อัพเดทชีวิต 'เมธี ลาบานูน' พลังงานจนกับค่ายเพลงใหญ่

อัพเดทชีวิต 'เมธี ลาบานูน' พลังงานจนกับค่ายเพลงใหญ่

"เห็นได้ชัดเลยว่า คนที่ฟังเพลง เพราะเพลงดีๆ ขายที่ไอเดียเจ๋งๆ จะอยู่ได้ในวงการเพลงเท่านั้น" เมธี อรุณ

"พลังงานจน" นับเป็นเพลงเนื้อหาดี ให้กำลังใจคนสู้ชีวิต กำลังไต่อันดับความฮิตอยู่ในขณะนี้ ถือเป็นเสียงตอบรับเป็นอย่างดีของการกลับมาของ "วงลาบานูน" ซึ่งหลังจากปล่อยเพลงแรกให้ได้ฟัง อย่าง "ศึกษานารี" ก็ทำให้บรรดา "แฟน" ที่ยังติดตามวงดนตรีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็คงได้หายคิดถึงกันหลังเงียบไปนานหลายปี

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ลุยไปถึงบ้านของนักร้องนำ "เมธี อรุณ" ย่านบางใหญ่ เมืองนนท์ฯ เพื่อสัมภาษณ์การทำงานเพลงชุดล่าสุด

"เมธี" ยังเป็นคนเดิม คุยง่าย ยิ้มง่าย และวางตัวสบายๆ ตามสไตล์ร็อกร่างเล็กผู้สมถะ แม้วงหยุดการทำเพลงประมาณ4-5ปี เพื่อหยุดไปพัก แต่ถึงที่สุด ความคิดถึงวงการเพลง มันจึงดึงดูดให้พวกเขา3คนกลับมา และเดินเข้าค่ายเพลงคุณภาพอย่าง จีนี่เรคอร์ดส แห่งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพื่อปล่อยผลงานเพลงที่มีมุมมองใหม่ๆ น่าติดตามอย่างไร เขามีคำตอบ..อ่านสัมภาษณ์บรรทัดต่อไป


ช่วงเวลา 4 ปีที่หายไป ทำอะไรบ้าง

การหายไปของวงลาบานูน มี 2 ช่วง ช่วงที่หยุดไปเลย ไม่มาเกี่ยวข้องกับวงการเพลงเลย คือ ไม่ได้แตะเกือบ 5 ปี กลับไปเป็นอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่บ้าง แล้วก็ไปทำงานที่ อบจ.สตูลบ้าง นี่คือ5 ปี เต็มที่ไม่ได้ยุ่งกับวงการเพลงเลย ช่วงที่ 2 ก็คือ 4 ปี ที่หายไปก็เพียงแค่ไม่ได้ออกอัลบั้ม แต่พวกเราลาบานูนก็ยังทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ ก่อนจะมาอยู่จีนี่เรคอร์ดส ก็ทัวร์คอนเสิร์ตไป พวกเราจะใช้เพลงเก่าในการทัวร์คอนเสิร์ต มันก็มีอยู่ 2 ช่วง ทุกคนก็คิดว่าพวกเราลาบานูนหายไป

พอกลับมาทำเพลงอีกครั้ง มีมุมมองในวงการเพลงในปัจจุบันอย่างไรบ้าง

ช่วงที่หยุดเลยวงการเพลงค่อนข้างที่จะซับซ้อนน่าดู ลองทำเดียวเดโมแนวต่างๆ มากมายเยอะแยะเลย ในช่วงที่หยุดไปเลย พอกลับมาช่วง 4 ปี มันรู้สึกว่า เพลงเริ่มมีอะไรบางอย่างที่มันบ่งบอกเรา เริ่มมีความชัดเจนขึ้น เพลงอะไรที่เป็นแนวจัดจ้านมันก็จะเริ่มไปเร็วมาเร็ว สุดท้ายมันจะเริ่มเห็นทิศทางมากขึ้น วงที่จะอยู่ได้ ต้องเป็นวงที่มีลายเส้นของตัวเองจริงๆ เป็นวงที่มีเอกลักษณ์จริงๆ แล้วก็มาล่าสุดที่มาอยู่จีนี่เรคอร์ดส จะเริ่มเห็นได้ชัดเลยว่า คนที่ฟังเพลง เพราะเพลงดีๆ ขายที่ไอเดียเจ๋งๆ จะอยู่ได้ในวงการเพลงเท่านั้น

ที่กลับมาเล่นดนตรีอีกครั้ง มีแรงบันดาลใจอะไร

ความรู้สึกที่กลับมา คือ อยากลองดูอีกครั้ง เพราะเป็นช่วงที่วงการเพลงผันผวน แปรเปลี่ยน เลยอยากรู้ว่าการทำเพลงที่เป็นแบบลาบานูน จะอยู่ในวงการเพลงที่มันเปลี่ยนไปได้ไหม อยากลองดู ในเมื่อความหลากหลายแนวเพลงมันทำขึ้นมาง่ายมากๆ ตอนนี้ใครก็อัดอัพลง YouTube ก็ได้หมดแล้ว เราก็อยากดูเหมือนกันว่า ที่เป็นแนวลาบานูนอยู่ในยุคนี้ อยากจะรู้เหมือนกันว่าเราจะอยู่ได้ไหม เราจะแข่งขันกับกลุ่มเรานี้ได้ไหม

เพลงล่าสุดซิงเกิลที่ 2 ชื่อ "พลังงานจน" ที่นำ "เปาวลี" พรพิมล มา Feat. ด้วย

พลังงานจน เป็นซิงเกิลที่ 2 ส่วนซิงเกิลแรกที่เราเปิดตัว คือ ศึกษานารี ทำไมถึงต้องเป็น เปาวลี พรพิมล ช่วงที่แต่งเพลงนี้ขึ้นมา จะมีเมโลดี้ท่อนนึง “สายลมจางๆ ยังล่องลอยจากแดนไกล” ตอนนั้นไม่ได้คิดว่าจะเป็นใคร แต่รู้ว่าท่อน “สายลมจางๆยังล่องลอยจากแดนไกล” มีความรู้สึกว่าได้ยินเสียงผู้หญิงอยู่ในจินตนาการ

ถ้าเป็นผู้หญิงร้องท่อนนี้ จะเป็นบทเพลงที่สมบรูณ์แบบมาก แต่ใครจะเป็นคนร้อง เลยมีการตั้งโจทย์และคุยกับทีมงานว่า ชีวิตต้องคล้ายกับพวกเราวงลาบานูน ชีวิตต้องดิ้นล้น สู้ชีวิต เป็นพลังให้กับคนที่สิ้นหวังทุกคน และได้นั่งพูดคุยกับทีมงานแล้ว ก็มีพี่กบ Big Ass พี่เขาเสนอว่า มีผู้หญิงคนนึงมีชีวิตคล้ายคลึงกับเมธีมากเลย พูดเหน่อๆ สู้ชีวิต ดิ้นร้นประกวดดนตรี ทำงานร้องเพลงเวทีไปเวทีโน่น เวทีนี่ ผมก็เลยถามพี่กบว่า ผู้หญิงคนนี้ ชื่อว่า เปาวลี พรพิมล ก็เลยไปหาใน YouTube ที่นี่หมอชิต มันก็ใช่แบบนั้นจริงๆ

น้องเปาวลี พรพิมล ก่อนที่จะมาเล่นหนังพุ่มพวง ได้เปิดขายเสื้อผ้ามือสองตามตลาด บ้านน้องเปาวลี พรพิมลที่อยู่สุพรรณบุรีก็เป็นแบบเรียบง่าย พูดเหน่อๆ คล้ายกับพวกเราวงลาบานูน ก็บอกว่าใช่เลย ก็เลยติดต่อให้น้องเปาวลี พรพิมล ให้ฝึกร้อง เข้าห้องอัด เสียงน้องเปาวลีใช่เลย เสียงนี้น่าจะเป็นเพลงที่ลงตัวและเป็นบทเพลงที่เป็นพลัง นี่แหละ ที่เป็นที่มาที่ไปที่เลือกเปาวลี พรพิมล

คนที่จะร้องเพลงท่อนนี้ ต้องเน้นที่น้ำเสียง หรือว่าหน้าตา

ไม่เน้นครับ เน้นที่ชีวิตต้องมีความดิ้นร้น สู้ชีวิตเพื่อครอบครัว

หลังจากปล่อยซิงเกิล พลังงานจน ที่ Feat. กับ เปาวลี พรพิมล มีกระแสตอบรับมากแค่ไหน

กระแสตอบรับดีมากเลย ไม่ถึงอาทิตย์ก็ล้านวิวแล้ว ตอนนี้ก็เกือบสามล้านวิวแล้วครับ ก็ไม่ถึงอาทิตย์ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว

แล้วซิงเกิลต่อไป

เราทำอัลบั้มเต็ม อัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว น่าจะปล่อยซิงเกิลสัก 3-4 ซิงเกิลก่อน แล้วก็จะขายอัลบั้มเต็ม คือ ตอนนี้อัดเสร็จเรียบร้อยแล้วทั้งอัลบั้ม เลยได้มีโอกาสคุยกับจีนี่เรคอร์ดสก็ให้ทำอัลบั้มเต็ม ก็รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาทำอัลบั้มที่ 8

