หุ้นสหรัฐร่วงหนัก

หุ้นสหรัฐร่วงหนัก

ตลาดหุ้นสหรัฐ ปิดปรับตัวลดลงเป็นวันแรกในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความผันผวนที่ยังมีอยู่อย่างมากในตลาด

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (31 มี.ค.) ดิ่งลง 200.19 จุด หรือ 1.11% มาอยู่ที่ 17,776.12 จุด ขณะที่ดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ลดลง 18.35 จุด หรือ 0.88% มาอยู่ที่ 2,067.89 จุด และดัชนีแนสแด็ก ลดลง 46.56 จุด หรือ 0.94% ปิดซื้อขายที่ 4,900.88 จุด

เทรดเดอร์ชี้ว่า ตลาดเจอกับแรงเทขายอย่างหนัก ทั้งจากที่นักลงทุนพากันคิดถึงแนวโน้มการกำหนดนโยบายการเงินสหรัฐ โอกาสที่กรีซจะอยู่ต่อไปในกลุ่มยูโร และราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างมาก ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่ทำให้ตลาดมีความผันผวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก 

ทางด้านตลาดหุ้นหลักๆ ของยุโรป ร่วงลงอย่างหนัก จากข้อมูลเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยูโร ที่ออกมาผสมผสานกัน และยังคงจับตาดูการเจรจาในเรื่องวิกฤติหนี้ของกรีซ

ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ ดิ่งลง 1.72% มาอยู่ที่ 6,773.04 จุด ส่วนดัชนีแด็กซ์30 ของเยอรมนี ลดลง 0.99% มาอยู่ที่ 11,966.17 จุด และดัชนีแค็ก 40 ของฝรั่งเศส ลดลง 0.98% มาอยู่ที่ 5,033.64 จุด

เทรดเดอร์ชี้ว่า นักลงทุนยังคงให้ความส่งใจกับราคาเงินเฟ้อทั่วทั้งภูมิภาค รวมถึง อัตราการส่งงานในเยอรมนี ที่ร่วงลงเมื่อเดือนมี.ค. แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการ นับแต่รวมเยอรมนีตะวันออก และตะวันตกเข้าด้วยกัน นอกเหนือจากการเจรจาเรื่องวิกฤติหนี้กรีซ ที่ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

น้ำมันดิ่งแรง
ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลดลง จากการที่ชาติมหาอำนาจของโลก และอิหร่าน เร่งหาทางบรรลุข้อตกลงในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่อาจนำไปสู่การผ่อนคลายคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบของโลกรายนี้ และจะทำให้มีน้ำมันออกมาสู่ตลาด ที่มีการจัดหาล้นเกินอยู่แล้ว เพิ่มมากขึ้น

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ส่งมอบเดือนพฤษภาคม ที่ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 47.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลงไป 1.08 ดอลลาร์

ขณะราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ทะเลเหนือ ส่งมอบเดือนเดียวกัน ที่ตลาดลอนดอน อังกฤษ ลดลง 1.18 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 55.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล