ปปช.เผยภาคเหนือทุจริตจัดซื้อจัดจ้างมากสุด นครสวรรค์อันดับ1

ปปช.เผยภาคเหนือทุจริตจัดซื้อจัดจ้างมากสุด นครสวรรค์อันดับ1

"วิชา"แจงคดีทุจริตภาคเหนือ 1,165 เรื่อง พบร้องเรียนทุจริตจัดซื้อจัดจ้างมากสุด นครสวรรค์อันดับหนึ่ง 176 เรื่อง

ที่โรงแรมดุสิต ไอส์แลนด์ รีสอร์ต จ.เชียงราย นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. แถลงถึงการร้องเรียนคดีทุจริตในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ ปีงบประมาณ พ.ศ.2558 รวมจำนวน 1,165 เรื่อง โดยส่วนใหญ่เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ และความผิดเกี่ยวกับการเรียกสินบน ยักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ โดยจังหวัดที่มีจำนวนเรื่องร้องเรียนเข้ามามากที่สุดได้แก่ 1.นครสวรรค์ 176 เรื่อง 2.เชียงใหม่ 150 เรื่อง 3.พะเยา 108 เรื่อง ส่วนจังหวัดเชียงรายอยู่ในอันดับที่ 4.มีจำนวน 89 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 23 เรื่อง 

สำหรับคดีในพื้นที่จังหวัดเชียงรายส่วนใหญ่เป็นเรื่องกล่าวหาเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการปฏิบัติหรือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต ซึ่งคดีที่อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริง เช่น 1.คดีที่อดีตรองอัยการจ.เชียงราย และพวก ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ร่วมกันสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฟอกเงิน คือนายอเนก สุดิรัตน์ กับพวก รวม 3 คน 2.อดีตนายอำเภอแม่จัน จ.เชียงราย และพวก ทุจริตเกี่ยวกับการรับรองการเกิดในประเทศไทยเป็นเท็จและอนุมัติให้ลงรายการสัญชาติไทยโดยมิชอบ เป็นเหตุให้มีการร่วมกันออกหนังสือรับรองการเกิดในประเทศไทยเป็นเท็จจำนวน 16 ราย ส่งผลให้ทางราชการได้รับความเสียหาย 

3. พนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย รองสวป.สภ.แม่สาย และผบ.หมู่ สภ.แม่สาย ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเรียกรับสินบน หน่วงเหนี่ยวกักขัง ยักยอกเงินค่าปรับในความผิดเกี่ยวกับการช่วยเหลือให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 4.นายกเทศมนตรีเวียงเชียงของ และพวก ไม่มีการกำหนดราคากลางวัสดุที่จัดซื้อ และรูปแบบรายการละเอียดในการสอบราคาจ้างโครงการเหมาติดตั้งเครื่องขยายเสียงแบบไร้สายพร้อมอุปกรณ์เป็นเหตุให้เทศบาลตำบลเวียงเชียงของจัดซื้อจัดจ้างเครื่องขยายเสียงแบบไร้สายในราคาที่สูง และทำให้คณะกรรมการตรวจการจ้างไม่สามารถตรวจรับงานจ้างและเบิกจ่ายเงินให้ผู้รับจ้างได้

น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.กล่าวถึงการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของผู้บริหารท้องถิ่นในต่างจังหวัดว่า มีเรื่องต้องตรวจสอบเป็นจำนวนมากเพราะทั้งนายกฯและรองนายกฯอบต. ที่อาจเป็นชาวสวนชาวนามาก่อน บางครั้งอาจจะขาดความรู้ในส่วนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราต้องเข้าไปเติมเต็ม แต่สิ่งที่เราเน้นมากก็คือ เมื่อคุณเดินเข้ามารับหน้าที่ในการบริหารท้องถิ่นแล้ว อำนาจการใช้งบประมาณหรืออำนาจการอนุมัติงบประมาณ มันอาจก่อให้เกิดทรัพย์สินของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นควรจะต้องแสดงรายการบัญชีทรัพย์สิน อย่างไรก็ตาม เรายังได้เน้นในเรื่องของการยื่นเสียภาษี หากไม่ยื่นจะต้องมีเหตุผลจริง ๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาของ ป.ป.ช.ว่า ก่อนที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งมีรายได้เท่าไหร่อย่างไร และเมื่อดำรงตำแหน่งไปแล้วมีรายได้เพิ่มขึ้นมามากน้อยเพียงใด ก็ต้องตรวจสอบทั้งกรณีก่อนเข้ารับตำแหน่งและเมื่อพ้นจากตำแหน่ง         

น.ส.สุภา กล่าวว่า ใครที่ทำงานให้ราชการที่มีหน้าที่อนุมัติงบประมาณและเรื่องอื่น ๆ นั้น ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินทุกคน เราจึงกำหนดไว้เพราะมั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่มีช่องทางที่สามารถหยิบเงินของแผ่นดินไปได้ อย่างไรก็ตาม ในมุมของประชาชนก็สามารถให้ข้อมูลกับสำนักงานป.ป.ช.ประจำแต่ละจังหวัดได้ หากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐร่ำรวยผิดปกติ ไม่ต้องกลัวเพราะเราจะกันเป็นพยานไว้ และใครก็ตามที่ให้เบาะแสจนนำไปสู่การดำเนินการจนได้ขอยุติ ก็สามารถนำทรัพย์สินที่อายัดมาได้ส่วนหนึ่งมอบเป็นสินบนกับผู้ให้ข้อมูลดังกล่าวได้ ซึ่งระเบียบของป.ป.ช.เปิดช่องไว้ จึงอยากให้มีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง