ชาวสวนยางภาคใต้ จี้รัฐบาลแก้ราคาตกต่ำ

ชาวสวนยางภาคใต้ จี้รัฐบาลแก้ราคาตกต่ำ

เครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ ประชุมเรียกร้องรัฐบาล เร่งแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ

วานนี้(31ส.ค.)ที่ห้องประชุมครัวข้าวสังข์หยด ในเขตเทศบาลเมือง จ.พัทลุง สมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ จาก 14 จังหวัด ร่วมประชุมเพื่อหารือแนวทางเสนอรัฐบาลโดยการยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องราคายางพาราตกต่ำ หลังจากที่เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจังเน้นให้เกษตรกรมีความมั่นคงและยั่งยืนในการประกอบอาชีพ

นายไพรัฐ เจ้ยชุม อายุ 45 ปี รองประธานเครือข่ายเกษตรชาวสวนยางจังหวัดดพัทลุง กล่าวว่า ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ปัญหาเรื่องยางพาราอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เมื่อได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรก็ใช้วิธีการแก้ปัญหาแบบเฉพาะหน้า เอาเงินมาจ่ายชดเชยให้กับเกษตรกรหรือให้สถาบันการเงินนำเงินมาปล่อยให้เกษตรกรกู้ เมื่อราคายางพาราตกต่ำเกษตรกรไม่สามารถนำเงินมาจ่ายคืนได้ จึงเกิดปัญหาเป็นลูกโซ่ เพราะเกษตรกรเมื่อได้เงินชดเชยมาก็ให้จ่ายในชีวิตประจำวันค่าครองชีพที่สูงขึ้นในปัจจุบันไม่สามารถต่อยอดสร้างรายได้ได้

ดังนั้นแนวทางแก้ปัญหาในระยะยาวรัฐบาลควรเข้ามาแก้ปัญหาให้ตรงจุด โดยการมุ่งเน้นให้เกษตรกรมีความยั่งยืนและมั่นคงในอาชีพและการดำรงชีพ ส่งเสริมให้มีการแปรรูปยางพาราในประเทศไทยอย่างจริงจัง เน้นสถาบันเกษตรกรที่มีความพร้อมในการจัดตั้งโรงงานแปรรูปและรัฐเข้ามาสนับสนุนด้านการตลาด ซึ่งหากกระบวนการ การผลิต แปรรูป และใช้ยางในประเทศไทยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จะทำให้สามารถลดปริมาณการส่งออก เป็นการเพิ่มมูลค่ายางพาราทำให้เกษตรกรในประเทศสามารถขายยางพาราได้ในราคาที่เพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ

นายไพรัฐ กล่าวว่า สำหรับราคาน้ำยางสดในภาคใต้ในขณะนี้อยู่ที่ กก.ละ 40-45 บาท ในขณะที่ราคายางพาราแผ่นรมควัน ชั้น 1-3 อยู่ที่ราคา กก.ละ 47 บาท และยังมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในขณะที่เกษตรกรมีต้นทุนในการผลิตยางพาราที่ กก.ละ 63 บาท อย่างไรก็ดีในพื้นที่ภาคใต้กำลังเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เกษตรกรไม่สามารถกรีดยางพาราได้ เกษตรกรชาวสวนยางพาราจึงเดือดร้อนอย่างหนัก ไม่มีเก็บเงินไว้สำรองเพื่อใช้จ่ายในช่วงหน้าฝนได้เหมือนในอดีตในขณะที่ค่าครองชีพก็ปรับสูงขึ้น จึงอยากให้รัฐเข้ามาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน