เปิดใจครั้งแรก! กลยุทธ์'เสธ.แดง' ปราบมาเฟียสลากฯ

เปิดใจครั้งแรก! กลยุทธ์'เสธ.แดง' ปราบมาเฟียสลากฯ

สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล

พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะประธานคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ให้สัมภาษณ์พิเศษรายการ “ชั่วโมงที่ 26” ทีวิดิจิตอล “ช่องนาว” (NOW 26) เจาะลึกถึงภารกิจการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา โดยกำหนดว่าในงวดวันที่ 16 มิ.ย. 2558 ราคาสลากฯจะต้อง 80 บาทเท่านั้น

โดยผู้ขายจะมาเอาสลากงวดวันที่ 16 มิ.ย. ช่วงระหว่างวันที่ 3 – 4 มิ.ย.2558 นี้ ที่ประชุมบอร์ดตัดสินใจลดต้นทุนจากเดิม 74.40 เป็น 70.40 และยกเลิกรางวัลแจ็กพ็อต เพราะรางวัลแจ็กพ็อตเป็นส่วนหนึ่งของแรงจูงใจให้เกิดการจัดรวมชุดขายหลาย ๆ ใบ ถือเป็นเรื่องธรรมดาของคนอยากเสี่ยงโชค เพราะอยากได้รางวัลสูงเพราะอยากถูกทั้ง 10 - 15 ใบ ซึ่งแรงจูงใจดังกล่าววัดเป็นตัวเงินไม่ได้เพียงแต่เป็นความพึงพอใจ อยากให้สลากฯขาย 80 บาท ก็ต้องเฉลี่ยความพึงพอใจให้ทั่วถึงกัน จึงตัดสินใจยกเลิกรางวัลแจ็กพ็อต และนำรางวัลมามาเกลี่ยให้กับรางวัลที่ 1 ซึ่งตามปกติ รางวัลที่ 1 มีท่อนล่างท่อนบน ซึ่งได้ท่อนละ 2 ล้านบาท รวมเป็น 4 ล้านบาท แต่เราได้เพิ่มมาเป็น 6 ล้าน โดยรางวัลที่ 1 จะมีถึง 37 ใบ โดยจากการพิมพ์ทั้งหมด 37 ล้านใบ อย่างน้อยถือเป็นการแก้ไขปัญหาการรวมชุดได้ระยะหนึ่ง


เมื่อถามว่า การลดต้นทุนให้เหลือฉลับละ 70.40 บาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวใครคำนวนว่าเป็นตัวเลขที่เหมาะสมที่สุดแล้ว? พล.ต.อภิรัชต์ อธิบายว่า กระบวนการคิดต้องขอบคุณคณะกรรมการสลากกินแบ่งชุดเดิมที่ได้ทำงานมาด้วยความเหนื่อยยาก และความพยายามในการแก้ไขปัญหา ซึ่งแนวความคิดต่าง ๆ สืบเนื่องกันมา แม้แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึงรองนายกรัฐมนตรี ช่วยกันระดมความคิดกันหลายอย่าง ว่าทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหาได้ 

เมื่อถามว่า แนวทางดังกล่าวไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า มีกระบวนการทางความคิด และได้มีการศึกษา แต่การตัดสินเป็นเรื่องของบอร์ดที่จะตัดสินใจ เดิมเรานึกย้อนไปว่าสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การปรับราคาล็อตเตอรี่เป็น 80 บาท ได้เกิดขึ้นในปี 2538 ขณะนี้ผ่านมา 20 ปีแล้ว ต้นทุนในขณะนั้นราคาเท่าไหร่

“สนง.สลากฯ เสนอแนะไปว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ให้เป็นเงินรางวัลเหมือนเดิม ราคาขาย 80 บาท ซึ่งอย่าลืมว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นสมบัติของรัฐ เป็นผลิตภัณฑ์ของรัฐบาล มีราคาต้นทุนที่ชัดเจน มีการ รัฐยอมตัดส่วนลดลงไปที่จะเข้าคลัง 20 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออีก 20 เปอร์เซ็นต์ แยกเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ เป็นค่าบริหารจัดการของสำนักงานสลากฯเพื่อเป็นค่าการตลาดต่าง ๆ อีก 3 เปอร์เซ็นต์จัดตั้งเป็นกองทุนขึ้นมา ชื่อกองทุนสำนักงานสลากกินแบ่งเพื่อพัฒนาสังคม ส่วนอีก 2 เปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนลดเช่นเดิมให้กับมูลนิธิองค์กร นิติบุคคล สมาคม ผู้ว่าราชการจังหวัด คลังจังหวัด ที่เหลืออีก 12 เปอร์เซ็นต์คือส่วนลด ทำให้ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลในงวดที่จะขายต้นเดือน มิ.ย.นี้ จาก 80 บาท เหลือเพียง 70.40 บาท ซึ่งผู้ค้ารายย่อยก็จะได้เกือบ 10 บาท”


พล.ต.อภิรัชต์ อธิบายต่อว่า ผู้ค้ารายย่อยนำไปขายได้กำไรเกือบ 10 บาท ถ้าเกือบ 10 บาทที่รับไป ขายจริง มันจะต้องอยู่ได้ ส่วนมูลนิธิองค์กรการกุศลต่าง ๆ รับไปในราคาต้นทุน 68.80 บาท นิติบุคคลบางแห่งการตลาดเอง หรือมีเครือข่ายที่ขออนุญาตไว้ตามเงื่อนไขกับทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็ถือว่าต้นทุน 68.80 บาท ฉะนั้นผมคิดในแง่ของนักการตลาด ที่ได้ปรึกษากับนักวิชาการหลายท่าน จริง ๆ ต้นทุนต้องเอา 68.80 บาท บวก 70.40 บาท และหาร 2 เพื่อเป็นค่าเฉลี่ย ซึ่งไม่ถึง 70 บาท แต่อยู่ที่ประมาณ 69 บาทกว่า กำไรมากกว่า 10 บาท ซึ่งถือว่ากำลังดี


เมื่อถามว่า มีการพูดถึงนายกรัฐมนตรีหลายครั้ง แสดงว่านายกรัฐมนตรีให้ความสนใจเรื่องนี้มาก อะไรทำให้นายกรัฐมนตรีคิดว่าเรื่องล็อตเตอรี่เป็นเรื่องใหญ่ ถึงจะต้องลงมากำชับและให้แนวทางด้วยตัวเอง?
พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตั้งแต่ได้รู้จักกับท่าน และท่านได้ดำรงตำแหน่งอยู่ในกองทัพในทุกตำแหน่ง ตนกราบเรียนได้เลยว่า ท่านเป็นคนที่คิดถึงกำลังพลมาก คิดถึงกำลังพลชั้นผู้น้อยเป็นหลัก สั่งให้ไปดูแลลูกน้องให้ดี ไปดูผู้ใต้บังคับบัญชาให้ดี ไปดูแลครอบครัวเขา ขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ในกองทัพ กำลังพลชั้นผู้น้อย และ ครอบครัว จะได้รับการดูแลอย่างดีไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก หรือสวัสดิการต่าง ๆ ท่านใส่ใจแม้กระทั่งโครงการเด็กที่มีความสำคัญพิเศษ เรื่องล็อตเตอรี่มันเกี่ยวกับประชาชน เมื่อท่านมาเป็นนายกรัฐมนตรีก็มองเห็นประชาชนว่าประชาชนเดือดร้อน เพราะคนขายกับคนซื้ออัตราส่วนมันแตกต่างกันมาก คนบริ โภคล็อตเตอรี่หรือสลากกินแบ่งมีปริมาณกว่าคนขาย แต่มันถูกเอาเปรียบมาตลอด เพราะว่าจะไปซื้อคนขายบอกว่าไม่ขาย 80 บาท แต่จะขาย 100 บาท


“อันนี้เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกมองว่าทำไมมันถึงแพง ทุกยุคทุกสมัยทำไมมันแก้ไม่ได้ เราต้องย้อนมาต้นทาง เดิมทีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กำกับดูแลด้วยกระทรวงการคลังมาโดยตลอด และตัวปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้มาทำหน้าที่เป็นประธานสำนักงานสลากฯ หรือผู้แทนจะเป็นท่านอธิบดี หรือกระทรวงการคลังเป็นผู้แต่งตั้งมา ซึ่งเรื่องนี้ผ่านมาแล้วก็ไม่อยากพูดถึง แต่เราขอร้องว่าท่านผู้ที่เกี่ยวข้องที่เคยอยู่ในกลไกอันนี้รู้ดีว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้น ท่านทราบดี เพราะฉะนั้นก็กราบเรียนว่ารัฐบาลนี้ต้องการความปรองดอง นายกรัฐมนตรีต้องการความปรองดอง บัดนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่ โดยที่ไม่มีต้นทุนแฝง คือ 70.40 บาท ก็คือ 70.40 บาท ใครจะมาบอกว่ารับมาจากสำนักงานสลากกินแบ่งก็ 75-80 บาทแล้ว จะไม่มีแล้ว เพราะเป็นตัวเลขได้ประกาศอย่างเป็นทางการ ทุกคนจะต้องรับรู้” พล.ต.อภิรัชต์ กล่าว


เมื่อถามว่า จะเกิดอะไรขึ้นนับจากนี้ไป จะมั่นใจได้อย่างไรว่า ราคาที่จะให้ขาย 80 บาท จะเกิดขึ้นได้ ?
พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตั้งแต่มีการประกาศคำสั่งของ คสช.ที่ 11 ที่แต่งตั้งคณะกรรมการ และมีแนวทางในการแก้ไขปัญหากับมาตรการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนเชื่อว่าความตื่นตัวของผู้ขาย และยี่ปั๊ว และกลไกในการจำหน่ายสลากกินแบ่งทั้งหมดมีการตื่นตัว เพราะบทลงโทษครั้งนี้มันชัดเจน 1.มอบหมายให้ ผบ.ทบ. หรือ แม่ทัพภาค สามารถเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญาใช้มาตรา 44 อีกทั้งนายกรัฐมนตรีก็บอกว่าจะต้องดำเนินการอย่างจริงจัง จึงได้มีคำสั่งในที่ 11 ระบุในเรื่องการใช้ประมวลกฎหมายรัษฎากร และกฎหมายการปราบปรามการทุจริตและการฟอกเงิน โดยในโครงสร้างของบอร์ดปัจจุบันได้เพิ่มมาอีก 2 กระทรวง คือ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กับกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ซึ่งที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2517 ไม่เคยมี และตั้งแต่ปี 2517 ถึงปัจจุบันใน พรบ.ก็ไม่เคยมีการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งจริง ๆ สลากกินแบ่งรัฐบาลต้องมองว่ามันถูกเอาไปใช้ในเรื่องการช่วยเหลือสังคม

“ประสิทธิภาพของกฎหมายที่จะนำมาใช้ เมื่อเราจับคนที่ไม่ได้ขาย 80 บาท จะมีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท โดยผมได้จัดชุดเฉพาะกิจจำนวน 10 ชุด ซึ่งผมคิดว่า 10 ชุด เพียงพอ ผมไม่ต้องการคนเยอะ คนน้อยแต่มีประสิทธิภาพ และทำงานให้ผมได้เร็ว ตอบสนองได้เร็ว เข้าใจในคำสั่งและเจตนารมณ์ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งทั้ง 10 ชุด จะลงพื้นที่ตรวจสอบคนขายล็อตเตอรี่ โดยจะถามว่ารับมาจากใคร เราจะกันคุณไว้เป็นพยาน และจะย้อนรอยไปว่าคุณรับมาจากใคร สลากกินแบ่งรัฐบาลก็เหมือนกับธนบัตร เหมือนกับเงิน อยู่ ๆ ไม่ได้เดินมาหา แต่คุณก็จะต้องรู้ว่าไปเอามาจากใคร คุณจะยอมติดคุก 1 เดือนหรือไม่ เราไม่ได้รังแกคุณ เราจะใช้ประมวลกฎหมายรัษฎากร ซึ่งเป็นอันที่รู้ว่าเป็นกฎหมายปราบมาเฟีย คุณจะทำธุกิจอะไรของคุณอย่างไร เสียภาษีอย่างไร คนใกล้ชิดที่ถือทรัพย์สินแทนคุณ ธุรกิจอย่างอื่นที่คุณไปลงโทษไปเอาเงินมาจากไหน คุณเสียภาษีอย่างไร ผมเพิ่งไปทำงานวันแรกเมื่อวานนี้ ( 19 พ.ค.) แต่ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการศึกษา และมีการทำใต้ดินและบนดิน ”


ประเด็นที่ว่า ตอนนี้คงมีข้อมูลเยอะ รู้ใช่มั้ยว่าใครเป็นใครในวงการนี้ มีเสือหลายตัวที่นอนเกินที่ได้โควต้าสลากมา และใครเป็นตัวการที่ทำให้ราคาแพง ?
ประธานบอร์ดสลากฯ ตอบว่า ทราบครับ ทราบหมดทุกอย่างครับ แต่เชื่อว่าทุกคนจะได้รับโอกาส ในเมื่อสิ่งที่อ้างมาว่าต้นทุนแพง ท่านรับมาแพง ท่านไปเคยจ่ายคอมมิชั่นใครมา แต่ปัจจุบันท่านต้องปรับตัว ได้ให้เวลาปรับตัวมา 2-3 งวดแล้ว มีการส่งสัญญาณชัดเจนไปแล้วตั้งแต่มีคำสั่ง คสช.ออกมา ท่านจะต้องปรับตัว ท่านมีโควต้า สมมติว่ามี 1 ล้านฉบับ ท่านได้คอมมิชชั่นบวกแล้ว จากการรับมา 68.80 บาท จะเป็นมูลนิธิ สมาคม นิติบุคคล ท่านบวก 1 บาท ก็เป็น 69.80 บาท หรือ ตีไป 70 บาท ท่านบวก 1 บาท มีล้านฉบับ ถามว่า 1 งวด ท่านก็ได้ 1 ล้านบาทแล้ว ได้มาแบบไม่ต้องลงทุนแล้ว 1 เดือนมี 2 งวด ก็ได้แล้ว 2 ล้านบาท ถามว่าพอหรือไม่ สำหรับคนที่อยู่เฉย ๆ จากเดิมที่ไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่ไปบวกกัน 5-6 บาท ทำให้ปลายทางไปขายก็แพงขึ้น ฉะนั้นต่อไปนี้ทำแบบนี้ไม่ได้ท่านจะต้องมีการปรับตัว ถ้าไม่ปรับตัวก็อยู่ในธุรกิจนี้ไม่ได้ ต้องให้โอกาส และปรับตัว โดยผมจะเล่นงานตามกฎหมายอย่างแน่นอน ผมจะยึดโควต้า


ที่ผ่านมาคนที่ดูแลกองสลากทำไมถึงทำไม่ได้อย่างที่ท่านจะทำเป็นเพราะอะไร ?
พล.ต.อภิรัชต์ บอกว่า ผมคิดว่ามีองค์ประกอบหลายอย่างเชื่อว่าคนที่มานั่งเป็นผู้บริหารทุกระดับ คงมีความตั้งใจจริงที่จะทำงาน ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน หรือ เจ้าหน้าที่ในกองสลาก ขณะนี้ที่ทำงานอาจจะมองว่า รัฐบาลทหารจะอยู่นานหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ จะดูแลประเทศอีกนายมั้ย บางคนอาจเกียร์ว่างไว้ก่อน เดี๋ยวจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งตรงนี้ต้องเห็นใจเขา แต่ข้าราชการทุกคน หรือเจ้าหน้าที่ทุกคนคิดแบบนี้ ประเทศเดินไปไม่ได้ นายกรัฐมนตรีปราถนาที่จะขับเคลื่อนประเทศ และทำทุกอย่างให้ประเทศแข็งแรง แข็งแกร่ง โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นกลไกหลัก ซึ่งไม่ใช่เฉพาะในองค์ของสำนักสลากกินแบ่งเท่านั้น แม้แต่ประชาชน ก็อย่าไปร่วมมือ หรือเป็นต้นเหตุ หรือเป็นสาเหตุของการทุจริต ถ้าคนมาขายเกิน 80 บาท ท่านอย่าซื้อ ถ้าไม่ซื้อเสียอย่างก็ขายไม่ได้ และคนเสียหายก็ไม่ใช่รัฐเสียหาย เพราะรัฐไม่รับซื้อคืน รัฐไม่มีนโยบายรับซื้อคืน ดังนั้นคนที่เสียหายคือ คนขาย ถ้าไม่ขายตามกลไกตลาด จะเป็นพวกยี่ปั๊ว บวก 50 สตางค์ หรือ 1 บาท และไปถึงคนสุดท้าย อย่าฉวยโอกาส ทั้งนี้ค่าแรงขั้นต่ำคนไทย 300 บาท 1 เดือน ได้ 9 พันบาท หมายถึง 30 วันคูณ 300 บาท ซึ่งท่านทำงาน 30 วัน แต่จำหน่ายสลากกินแบ่งทำงานไม่เกิน 10 -12 วันต่อเดือน ท่านอาจจะได้ 7-8,000 บาท ท่านควรจะมองตรงนี้เป็นอาชีพเสริมไม่ใช่อาชีพหลัก


