ตร.ยังคุ้ยข้อสงสัยใบโอนหุ้น'ชูวงษ์'ยันลายเซ็นถูกต้อง

มีรายงานข่าวเกี่ยวกับชุดคลี่คลายคดีการตรวจสอบการโอนหุ้นอย่างมีพิรุธให้กับหญิงสาว 2 คน ของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างหมื่นล้าน โดยชุดคลี่คลายคดีของกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ยังคงพยายามหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบการคลี่คลายคดี โดยเฉพาะเอกสารการทำธุรกรรมที่มีลายเซ็นนายชูวงษ์ ซึ่งก่อนหน้านี้ชุดคลี่คลายคดีได้ส่งเอกสารไปให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้ว ผลปรากฏว่าเป็นลายเซ็นของนายชูวงษ์จริง แต่มีการปรับแก้ข้อความในเอกสารหลายอย่าง อาทิ จากการโอนเพื่อจดจำนอง ปรับแก้เป็นการโอนเพื่อจำหน่าย ซึ่งเอกสารฉบับนี้เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ชุดสืบสวนต้องเร่งหาข้อสรุป รวมทั้งเอกสารในใบคำถอน หรือโอนหลักทรัพย์ที่นายชูวงษ์ ได้มีการโอนหุ้นให้ น.ส.ศรีธรา พรหมา ก็ได้มีการแก้ไข ขีดฆ่าในเนื้อหาต่างๆ อย่างเช่น วันที่มีการแก้ไขจากวันที่ 5 มิ.ย.2558 เป็นวันที่ 8 มิ.ย. 2558 รวมทั้งด้านท้ายเอกสารที่มีการระบุชื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด ชื่อ น.ส.อุรชา ก็ได้ลงวันที่ 5 มิ.ย. 2558 เช่นกัน ซึ่งประเด็นนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบเนื่องจากพบว่ามีพิรุธและแก้ไขข้อความ เกี่ยวกับข้อสงสัยนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน และส่งตรวจพิสูจน์หาข้อเท็จจริง

รายงานข่าวระบุว่า ขณะเดียวกันชุดสืบสวน บก.ป. เตรียมส่งเอกสารการทำธุรกรรมอีก 2 ชุด ให้กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยง ในส่วนของคลิปเสียงนั้น เบื้องต้นให้คนที่มีความคุ้นเคยสนิทสนมกับนายชูวงษ์ฟังต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ใช่เสียงของนายชูวงษ์ แต่ทั้งนี้ เนื่องจากในทางวิทยาศาสตร์ไม่มีเสียงที่มีคุณภาพพอในการตรวจยืนยันเปรียบเทียบ แม้ว่าการฟังเสียงปกติจากหูเปรียบเทียบกัน จะพบความแตกต่างหลายประการก็ตาม ซึ่งประเด็นนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเบอร์โทรศัพท์ที่ทำธุรกรรมในวันนั้นเป็นของใคร และเกี่ยวข้องอย่างไรกับผู้ตาย รวมถึงการประมวลข้อมูลต่างๆที่ได้ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างน.ส.อุรชา น.ส.กัญฐนา พ.ต.ท.บรรยิน และผู้ตายว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไรในลักษณะใด 

ทั้งนี้ในวันจันทร์ที่ 3 ส.ค. นี้ ตัวแทนเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. จะเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ป.เพื่อให้ข้อมูลในประเด็นขั้นตอนการทำธุรกรรมโอนหุ้น. รวมทั้งสัปดาห์หน้าทางพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. จะเรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีทั้งในส่วนของทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และสรุปประเด็นร่วมกัน