'จีเอ็ม'รื้อโครงสร้างลดพนักงาน

จีเอ็มเดินหน้าปรับแผนธุรกิจ โครงสร้างในไทย เปิดให้พนักงานสมัครใจลาออก แจ้งบีโอไอขอยกเลิกแผนร่วมอีโค คาร์ เฟส 2 พร้อมปรับไลน์สินค้า ยุติทำตลาด สปิน โซนิค หันเน้นตลาดปิกอัพ-เอสยูวี 

นายทิม ซิมเมอร์แมน ประธานกรรมการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (จีเอ็ม) กล่าวว่า จีเอ็มจะปรับโครงสร้างองค์กรในไทยใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแผนการพลิกโฉมธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อตอบสนองกลยุทธ์ระดับโลกของจีเอ็มที่ต้องการสร้างความยั่งยืนระยะยาว
ในส่วนของไทย จะมีการปรับเปลี่ยนทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างสำนักงานในกรุงเทพฯ และศูนย์การผลิตที่ระยอง
"จีเอ็มทั่วโลกมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้ามากขึ้น และมีการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม เราต้องเร่งดำเนินการพลิกโฉมธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทยซึ่งความต้องการของตลาดในประเทศอยู่ในภาวะซบเซา ด้วยการดำเนินการเปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าและยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน และปรับการทำงานขององค์กรให้ดีขึ้น"
ในด้านตัวสินค้า จีเอ็มจะลดการทำตลาดรถที่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก โดยจะยุติการทำตลาดรถยนต์นั่งเชฟโรเลต โซนิค และรถเอ็มพีวี เชฟโรเลต สปิน เมื่อสิ้นสุดแผนการตลาดของรุ่นปีล่าสุด เพื่อหันไปเน้นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับรถปิกอัพ โคโลราโด, รถพีพีวี เทรลเบลเซอร์ รถเอสยูวี แคปติวา และรถยนต์นั่ง เชฟโรเลต ครูซ ซึ่งปัจจุบันรถยนต์กลุ่มนี้มียอดขายรวมกันคิดเป็นสัดส่วน 75% ของเชฟโรเลตในประเทศไทย และคิดเป็นสัดส่วน 95% ที่มีการส่งออกจากโรงงานไทย
นอกจากนี้จีเอ็มยังตัดสินใจที่จะยกเลิกแผนการทำตลาดรถยนต์อีโค คาร์ รุ่น 2 โดยขณะนี้ได้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ แล้วว่าจะขอถอนตัวจากการเข้าร่วมโครงการดังกล่าว
ด้านนายมาร์คอส เพอร์ตี กรรมการผู้จัดการ จีเอ็ม ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ประเทศไทย กล่าวว่า เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนธุรกิจ จีเอ็ม จะต้องปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ โดยมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพและบทบาทหน้าที่ให้กับพนักงาน โดยจะมีโครงการให้พนักงานลาออกโดยสมัครใจ (Voluntary Separation Program) ทั้งในส่วนสำนักงานและระดับปฏิบัติการ
"การพลิกโฉมธุรกิจไม่สามารถทำได้โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราจะมุ่งเพิ่มประสิทธิภาพโครงสร้างองค์กรในไทยเพื่อสร้างโอกาสที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจ และในขณะเดียวกันเราก็มุ่งให้การช่วยเหลือพนักงานที่อาจได้รับผลกระทบ"  
ทั้งนี้การประกาศปรับโครงสร้างในไทย เกิดขึ้นหลังการประกาศยุติการผลิตรถที่ศูนย์การผลิตเบกาซี ของอินโดนีเซีย 1 วัน โดยโรงงานที่อยู่ใกล้กรุงจาการ์ตาซึ่งเดินสายการผลิตเชฟโรเลต สปิน จะเลิกการผลิตตั้งแต่สิ้นสุดเดือนมิ.ย.ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป และปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่การเป็นบริษัทจัดจำหน่าย โดยเน้นทำตลาดรถเช่น ออร์แลนโด, แคปติวา, โคโลราโด และเทรลเบลเซอร์
ด้านนายสเตฟาน จาค็อบบี รองประธานบริหาร จีเอ็ม และประธานกรรมการ จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ จีเอ็มไอ กล่าวว่า การดำเนินการต่างที่เกิดขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ระดับโลกเพื่อสร้างความยั่งยืนในระยะยาวและเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้แก่หุ้นส่วนทางธุรกิจ
"เรามีความมุ่งมั่นทุ่มเทที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าควบคู่กับการเสริมความแข็งแกร่งในการปฏิบัติงานระดับโลก เราให้ความสำคัญกับการลงทุนที่จะสร้างโอกาสในการเติบโตให้จีเอ็ม เรากำลังมีความคืบหน้าและการตัดสินใจในครั้งนี้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์แผนธุรกิจใหม่" 


ปรับแผนธุรกิจทั่วโลก
การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การทำตลาดทั่วโลกเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ โดยระยะ 15 เดือนที่ผ่านมา จีเอ็มไอ ดังนี้
- 11 ธ.ค. 2556 จีเอ็มโฮลเด้นประกาศเปลี่ยนเป็นบริษัทจัดจำหน่ายในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ พร้อมเตรียมหยุดสายการผลิตในออสเตรเลียภายในปี 2560
- 5 ส.ค. 2557 จีเอ็มไอเปิดสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคแห่งใหม่ในสิงคโปร์
- 5 ก.พ. 2558 จีเอ็ม โฮลเด้นประกาศแนะนำรถใหม่ 24 รุ่นและเครื่องยนต์ 36 รุ่นภายใน 5 ปีข้างหน้า
- 15 ก.พ. 2558 จีเอ็ม อินเดียเตรียมเปิดตัว เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ในปีนี้และสปินในปี 2559
- 26 ก.พ.2558 ประกาศการเปลี่ยนแปลงเป็นบริษัทจัดจำหน่ายในประเทศในอินโดนีเซีย