นัดก.ตร.ถกด่วนพรุ่งนี้ จี้เคลียร์ปม 'ศรีวราห์' ร้อง

นัดก.ตร.ถกด่วนพรุ่งนี้ จี้เคลียร์ปม 'ศรีวราห์' ร้อง

"ประวิตร" นัดก.ตร.ถกด่วนพรุ่งนี้ จี้เคลียร์ปม "ศรีวราห์"ร้อง สีกากีวิจารณ์หึ่ง คาดกดดันบีบ ก.ตร.กลับมติถอนอุทธร์ทวีคูณ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) มีรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.)ได้สั่งการด่วน ให้นัดประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 10/2558 ขึ้นในเวลา 10.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม ที่ห้องศรียานนท์ อาคาร 1 ตร. เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วน ที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) คัดค้าน การลงมติของ ก.ตร. ที่มีการลงคะแนนลับ 2 ครั้ง ในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 8/2558 เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน อีกครั้ง ซึ่งผลการลงมติครั้งนั้น เสียงข้างมากให้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ ก.ตร.ถอนมติในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 9/2555 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2555 ที่เพิกถอนการได้รับสิทธิทวีคูณในการเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ พล.ต.ท.ศรีวราห์ เสียสิทธิในการได้เลื่อนตำแหน่งเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1” ในการแต่งตั้งวาระประจำปี 2553

อย่างไรก็ตาม ก.ตร.ได้พิจารณาเรื่องที่พล.ต.ท.ศรีวราห์ ร้องคัดค้านไปแล้วในการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 9/2558 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่าน แต่ ก.ตร. หลายคนแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และขอกลับไปทบทวนข้อกฎหมายอีกครั้ง ทำให้การประชุม ก.ตร. เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ยังไร้ข้อยุติ ก.ตร. มีมติให้เลื่อนการพิจารณาทั้งนี้ทันทีที่ประธาน ก.ตร.ทราบเรื่อง ได้สั่งให้นัดประชุมเพื่อหาข้อสรุปเรื่องนี้โดยด่วนที่สุดและสั่งกำชับให้ ก.ตร.ทุกคนเข้าประชุมพร้อมเพรียงกัน

มีรายงานว่า การนัดประชุม ก.ตร. เพื่อพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนนี้ เหล่าข้าราชการตำรวจและอดีตผู้บังคับบัญชาระดับสูง อดีต ก.ตร. ต่างตั้งข้อสังเกตุในเรื่องนี้ ว่า ทั้งๆที่ก.ตร.มีมติเสียงข้างมากให้อุทธรณ์ และได้อุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา อีกทั้งเมื่อ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ร้องเรียนต่อ พล.อ.ประวิตร ครั้งแรกว่าการประชุมลงมติอุทธรณ์นั้นมีายประเด็นไม่ชอบด้วยกฎหมายสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ตั้งคณะทำงานทบทวนข้อกฎหมาย และสรุปว่าการลงมติเป็นไปโดยชอบตามกฎหมายแล้ว แต่มีการท้วงติงจนนำไปสู่การนำเรื่องเข้าที่ประชุม ก.ตร. คล้ายมีความพยายามกดดันให้ ก.ตร.มีมติรับการคัดค้านของพล.ต.ท.ศรีวราห์ ว่าการลงมติของก.ตร.ในการประชุมครั้งที่ 8/2558 นั้นมิชอบด้วยกฎหมายเพื่อให้ก.ตร.มีมติพิจารณาอุทธรณ์อีกครั้ง และให้ดำเนินการถอนการอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ซึ่งหากก.ตร.ไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลาง จะมีผลทำให้ ก.ตร.ต้องรับคำพิพากษาศาลปกครองกลางดำเนินแก้ไขเยียวยา แต่งตั้งย้อนหลังให้แก่พล.ต.ท.ศรีวราห์ ซึ่งจะส่งผลให้พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้รับแต่งตั้งเป็น ผบช. ตั้งแต่ปี 2553 และในปัจจุบันต้องเป็น รอง ผบ.ตร. ยศ พล.ต.อ.ซึ่งจะส่งผลให้มีสิทธิได้รับการพิจารณาขึ้นเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป แต่หาก ก.ตร.ยังคงมีมติอุทธรณ์ ก็ต้องรอกระบวนการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ประเด็นนี้เหล่าข้าราชการตำรวจและอดีตตำรวจตั้งข้อสังเกตุว่าเหตุที่มีความพยายามใช้ช่องว่างการตีความ ระเบียบ ข้อบังคับ ข้อกฎหมาย และใช้สิทธิฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในช่วงนี้ เพื่อสร้างความกดดันให้แก่ ก.ตร. และผู้เกี่ยวข้องหวังผลให้มีมติตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ เนื่องจากผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้น เป็นที่ไว้วางใจ เป็นสายตรงของขั้วอำนาจที่มีบทบาทอย่างมากในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเวลานี้

รายงานข่าวระบุว่า ในการประชุมก.ตร.ครั้งที่ 9/2555 มีร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็นประธานก.ตร.ได้พิจารณาลงมติว่า จะเพิกถอนสิทธิการนับอายุราชการแบบทวีคูณ เพื่อใช้เลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น ซึ่งพล.ต.ท.ศรีวราห์ นำระยะเวลาปฏิบัติงานในช่วงที่ไปช่วยราชการที่กอ.รมน. ภาค4 มาใช้เป็นสิทธิ แต่ภายหลังถูกร้องว่า ห้วงดังกล่าวคาบเกี่ยวกับที่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ เรียน วปอ. โดย ก.ตร.ในวันนั้นร่วมลงมติ 18 คน โดยมีผู้งดออกเสียง 2 เสียง เสียงข้างมาก 13 เสียงให้ เพิกถอนสิทธิทวีคูณ ขณะที่เสียงข้างน้อย 3 เสียงให้ยืนยันสิทธิ โดยหนึ่งใน 3 เสียง มีพล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รอง ผบ.ตร.ในขณะนั้น ที่ปัจจุบันเป็นรองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ทำหน้าที่เลขาธิการประจำตัว พล.อ.ประวิตร และได้รับสิทธิเข้าร่วมประชุม ก.ตร.รวมอยู่ด้วย