'ยรรยง'ชี้ชาวนาถึงทางตัน เพราะราคาข้าวตกตํ่า-ฝนแล้ง

'ยรรยง'ชี้ชาวนาถึงทางตัน เพราะราคาข้าวตกตํ่า-ฝนแล้ง

“ยรรยง” ชี้ชาวนาถึงทางตันเพราะราคาข้าวตกตํ่าและฝนแล้ง ติงคนของรัฐบาลชอบอ้างเรื่องข้าวเน่า

นายยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสาเหตุที่ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่เดือดร้อนอย่างมาก บางคนจนถึงกับต้องฆ่าตัวตาย ว่ามีสองสาเหตุ คือ ราคาข้าวตกตํ่าอย่างต่อเนื่องและภาวะฝนแล้ง นับตั้งแต่รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหาร ราคาข้าวก็ตกตํ่าอย่างรุนแรงต่อเนื่อง เช่น ราคาข้าวเปลือกเจ้า5% ช่วงต้นปี 2557 ตันละ 9,500-11,000 บาท แต่ขณะนี้ราคาข้าวชนิดดังกล่าวที่โรงสีรับซื้อลดลงเหลือเพียงตันละ 7,700-7,800 บาท ที่ความชื้น 15% แต่ชาวนาขายได้จริงประมาณตันละ 6,500-7,500 บาทเท่านั้น เพราะข้าวเปลือกที่ซื้อขายกันมักจะมีความชื้นสูง ข้าวเปลือกหอมมะลิต้นปี 2557 ตันละ 15,000-16,500 บาท ขณะนี้ราคาตันละ 12,550-13,200 บาทเท่านั้น ส่วนราคาส่งออกข้าวก็ลดลงเช่นกันคือ ช่วงต้นปี 2557 ราคาข้าวสารเจ้า 5% FOB ตันละ 400-440 เหรียญสหรัฐ ขณะนี้ลดลงเหลือตันละ 360-370 เหรียญสหรัฐ เท่านั้น ทำให้ชาวนาขาดทุนมากทั้งๆที่ได้ผลผลิตลดลงเพราะประสบภาวะฝนแล้ง ทำให้ต้องกู้หนี้ยืมสินมากขึ้น

นายยรรยง กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาราคาข้าวตกตํ่า เพราะการบริหารจัดการข้าวที่ผิดพลาดของรัฐบาลปัจจุบัน คือ ไม่เร่งรัดระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลที่รับมาจากรัฐบาลที่แล้วประมาณ 18 ล้านตันเศษ ในช่วงหนึ่งปี ที่รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาบริหารประเทศขายข้าวได้เพียงประมาณ 2 ล้านตัน เท่านั้น (รัฐบาลที่แล้วขายได้เดือนละเกือบ 1 ล้านตัน) แม้แต่ขายข้าวแบบจีทูจีกับจีนที่อ้างว่าจะขายได้ 2 ล้านตัน ก็ยังไม่ได้ทำสัญญาซื้อขายเลย การที่รัฐบาลมีข้าวในมือมาก (ขณะนี้เหลือข้าวในสต็อกรัฐบาลประมาณ 16 ล้านตัน) ทำให้พ่อค้าใช้เป็นข้ออ้างทุบราคาข้าวลง  

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวตกตํ่าอีกประการหนึ่งคือการให้ข่าวของคนของรัฐบาลหรือหน่วยงานของรัฐเองว่า ข้าวในสต็อกรัฐบาลมีคุณภาพตํ่า ซึ่งตรงข้ามกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญข้าวตัวจริงคือเจ้าของโกดังเองหรือโรงสี ก็มีผลทางจิตวิทยาทำให้ราคาข้าวตกตํ่าทั้งตลาดในประเทศและตลาดโลกด้วย

อดีต รมช.พาณิชย์ ยังชี้แนะเกี่ยวกับกรณีที่รัฐบาลกำลังจะนำข้าวที่อ้างว่าเสื่อมคุณภาพประมาณ 1 ล้านตัน ออกขายราคาถูกเพื่อให้ผู้ซื้อนำไปแปรสภาพเป็นพลังงาน ว่า ควรตรวจสอบคุณภาพให้ละเอียดก่อน เพราะการที่จะขายข้าวในสภาพดังกล่าวจะต้องเป็นข้าวที่ไม่สามารถปรับปรุงเพื่อบริโภคได้อย่างแท้จริงเท่านั้น ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จะต้องมีผู้รับผิดชอบตามสัญญา เช่น เซอร์เวย์เยอร์หรือเจ้าของโกดังแล้วแต่กรณี  

อดีต รมช.พาณิชย์ ได้ให้ข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาลที่ผ่านมามีข้อเท็จจริงที่ชัดเจนว่าทำให้ราคาข้าวสูงขึ้นทั้งภายในประเทศและตลาดต่างประเทศ ทำให้ชาวนามีรายได้สูงขึ้นทั้งที่เข้าร่วมโครงการและขายข้าวนอกโครงการ นับเป็นหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าโครงการรับจำนำข้าวทำให้กลไกตลาดเข้มแข็งขึ้นเนื่องจากชาวนามีอำนาจต่อรองเพิ่มขึ้น โดยเห็นได้จากราคาข้าวที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  

นายยรรยง ได้กล่าวว่า เพื่อแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกตํ่าในขณะนี้ รัฐบาลควรเร่งรัดวางแผนระบายข้าวให้มากที่สุดในช่วงหลายเดือนที่ประสบภาวะฝนแล้งและยังไม่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ทั้งนี้เพื่อลดสต็อกข้าวที่จะเสื่อมสภาพตามเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาและป้องกันไม่ให้ราคาข้าวตกตํ่าต่อไป โดยรัฐบาลควรจะต้องหามาตรการช่วยเหลือเยียวยาชาวนาในช่วงนี้โดยเร็วที่สุด