย) สะพานแข็งแรงไม่ชำรุด แสดงถึงความเอาในใส่ค่อนข้างดี

วนอุทยานปราณบุรีมีเนื้อที่แค่ระดับพันไร่ มีทั้งพื้นที่ที่ติดชายทะเล ใกล้กับปากน้ำปราณบุรี ป่าสนทะเล ป่าชายเลนและภูเขาเตี้ยๆ อย่างเขาใหญ่ เขาเจ้าแม่ทับทิม เขาเจ้าพ่อหัวราม เขาเบญจพาส ต้องบอกว่าเกือบไม่รอดแล้วสำหรับที่นี่ เพราะถูกรุกพื้นที่เอามาทำนากุ้ง ขายนายทุน จนสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงทราบเรื่อง จึงดำเนินโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรี โครงการตามพระราชดำริ ตั้งแต่นั้นมาการบุกรุกพื้นที่เงียบกริบ พื้นที่ได้กลับมาเป็นธรรมชาติอีกครั้ง และสมบูรณ์มาจนทุกวันนี้ นี่เพราะพระบารมีพระองค์ท่านจริงๆ

พื้นที่ร่มรื่นด้วยร่มเงาของสนทะเลที่หนาแน่น มีลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ ร้านอาหาร ห้องพักติดแอร์ ค่ายเยาวชน ที่นี่จึงมีนักเรียนนักศึกษามาใช้บริการค่อนข้างบ่อย และมีเส้นทางขี่จักรยานที่สนุกมาก เลียบไปกับชายทะเลจนถึงปากน้ำปราณ วันผมไปพักก็มีฝรั่งขับรถบ้านมาพักนอนอยู่หลายคืน เพราะที่นี่ไม่มียุงครับ ผิดวิสัยมาก เคยไปนอนสามร้อยยอด โอ้โฮ...ยุงมหาศาล

ที่น่าสนใจก็คือ ที่นี่ยังมีสัตว์ที่ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในพื้นที่ก็คือ นกยูง ซึ่งเยอะมาก นอนและหากินอยู่ตามชายป่า ทีแรกผมก็แปลกใจได้ยินเสียงร้องยังนึกว่าเสียงนกยูงนี่นา แต่ทำไมมาได้ยินแถวนี้ พอถามเจ้าหน้าที่จึงรู้ว่านกยูงจริงๆ แรกเป็นนกยูงอินเดียที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปล่อยมาแค่คู่เดียว แต่เดี๋ยวนี้ไม่รู้มาจากไหนเพิ่ม นกยูงไทยก็มี มาผสมกันจนมีหลายฝูง บางฝูงก็ไปไกลในป่า บางฝูงก็หากินในป่าใกล้ๆ บ้านคน ชาวบ้านสงสารก็เอาข้าวโพดบ้าง ข้าวบ้างมาให้กิน พี่แกก็เลยไม่ไปไหนเลย ในขณะที่ชาวบ้านย่านนี้ช่วยกันดู ช่วยกันหวง เพราะ “นกยูงของสมเด็จฯ” จึงช่วยกันดูแล

บางทีมีคนงานต่างด้าวที่มาทำงานก่อสร้าง ทางวนอุทยานเขาก็จะเข้ามาคุยกับคนคุมงานก่อนเลย แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนมาเอาไปกินจนได้ ถ้าอยากดูยกยูง ให้เจ้าหน้าที่วนอุทยานเขาพามาดูครับ ตอนเย็นกับตอนเช้า พบเห็นง่ายเพราะเขาจะมานอนตามต้นไม้ เป็นที่ประจำ ส่วนถ้าสงสารนกยูงช่วยซื้อเมล็ดข้าวโพดไปให้เจ้าหน้าที่ เขาจะรวบรวมเอาไปหว่านให้นกยูงเอง

นอกนั้นผมไปยังเห็นเป็ดแดงที่อาศัยในบึงน้ำจืดใกล้ที่ดูนกยูงอีกหนึ่งฝูง กลายเป็นเป็ดแดงประจำถิ่นไปแล้ว รวมทั้งเลียงผาที่มักออกมายืนบนชะง่อนหินบนภูเขาบ่อยๆ นอกจากนั้นก็ยังมีเสือไฟ เสือปลา ผมว่าแค่นกยูงที่หาดูง่าย เป็ดแดง เลียงผา แค่นี้ก็ควรค่าแก่การไปเที่ยวชมแล้วครับ

ไปหัวหิน ไม่มีที่นอนก็มาที่วนอุทยานปราณบุรีได้เลย ไปไม่ถูก โทรถาม ททท.ประจวบคีรีขันธ์ โทร 0 3251 3885, 0 3251 3854 จะมาพักผ่อนนอนเล่น ดูสัตว์ ปั่นจักรยาน ก็เหมาะควรทุกอย่าง

เพราะแบบนี้ผมถึงไม่อยากให้ผ่านปราณบุรี แวะเลยครับแวะ...