เผยหลักฐานคดี 'ยูฟัน' พบขยายธุรกิจอีก3-4บริษัท

เผยหลักฐานคดี 'ยูฟัน' พบขยายธุรกิจอีก3-4บริษัท

"ดีเอสไอ" ส่งมอบหลักฐานคดี "ยูฟัน" ให้สตช. พบยูฟันขยายธุรกิจอีก 3-4 บริษัท ต้นคิดเป็นชาวมาเลย์ คาดความเสียหาย38,000ล้านบาท

พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าหารือกับนางสุวณา สุวรรณจูฑะ อธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง รองอธิบดีดีเอสไอ พร้อมมอบสำนวนการสอบสวนกรณีบริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด และผู้เกี่ยวข้อง ในความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 หรือ “แชร์ลูกโซ่” ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นำไปขยายผลการสอบสวน

ทั้งนี้ นางสุวณา ยืนยันว่า ดีเอสไอ ตรวจสอบคดีแชร์ลูกโซ่มาโดยตลอด แต่หลายคดีแชร์ยังไม่ล้ม ทำให้ไม่มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ หากผู้ใดมีเบาะแสว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอคนใดเรียกรับผลประโยชน์เพื่อไม่ดำเนินคดีกับแชร์ยูฟัน ขอให้แจ้งข้อมูลมายังดีเอสไอเพื่อตั้งกรรมการสอบสวนความผิดทางวินัย

ด้าน พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กล่าวว่า ข้อมูลที่ส่งมอบให้ สตช. เป็นการสืบสวนทางเทคนิค ซึ่งตรงกับรายชื่อที่ สตช.ออกหมายจับ 20 คน โดยเป็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อการระดับนำโดยแต่ละคนเปลี่ยนชื่อนามสกุล 3-5 ครั้ง แม้จะส่งข้อมูลให้ สตช. แล้วแต่ดีเอสไอจะยังคงสอบสวนคู่ขนานพร้อม สตช. ซึ่งจากการขยายผลพบว่า มีการขยายสาขาเพิ่มอีก 3-4 บริษัทมีพฤติการณ์กำหนดสกุลเงิน รูปแบบการหลอกลวงคล้ายกัน โดยต้นความคิดเป็นชาวมาเลเซีย อยู่ในข่ายขออนุมัติหมายจับเช่นกัน โดยข้อมูลที่ตรวจพบมีสกุลเงิน ยูโทเคน บิทพอยท์วันคอยท์ยูแม็ค และยูมาติน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่หลวมตัวลงทุนให้รีบเข้าร้องทุกข์

ด้าน พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวว่า ตำรวจได้อายัดทรัพย์ในชั้นจับกุมประมาณ 250 ล้านบาท เป็นเงินสด 16 ล้านบาท ที่เหลือเป็นทรัพย์สินที่ได้หารือกับปปง.แล้วว่าจะเร่งขายทอดตลาดโดยไม่ต้องรอให้คดีถึงที่สุดเพื่อนำทรัพย์มาคืนให้กับผู้เสียหาย ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ 110 ราย จากจำนวนผู้เสียหายทั้งหมด 120,000 ราย ในระหว่างนี้ตำรวจจะไม่ปิดเว็บยูฟันตามที่ลูกข่ายออกมากดดันเรียกร้อง เพราะต้องการให้เว็บปิดไปด้วยตนเอง ระหว่างการดำเนินคดีผู้เสียหาย ยังสามารถขายสกุลเงินยูโทเคนออกไปได้เรื่อยๆ โดยไทยถือเป็นประเทศแรกในอาเซียนที่ดำเนินการเชิงรุก ใครที่รู้ตัวเร็วก็ได้เงินคืนก่อนทั้งนี้พนักงานสอบสวนเคยประเมินว่าความเสียหายของสมาชิกยูฟัน 120,000 ราย อยู่ที่ 135 ล้านบาท แต่ขณะนี้พบว่ามูลค่าความเสียหายอาจสูงถึง 38,000 ล้านบาท

“ขอให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความได้กับโรงพัก 800 แห่งทั่วประเทศ โดยในส่วนของปคม. ผบ.ตร. มีคำสั่งตั้งพนักงานสอบสวนไว้รับเรื่องร้องทุก400นายสำหรับการแถลงข่าวของผู้บริหารยูฟัน ที่ประเทศมาเลเซีย ในวันพรุ่งนี้ (22เม.ย.).ขอให้สื่อมวลชนเดินทางไปฟังแถลงที่มาเลเซียเยอะๆ เพื่อช่วยกันซักถามและนำข้อมูลมาบอกกับตำรวจด้วย ทราบมาว่ายูฟันมีตั๋วเครื่องบินฟรีให้ และจากการประสานกับตำรวจมาเลเซียระบุว่า มีผู้นำเงินมาลงทุนที่ประเทศไทยจำนวนมาก ส่วนกรณีที่ยูฟันฯอ้างว่าได้รับอนุญาติให้ยูฟันฯประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์สนั้น ก่อนเข้าจับกุมได้ตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่า ไม่มีหน่วยงานใดของไทยให้ใบอนุญาตยูฟันประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ส แต่เมื่อมีการโต้แย้งพนักงานสอบสวนจะกลับไปตรวจสอบอีกครั้ง" พล.ต.ท.สุวิระกล่าว