'ไพบูลย์'เคาะใช้ม.44 เล่นงานเด็กแว้น

'ไพบูลย์'เคาะใช้ม.44 เล่นงานเด็กแว้น

"ไพบูลย์"เคาะใช้ม.44 เอาผิดเด็กแว้นตั้งแต่ชั้นตระเตรียมนัด พบมั่วสุมแข่งรถให้ริบรถของกลาง

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหารือมาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถในทางสาธารณะและการจัดระเบียบสถานบริการ สถานประกอบการ เพื่อใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวในการแก้ปัญหาดังกล่าว ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปในส่วนของกลุ่มแข่งรถทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์ทุกประเภท ไม่เจาะจงเฉพาะเด็กเยาวชนแต่รวมถึงผู้ใหญ่ด้วย  โดยผู้ที่ขับขี่จะมีมาตรการเอาผิดตั้งแต่ชั้นตระเตรียม

หากพบว่ามีการมั่วสุมหรือรวมกลุ่มเพื่อแข่งรถสามารถบังคับใช้กฎหมายเพื่อยับยั้งและริบรถของกลางมาเก็บรักษาไว้ หากรถที่ริบไว้มีการดัดแปลงเจ้าของต้องปรับสภาพรถให้เหมือนเดิมก่อนรับคืน สำหรับกรณีที่มีการใช้สื่อโซเชียลนัดรวมกลุ่มให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งปิดช่องทางสื่อสารทันที รวมถึงถือว่าผู้ที่อยู่ในบริเวณเดียวกับการรวมกลุ่มหรือมั่วสุมในลักษณะส่อเพื่อแข่งรถต้องถูกดำเนินการด้วย ยกเว้นพิสูจน์ได้ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการแข่งรถจริง สำหรับการดำเนินการกับผู้ปกครองและร้านอุปกรณ์แต่งรถให้บังคับใช้ตามกฎหมายที่มีอยู่อย่างเคร่งครัด

รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงมาตรการจัดระเบียนสถานบันเทิงสถานประกอบการว่า แบ่งเป็น 2 ระยะ  โดยระยะสั้นเป็นกรณีสถานบันเทิงตั้งอยู่ใกล้สถานศึกษาให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้ใช้ดุลยพินิจตัดสินใจ เนื่องจากยังไม่สามารถกำหนดระยะห่างที่เหมาะสมได้ แต่ในระยะยาวกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงการคลัง กระทรวงศึกษาธิการ จะต้องหาข้อสรุประยะห่างระหว่างสถานศึกษากับสถานบันเทิงที่ชัดเจนว่าควรอยู่ที่ระยะเท่าใด เพราะที่ผ่านมาโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีปัญหาสถานบันเทิงตั้งอยู่ก่อนสถานศึกษาอาจส่งผลกระทบกับธุรกิจของคนบางกลุ่ม ทั้งนี้สำหรับสถานบันเทิงหรือสถานบริการให้รวมถึงเพิงหรือเต้นท์ที่เปิดให้บริการด้วย เบื้องต้นแยกได้เป็น 2 กลุ่ม คือ

กลุ่มสถานบันเทิงใกล้สถานศึกษากับกลุ่มสถานบันเทิงทั่วไป ในกลุ่มสถานบันเทิงใกล้สถานศึกษาหากพบว่ามีการทำผิดกฎหมาย เช่น เปิดเกินเวลาส่งเสียงดังก่อความรำคาญจำหน่ายแอลกอฮอล์เกินเวลา ไม่มีใบอนุญาต จะต้องถูกปิดกิจการถาวร แต่หากเป็นกรณีสถานบันเทิงทั่วไปจะถูกสั่งปิด 5 ปี อย่างไรก็ตาม เจ้าของอาคาร สถานที่ที่ปล่อยให้ผู้เช่านำไปทำสถานบันเทิงใกล้สถานศึกษาต้องมีส่วนรับผิดชอบ โดยจะต้องถูกสั่งปิดสถานที่ป้องกันการเปลี่ยนมือผู้เช่าแล้วถูกนำไปเปิดเป็นสถานบันเทิงอีก

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันนี้ นายธีรภัทร คหะวงศ์ ผู้ประสานเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมกลุ่มนักเรียน นักศึกษากว่า 30 คน เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงรมว.ยุติธรรม เพื่อเรียกร้องให้มีการกวดขันจริงจับกับปัญหาเด็กแว้นและสถานบันเทิงใกล้สถานศึกษา โดยมีข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ประกอบด้วย 1 ขอให้ผลักดันกฎหมายห้ามขายแอลกอฮอล์รอบมหาวิทยาลัย เพิ่มเติมจากรัศมี 300 เมตร เป็น 500 เมตร 2 ขอให้เปิดช่องทางในการรับแจ้งเหตุกรณีเด็กแว้นและปัญหาร้านเหล้า และ 3 ขอให้ช่วยผลักดันให้สถานศึกษาตระหนักถึงพิษภัยพร้อมเปิดพื้นที่กิจกรรมให้เป็นทางเลือก