“โตเกียว” เมืองน่าอยู่ที่สุดแห่งปี 2015

 “โตเกียว” เมืองน่าอยู่ที่สุดแห่งปี 2015

ถ้าพูดถึงร้านอาหาร บาร์และสถานบันเทิงยามค่ำคืน

 แน่นอนว่าเมืองแห่งแสงสีเสียงอย่างนครนิวยอร์กและลอนดอนต้องผุดขึ้นมาในใจทันที


แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในมหานครใหญ่ๆ ดังกล่าวมันอาจจะกลายเป็นคนละเรื่องเดียวกันเลย


เพราะถ้าพูดถึงเมืองที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีจริงๆแล้ว จากผลการสำรวจล่าสุดพบว่ากรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่คนมีคุณภาพชีวิตดีที่สุด


ในการสำรวจคุณภาพชีวิตประจำปี 2015 ของนิตยสาร Monocle มีการจัดอันดับเมืองน่าอยู่ของเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก 25 เมืองโดยประเมินจากตัวชี้วัด 22 ตัว


เมื่อพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น จำนวนเส้นทางบินระหว่างประเทศที่เชื่อมต่อกับเมืองอื่นๆ ในโลกไปจนถึงจำนวนห้องสมุดประชาชน ผลสำรวจที่พบในปีนี้ถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากนับจากการสำรวจครั้งแรกในปี 2007


นอกจากนี้ การสำรวจในปีนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีการรวมปัจจัยชี้วัดเรื่องความมีเสรีภาพของผู้อยู่อาศัยด้วย


ผลการสำรวจในปีนี้พบว่ากรุงโตเกียวซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ราว 13.35 ล้านคนได้รับการโหวตให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดแห่งปี


Monocle ระบุว่ามหานครอย่างโตเกียวมีการจัดการบางอย่างที่เมืองอื่นๆ ไม่สามารถทำได้นั่นคือ การนำเสนอคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ที่นั่นและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน


สำหรับเมืองน่าอยู่ 5 อันดับแรกรองลงมาจากโตเกียว ได้แก่ กรุงเวียนนา ออสเตรีย กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เมืองเมลเบิร์น และเมืองซิดนีย์ ออสเตรเลีย
ตามสถิติของผลสำรวจพบว่า ไม่เพียงแต่โตเกียวจะพยายามทำให้เมืองเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ประชากรจำนวนร้อยละ 19.5 ยังนิยมขี่จักรยานไปทำงาน และค่าครองชีพก็อยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผลเมื่อเทียบกับขนาดของเมือง


ในความเป็นจริง จ่ายเพียงแค่ 300 บาทก็ได้อาหารกลางวันรสเลิศหนึ่งมื้อแล้ว


การติดอันดับหนึ่งของโตเกียวอาจจะไม่เป็นที่น่าแปลกใจเพราะปีที่แล้ว โตเกียวอยู่อันดับ 2


ในขณะที่มหานครใหญ่อย่างลอนดอนและนิวยอร์กกลับไม่ติดอันดับเมืองน่าอยู่ในจำนวนเมืองที่มีการสำรวจ 25 อันดับ


กรุงเวียนนาไต่ขึ้นมาจากอันดับ 6 ปีที่แล้วมาเป็นเมืองน่าอยู่อันดับที่ 2 ในปีนี้ โดยสาเหตุหลักมาจากความภาคภูมิใจของชาวเมืองที่สะท้อนให้เห็นบนท้องถนนที่เก่าแก่และสวนสาธารณะที่มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี


กรุงเบอร์ลินก็ทำคะแนนได้เยี่ยมในปีนี้โดยก้าวกระโดดขึ้นมาจากอันดับที่ 14 มาเป็นอันดับ 3 ไม่เพียงแต่มันจะเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งศิลปะและวัฒนธรรม แต่ค่าครองชีพยังไม่แพงด้วย โดยค่าเดินทางต่อเดือนตกอยู่ที่ 3,200 บาท


ส่วนอีก 2 เมืองในออสเตรเลียที่กลายเป็น 2 ใน 5 อันดับแรกของปีนี้ก็เนื่องมาจากเป็นเมืองที่มีจำนวนชั่วโมงของแสงแดดยาวนานเป็นประจำทุกปีและตั้งอยู่ริมน้ำที่งดงามและเงียบสงบ


ส่วนเมืองในสหรัฐอเมริกามีเมืองเดียวที่ติดอันดับเมืองที่มีการสำรวจครั้งนี้คือพอร์ตแลนด์ในรัฐโอเรกอนซึ่งตกไปอยู่อันดับที่ 25


....................
ที่มา เว็บไซต์เดลี่ เมล