นายกฯปรับงบฯเจาะบ่อบาดาลเพิ่มเป็น 1 พันแห่ง แก้ภัยแล้ง

นายกฯปรับงบฯเจาะบ่อบาดาลเพิ่มเป็น 1 พันแห่ง แก้ภัยแล้ง

นายกฯเผยปรับงบ สั่งเจาะน้ำบาดาลเพิ่มจาก 500 แห่งเป็น 1,000 แห่ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ว่า การประชุมครั้งนี้มีทั้งวาระเพื่อทราบและเพื่อพิจารณา โดยจุดประสงค์ในการประชุมนอกสถานที่เพื่อเยี่ยมเยือน รับทราบปัญหาในเรื่องการบริหารจัดการที่ต้องมีการพูดคุยกับผู้ปฏิบัติในพื้นที่ว่า สิ่งที่รัฐบาลได้กำหนดนโยบายมีเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งวันนี้ได้เน้นเรื่องการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เรามาดูตั้งแต่พื้นที่ต้นน้ำ โดยสมัยก่อนน้ำก็มีการไหลลงไปตามปกติ แต่วันนี้พอฝนไม่มาก็ต้องมีการสำรวจในพื้นที่ต้นน้ำพบว่าแห้งแล้งเพราะป่าน้อยลง โดยที่ผ่านมามีการทำฝนเทียมมากว่า 2,000 ครั้ง แต่ได้ปริมาณฝนไม่มากเพราะมีปริมาณเมฆน้อย อากาศยังแห้งแล้งอยู่ ฉะนั้นฝนที่ตกลงมาอาจทำให้แผ่นดินชุ่มฉ่ำ แต่ยังปลูกพืชไม่ได้ สิ่งที่ตนคิดให้เร็วๆ คือ จะดูว่าปรับแก้งบประมาณในส่วนไหนได้บ้าง ซึ่งมีการปรับบางส่วนในเรื่องการทำน้ำบาดาลที่จะต้องเพิ่มจาก 500 แห่งเป็น 1,000 แห่ง

นายกฯ กล่าวอีกว่า ฝากชาวเมืองทุกจังหวัดใช้น้ำอย่างประหยัด ต้องนึกถึงเกษตรกร ถ้าผลผลิตที่เป็นพืชเศรษฐกิจของเราถ้าไม่สามารถปลูกได้จะทำให้ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม รายได้จากการท่องเที่ยวก็เอาไม่อยู่และขอเตือนว่าน้ำบาดาลไม่ได้ใช้ในการทำเกษตร แต่จำเป็นต้องทำให้พื้นที่ที่เพาะปลูกไปแล้ว เพราะเราได้เตือนไปแล้ว แต่จะไม่ช่วยก็ไม่ได้ ทำได้แค่ไหนก็ต้องแค่นั้น ไม่ใช่จะให้ทำได้แบบปกติ อีกส่วนหนึ่งคือกลุ่มที่ยังไม่ได้ปลูกรอบแรกนั้นจะทำอย่างไร เพราะเคยปลูก 2 รอบ ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งตอนบนและตอนล่าง

เมื่อทำไม่ได้ ก็ต้องไปหาอาชีพอื่น ซึ่งวันนี้เขาก็ทำไปปลูกถั่ว ปลูกงา ทำกิจกรรมอื่นๆ โดยวันนี้ต้องทำวิกฤตให้เป็นโอกาสในการจัดสรรพื้นที่การปลูกให้เหมาะสมกับพืช โดยวันนี้ตนได้สั่งการไปแล้วว่าจะต้องเพิ่มพื้นที่ชลประทานอีกร้อยละ 10 ของพื้นที่เดิม ภายในปี 2559 อย่างไรก็ตามจากพื้นที่เพาะปลูก 137 ล้านไร่ จะสามารถเพาะปลูกได้เพียงร้อยละ 40 ฉะนั้นต้องดูว่านอกเขตพื้นที่ดังกล่าวจะทำอย่างไร จึงจะนำไปสู่การโซนนิ่งพื้นที่ กำหนดการปลูกพืชให้เหมาะสม เป็นพืชที่ใช้น้ำน้อย และต้องกำหนดอุปสงค์อุปทานในประเทศและการส่งออก รวมถึงเพิ่มการแปรรูปให้มากขึ้น และจะต้องมีความเชื่อมโยงในทุกระดับ และสร้างทั้งระบบให้มีความเข้มแข็ง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังต้องพัฒนาในเรื่องระบบขนส่ง ถนน ทางรถไฟต่างๆ ซึ่งต้องเป็นไปตามห้วงเวลาที่เราสามารถดำเนินการได้ ขณะนี้รัฐบาลได้มีการเริ่มดำเนินการไปแล้วอะไรที่ทำได้ก็ทำอะไรที่ทำไม่ได้ก็ส่งให้รัฐบาลต่อไปรัฐบาลหน้ารับไปทำ เพราะต้องใช้งบประมาณสูง ต้องมีการศึกษาวิจัย และทำประชาพิจารณ์ ไม่ใช่อยู่ดีๆสร้างได้เลย แต่ปีนี้ที่สามารถทำได้ก่อนมีเพียงการก่อสร้างรถไฟความเร็วปานกลางไทย-จีน

ส่วนต่อไปจะมีการเดินหน้าในเส้นทางรถไฟสายเหนือซึ่งมีการพูดคุยกับญี่ปุ่นแล้ว สำหรับรถไฟทางคู่ในประเทศเราจะใช้งบประมาณของเราเอง โดยทั้งหมดนั้นเป็นอนาคตอย่าคิดว่าที่เราวางแผน 3 ล้านล้านบาท จะนำมาใช้วันเดียว ต้องไปว่ากันต่อในรัฐบาลหน้า อย่ากังวลเรื่องนี้ เราทำอย่างโปร่งใสที่สุด ไม่เหมือนที่ผ่านมาที่ไม่ชัดเจน

ส่วนโครงการสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ 46 โครงการที่มีการเสนอเข้าที่ประชุมวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของแต่ละกระทรวง ซึ่งจะมีการพิจารณาในทุกจังหวัดที่เสนอมาและกระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้รวบรวมมาให้ ซึ่งบางโครงการก็รับได้ แต่บางโครงการก็ต้องชะลอไว้ก่อน ตนไม่สามารถให้ได้ทั้งหมด 46 โครงการ ถ้าเรามีรายได้ดีจะเอาอะไรก็ได้ วันนี้ตนกำลังทำให้ประเทศมีรายได้ดีขึ้น