ฆาตกรต่อเนื่อง รับสารภาพ ก่อคดีฆ่าสาวบาร์ปี49

ฆาตกรต่อเนื่อง รับสารภาพ ก่อคดีฆ่าสาวบาร์ปี49

"ภรา" ผู้ต้องหาฆาตกรต่อเนื่อง ใช้ขวดยัดรูทวารหญิงสาว รับสารภาพเพิ่ม เคยก่อเหตุใช้ขวดเบียร์ ยัดรูทวารสาวทอมเสียชีวิต ปี49

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2558 พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก. สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนร่วมกันสอบสวนผู้ต้องหาเพิ่มเติม หลังตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ ส่งหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ. 1817/2549 ลงวันที่ 22 ก.ย. 2549 เพื่อขออายัดตัวนายภรา ชูศรี ในข้อหา“ฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย” ไว้ดำเนินคดี 

จากการสอบสวนเพิ่มเติมนายภรา รับสารภาพว่าเมื่อปี 49 ได้ก่อเหตุล่อลวง น.ส.อุไร (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 30 ปี ชาวศรีสะเกษ พนักงานบาร์แห่งหนึ่งในถนนพัฒน์พงศ์ โดยนายภราอ้างตัวว่าเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย แล้วล่อลวงน.ส.อุไร ไปที่เกสท์เฮ้าส์ ย่านสาทร เพื่อข่มขืน โดยใช้ขวดเบียร์แทงเข้าไปในช่องคลอด จนเสียชีวิตอย่างสยดสยอง ก่อนจะหลบหนีไป และก่อเหตุในลักษณะเดียวกันอีกหลายคดี กระทั่งถูกจับกุม ซึ่งทุกคดีที่ทำไปยอมรับว่าเพราะเมายากล่อมประสาทไม่ได้มีเจตนาฆ่าแต่อย่างใด

พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่เปิดเผยว่า ทางพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจเมืองเชียงใหม่ ได้นำตัวนายภรา ไปขออำนาจศาลจังหวัดเชียงใหม่ฝากขัง และควบคุมตัวเข้าเรือนจำทันที โดยทางพนักงานสอบสวน ยังได้คัดค้าน การประกันตัว เกรงว่าจะมีพฤติกรรมหลบหนี ซึ่งผู้ต้องหา ถูกดำเนินคดี มากถึง 7 ข้อหา เป็นการกระทำ ต่างกรรม ต่างวาระ โทษสูงสุดประหารชีวิต ขณะเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่ ยังเชื่อว่า น่าจะมีหญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อ และถูกผู้ต้องหา กระทำทารุณทางเพศ อีกหลายราย จึงขอให้เข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจเพิ่ม 

จากการสืบสวนเชื่อว่า ยังมีหญิงสาวอีก 1 ราย ที่ผู้ต้องหา เคยพาไปร่วมหลับนอน ในโรงแรม ย่านสถานีรถไฟเชียงใหม่ เมื่อ 6 เดือนก่อน และให้กินยากล่อมประสาท และทำทารุณกรรมทางเพศ ในลักษณะเดียวกัน แต่ผู้เสียหายไม่ได้เข้าแจ้งความ หรือให้ข้อมูลกับทางตำรวจ ทั้งนี้หากมีการแจ้งความเพิ่ม โทษก็จะเพิ่มสูงขึ้นอีก ซึ่งผู้ต้องหาถือว่าเป็นบุคคลอันตรายต่อสังคมอย่างมากถือเป็นมาตกรต่อเนื่อง และยังได้มีการเปลี่ยนชื่อมาแล้วหลายชื่อ

ด้าน พล.ต.ต.ปชา รัตนพันธ์ รอง ผบช.ภ.5 กล่าวว่า คดีไหนที่เป็นประทุษกรรม ขอให้ผู้เสียหายมาดูตัว หรือแจ้งอายัดตัว ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบทราบแล้วว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุ ในพื้นที่เชียงใหม่มี 3 คดี แยกเป็นที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ สภ.ช้างเผือก และ สภ.แม่ปิง ส่วนในพื้นที่นครบาล นอกจาก สน.ทุ่งมหาเมฆ แล้ว สน.มักกะสันก็อยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายมายืนยัน นอกจากนี้ในพื้นที่ บชภ. 2 เขตพัทยา ชลบุรี บางละมุง ก็พบข้อมูลว่ามีคดีลักษณะเดียวกันหลายคดีในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ว่าหากพื้นที่ไหนมีเหตุประทุษกรรมลักษณะแบบนี้ และยังหาตัวผู้ต้องหาไม่ได้ก็ขอให้ทางผู้เสียหายช่วยตรวจสอบว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ หากใช่ก็ให้ทางพนักงานสอบสวนในพื้นที่มาแจ้งอายัดตัวผู้ต้องหามาได้ที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้

       รองผบช.ภ5 กล่าวต่อไปว่า จากการสอบสวนทราบว่า คนร้ายมักจะอ้างตัวเป็นชาวต่างชาติ เข้าไปตีสนิทชักชวนเหยื่อที่ทำงานในสถานบริการ และชอบชาวต่างประเทศเพื่อไปร่วมหลับนอน แล้วใช้ยากล่อมประสาทมอมเมาเหยื่อ ก่อนจะใช้ขวดเบียร์หรือขวดน้ำยัดช่องคลอด และทวารหนัก ซึ่งแนวทางการสืบสวนคดีนี้ก็ได้ภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดจนตามแกะรอยไปถึงบริเวณที่เขาหายไป ก็ได้ทำการปูพรมค้นหาจนสามารถจับกุมได้ ซึ่งเบาะแสส่วนหนึ่งก็มาจากสื่อที่ช่วยออกข่าวทำให้มีคนช่วยค้นหาตัว และแจ้งเบาะแสผ่านทางไลน์ ผ่านทางเฟชบุ๊คด้วย และสำหรับตัวผู้ต้องหานั้นเชื่อว่าเคยก่อเหตุมากกว่านี้ ซึ่งผู้เสียหายบางรายอาจจะไม่ได้แจ้งความเพราะกลัวอับอาย แต่เมื่อทราบแล้วว่ามีการจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้ และเขาประสบเหตุในลักษณะแบบนี้อยากให้ผู้เสียหายทุกรายได้มาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายนี้ให้ถึงที่สุดทุกคดี