ถาม-เท่าที่มาศึกษาดูงานแล้ว หากไม่ได้เป็นทหาร และไม่ใช่เป็นคนที่ คสช.ส่งมา หรือในภาวะบรรยากาศบ้านเมืองไม่ได้เป็นปกติ คนที่มาดูแลกองสลากจะมาทำงานอย่างที่ท่านทำได้หรือไม่
พล.ต.อภิรัชต์ บอกว่า ผมว่าขึ้นอยู่กับเครื่องมือ แต่เป็นจังหวะที่ผมลงมา นายกรัฐมนตรีได้ให้เครื่องมือ มาตรา 44 มาใช้การแก้ไขปัญหา และมีแรงหนุนจากผู้นำสูงสุดของประเทศถือว่าสำคัญมาก เพราะว่าทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับผู้นำ กำลังจะเปิดฮอตไลน์ แต่ขอดูกลไก และดูสักงวดหนึ่งก่อนคือในวันที่ 16 มิ.ย.นี้ ทหารเวลาทำงานมีขั้นตอนของการแสวงข้อตกลงใจ ทำให้เกิดผลทางปฏิบัติที่ 1 และ 2 และ 3 ทหารทุกคนได้รับการสั่งสอนมาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ว่าไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วจะมานั่งคิดว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร แต่ต้องมองว่าเมื่อปัญหาเกิดแล้วเรามีแผน 2-3 รองรับปัญหานั้นเลย ฉะนั้นขอดูก่อน เพราะมีชุดเฉพาะกิจที่เข้าใจปัญหาจะลงไปดูก่อนว่า วันที่ 16 มิ.ย.ว่าแท้ที่จริงมันเกิดอะไรขึ้น อาจจะเกิดความเปลี่ยนแปลง อย่างที่ไม่เคยเห็นมาเลยก็ได้ ก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดี แต่ที่สำคัญอย่าลืมว่าคนซื้อมีมากกว่าคนขาย


“นายกรัฐมนตรีพูดอยู่เสมอว่า ประเทศชาติจะแข็งแรง ประชาชนจะต้องแข็งแรง ท่านต้องรู้จักรักษาสิทธิของท่าน สิทธิของท่าน ท่านไปซื้อเกิน 80 บาท ท่านทำลายสิทธิ และดูถูกตัวท่านเอง ทั้งนี้ประเด็นในเรื่องของโควต้ายังไม่ได้เข้าไปแตะในตอนนี้ เราดูท่าทีก่อน รวมถึงมูลนิธิ สมาคม ที่มีโควต้าอยู่แล้ว เพราะมูลนิธิจะได้ส่วนต่างอยู่แล้ว 2 เปอร์เซ็นต์ โดยรับไปในราคา 68.80 บาท ท่านได้ 1.60 บาท ท่านมีโควต้าเท่าไหร่ก็คูณเงินจำนวนดังกล่าวไป ที่ไปดูแลสมาชิกมูลนิธิ หรือกิจกรรมน่าจะเพียงพอแล้ว ฉะนั้นท่านมีสมาชิกต่าง ๆ ก็จะต้องไปขายในราคาไม่เกิน 80 บาท ซึ่งหลายมูลนิธิก็ปฏิบัติตามเงื่อนไข”

ขณะที่ มีมูลนิธิสำนักงานสลากกินแบ่งที่ถูกจับตามมอง เป้าหมายชัดเจนคือเอาโควต้าสลากไปขาย และเอารายได้มาช่วยเหลือพนักงาน แต่มีประเด็นที่ว่าเอาโควต้าไปจัดสรรต่อ มีนักการเมืองมาสั่งโควต้า ซึ่งตรงนี้มีความเป็นไปได้หรือไม่

ประธานบอร์ดสลากฯ ตอบว่า ได้ครับ เพราะเดิมคนที่ตัดสินใจจะให้โควต้าใคร และขณะนี้คนที่ได้รับโควต้าตามมาตรา 44 เราถอยอายุสัญญาเหลือแค่ 6 เดือน จะตัดให้เหลือ 3 เดือนด้วยซ้ำไป แต่ 3 เดือน วิธีในการดำเนินการเอกสาร ไม่ทัน จึงได้ตัดให้เหลือ 6 เดือน จากเดิมให้โควต้า 1-2 ปีอย่างต่ำ ได้ปริมาณสลาก 2 ปีเต็ม มีผลประโยชน์ มีรายได้ชัดเจนแน่นอน คนที่จะชี้นิ้วสั่งโควต้าได้ ตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง ประธานกองสลาก ถึงได้บอกว่าในอดีตที่ผ่านมาคนในสายงานก็เป็นคนของพรรคการเมืองมา จึงชี้เป็นชี้ตายได้ แต่ตนไม่อยากเข้าไปก้าวก่าย เพราะผ่านแล้วผ่านไป แต่อย่าทำอีก ความลับไม่ได้มีในโลก