ตอนนี้คิดว่าตลาดเพลงเป็นอย่างไรบ้าง

ตลาดเพลงเริ่มจะชัดเจนมากขึ้นว่า ใครจะอยู่กลุ่มไหน แต่สุดท้ายสุดหนีไม่พ้นในเรื่องของเพลงดี ถึงจะต่อให้ 10 ปีที่เแล้ว หยิบเอามาฟังก็ยังรู้สึกดี มีความรู้สึกว่าพวกเขาอยากฟัง วงลาบานูนอาจจะไม่ได้เป็นไอดอลของใคร แต่ถ้าเกิดทุกคนจะมาฟังเพลงพวกเราก็ดีใจมากที่ทุกท่านมาฟังเพลงลาบานูน หนึ่งในนั้นจะต้องมีวงลาบานูน เราอาจจะไม่ใช่วงที่ 1 ที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
แต่วันไหน อารมณ์ไหนที่เขาเศร้า เขาต้องฟังเพลงลาบานูน วันที่เขามีความสุข วันที่เขาสนุกร่าเริง เขาก็ต้องหยิบเพลงยาม, เพลง 191 เพลงที่เขาอยากจะกระโดด เพลงที่เขาจะสนุกเขาก็ต้องฟังเพลงคนตัวดำ วันไหนที่เขาอกหัก เขาก็ต้องฟังเพลงแฟนเก่าหรือเพลงบังอาจรักเธอ คงต้องมีเพลงดังหนึ่งในนั้นก็ต้องมีวงลาบานูน ได้แค่นี้ก็ถือว่าโอเคแล้ว สำหรับพวกเราวงลาบานูน

ซิงเกิลใหม่ที่ปล่อยออกมา จะสะท้อนในแง่มุมของวงลาบานูนมากเลยใช่ไหม

เป็นเรื่องราวของวงลาบานูน มันอาจจะเป็นตามวัย เมื่อก่อนวงลาบานูนอาจจะมีเพลงแนวอกหัก แต่พอเราเติบโตตามวัยก็จะมีมุมมอง เนื้อหาก็จะมีความเข้มข้นขึ้น แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็นธรรมชาติของความเป็นวง ทุกคนต้องมีความรัก อกหัก ทุกคนมีเรื่องของมุมมองอะไรบางอย่าง ความฝันที่ต้องเดินต่อไป แต่ความรู้สึกว่ายุคนี้เป็นยุคที่ต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แต่สุดท้ายสุดมันเป็นเรื่องของการต่อสู้ชีวิต นี่เป็นเรื่องของความจริงไม่ใช่แต่ความฝัน แล้วเราจะทำอย่างไรให้มีความสุขกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ เรามีอยู่แค่นี้ เราก็ต้องมีความสุขแค่นี้ สุดท้ายสุดชีวิตของเรามีเป้าหมายเหมือนกัน ทำอย่างไรให้มีความสุข บางครั้งกินข้าวกับปลาเค็มกับลูกๆก็มีความสุขมากแล้ว นี่เป็นโมเม้นท์ที่อยากจะเล่าให้ฟัง คือเป็นโมเม้นท์ที่อยู่กับความเป็นจริง แล้วทุกคนต้องดิ้นร้นต่อไปเป็นกำลังใจให้กับทุกคน

ช่วงนี้ทัวร์คอนเสิร์ตอยู่

ช่วงนี้ก็ทัวร์คอนเสิร์ตยาว วงลาบานูนทัวร์คอนเสิร์ตตลอด

ตอนนี้โอเคกับชีวิตดี?

ผมโอเคในสิ่งที่ผมเป็น เราไม่ต้องฝันอะไรเยอะแยะ จริงอยู่ ความฝันเป็นจริงที่ไม่ผิด แต่ผมรู้สึกว่าเลยความฝันมาแล้ว แต่มันเป็นเหมือนอาชีพ เห็นคนขับรถตู้ของวง ส่งลูกเรียนจบปริญญาโท รู้สึกว่าเป็นความภาคภูมิใจของวงลาบานูน เส้นทางชีวิตไม่ได้กำหนดให้เราเป็นแบบนี้ แต่ในเมื่อเส้นทางชีวิตกำหนดให้เราเป็นแบบนี้ เราก็ควรจะทำมันให้ดีที่สุด

อยากจะฝากอะไรถึงแฟนเพลงที่ติดตามผลงานของวงลาบานูน

อยากจะให้คนรุ่นใหม่ลองมาฟังดู คนที่เป็นแฟนคลับวงลาบานูนจริงๆ อายุคงจะเกิน 30 กว่า ก็อยากให้คนรุ่นใหม่ ลองฟังดูว่า กระบวนการในการทำเพลงของวงลาบานูนเป็นอย่างไร