บางจากฯคาดกำไรไตรมาส1/58สูงกว่าปีก่อน

บางจากฯคาดกำไรไตรมาส1/58สูงกว่าปีก่อน

บางจากฯ คาดกำไรสุทธิ ไตรมาส 1/58 สูงกว่างวดปีก่อน หลังยอดกลั่นน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมเดินหน้าธุรกิจพลังงานทดแทน

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/58 จะสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.56 พันล้านบาท หลังสามารถกลั่นน้ำมันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบระดับ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน และค่าการกลั่น (GRM) เพิ่มขึ้น รวมถึงยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันก็เติบโตตัวเลขสองหลัก สูงกว่าตลาดรวมที่เติบโตราว 7%

ขณะที่คาดว่าจะรับรู้ปันผลกว่า 100 ล้านบาทจากการลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มแห่งแรกในญี่ปุ่นขนาด 60 เมกะวัตต์ในช่วงครึ่งหลังของปี 59

"ไตรมาสแรกแนวโน้มดีมาก เรากลั่นน้ำมันได้เยอะเป็นประวัติการณ์ที่ใกล้ๆระดับ 1.1 แสนบาร์เรล/วัน ค่าการกลั่นก็อยู่ในระดับสูง ดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายผ่านสถานีบริการดีขึ้น"

นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การกลั่นน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 1/58 ส่วนหนึ่งเป็นผลจากยอดขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันของบางจากฯที่เติบโตขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก มากกว่าตลาดรวมที่เพิ่มขึ้นราว 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเหตุการณ์ทางการเมือง ประกอบกับ ราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้มีผู้ใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย

ทั้งนี้ ยอดการใช้น้ำมันในไตรมาส 1/58 พบว่าแก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91 เพิ่มขึ้นมาก ขณะที่ E20 และ E85 ชะลอตัวลง เนื่องจากส่วนต่างราคาไม่มากนักหลังราคาเอทานอลในตลาดสูงกว่าราคาเนื้อน้ำมัน ซึ่งส่วนต่างระหว่างราคา E85 และกลุ่มน้ำมัน E10 (แก๊สโซฮอล์ 95 และแก๊สโซฮอล์ 91) ควรอยู่ระดับ 25-30% แต่ปัจจุบันมีส่วนต่างเพียง 10-20% เท่านั้น จึงไม่จูงใจให้เกิดการใช้

อย่างไรก็ตาม BCP ยังคงเดินหน้าเพิ่มหัวจ่าย E85 ในสถานีบริการน้ำมัน โดยมีเป้าหมายที่ 300 แห่ง จากปัจจุบันที่มี 208 แห่ง แต่ถือว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วนมากนักในขณะนี้

แผนงานของบ BCP ยังคงเน้นการลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนเป็นหลัก โดยมีเป้าหมายจะใช้เงินลงทุนราว 2.3-2.4 หมื่นล้านบาทในช่วง 6 ปี(ปี 58-63) คิดเป็นเงินลงทุนราวปีละ 4 พันล้านบาท ล่าสุดบริษัทได้ร่วมลงทุนกับบริษัท เชาว์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ตั้งบริษัทร่วมทุนใหม่โดยบางจากฯถือหุ้น 70% และเชาว์ อินเตอร์ฯถือหุ้น 30% โดยบริษัทร่วมทุนจะเข้าไปลงทุนในหน่วยลงทุนที่เรียกว่า GKTK ในญี่ปุ่น ซึ่งจะเป็นผู้พัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภทโซลาร์ฟาร์ม ในเมือง MUBARA ขนาด 60 เมกะวัตต์