SET INDEX หลุด 1,600 จุด

สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวขึ้นโดย DJIA +1.1%, DAX +2.3%, CAC ฝรั่งเศส +1.7% และ FTSE +0.5% หลังกรีซและ EU บรรลุข้อตกลงขยายเวลาให้การช่วยเหลือกรีซออกไปอีก 4 เดือน รวมถึงประธานเฟดแถลงว่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกอย่างน้อย 2 รอบการประชุม ในเดือน มี.ค. และ เม.ย. 

สรุปสภาวะตลาดหุ้นจีน (25 ก.พ. 2558) :  สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนปรับตัวลง 0.6% สำหรับการซื้อขายเป็นวันแรกหลังจากปิดทำการในช่วงเทศกาลตรุษจีน นำโดยกลุ่มการเงินและเทคโนโลยี นอกจากนี้กลุ่มผู้ประกอบการกาสิโนปรับตัวลง โดย Galaxy Entertainment Group และ Sands China ปรับตัวลงอย่างน้อย 6% หลังมีนักวิเคราะห์คาดรายได้กาสิโนในมาเก๊าเดือน ก.พ. อาจหดตัวแรงกว่า 50% แม้ว่าดัชนี HSBC Flash PMI เดือน ก.พ.จะออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดก็ตาม

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (19 - 25 ก.พ. 2558) : SET INDEX ปรับตัวลงหลุด 1,600 จุด นำโดยหุ้นหลักในกลุ่ม ICT หลัง กสทช.อาจเลื่อนประมูล 4จี ออกไปจากเดือนส.ค. กดดัน ADVANC / INTUCH ปรับฐานลงแรง นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจอย่างการส่งออกเดือน ม.ค.ของไทยหดตัว 3.46% yoy สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 1.90% yoy กดดัน SET INDEX ปิดที่ระดับ 1,589.33 จุด ลดลง 1.97 จุด หรือ -0.12% ณ วันที่ 18 ก.พ.

สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (27 ก.พ. - 5 มี.ค. 2558) : MBKET คงน้ำหนักการลงทุนเป็น “กลางถึงบวก” สัปดาห์ที่ 2 พร้อมให้น้ำหนัก SET INDEX มีโอกาสกลับมายืนเหนือ 1,600 จุดอีกครั้ง หลังจากพักฐานบริเวณ 1,570-1,580 จุดในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ทั้งนี้ปัจจัยที่จะผลักดัน SET INDEX ในระลอกนี้ได้แก่
การทยอยประกาศเงินปันผลงวดปี 2557 หรือ 2H57 ของกลุ่มธนาคาร ล่าสุด KBANK ประกาศปันผล 3.50 บาท ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 16 เม.ย.
การสิ้นสุดประกาศผลการดำเนินงาน 4Q57 ในวันที่ 2 มี.ค.

ตัวเลขเศรษฐกิจเดือนม.ค.ของไทย รายงานวันที่ 27 ก.พ. โดยเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยว และ ภาคการบริโภคภายในประเทศ จะยังรักษาโมเมนตัมเชิงบวกต่อเนื่องจากเดือนธ.ค.ได้หรือไม่ และการประชุม ECB ในวันที่ 5 มี.ค. คาดว่าจะเห็นแนวทางการเข้าซื้อสินทรัพย์ 6.0 หมื่นล้านยูโร/เดือนในการประชุมนี้ พร้อมเริ่มโครงการ ซึ่งจะทำให้เกิดสภาพคล่องทางการเงินที่ล้นในระบบการเงินโลกมากยิ่งขึ้น เป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง

กลยุทธ์การลงทุน MBKET คงแนะนำ “Contrarian Trading คือ ขึ้นแรงขาย / ลงแรงซื้อ” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ ระดับ 1,620 จุดขึ้นไป พร้อมเน้นการเก็งกำไรเป็นรายตัวต่อผลการดำเนินงานมากขึ้น

ปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า ได้แก่
1. การประกาศปรับดัชนี FTSE วันที่ 5 มี.ค.
2. ติดตามการประชุมธนาคารกลางที่สำคัญ ได้แก่ ECB และ BoE วันที่ 5 มี.ค.
3. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อ และ อัตราการว่างงาน ของอียู, ดัชนีราคาบ้าน และ เป้าหมายเงินเฟ้อ ของอังกฤษ, ดัชนี ISM ภาคการผลิต - บริการ และภาวะการจ้างงานของสหรัฐ, ดัชนี PMI ภาคการผลิต - บริการของจีน, อัตราเงินเฟ้อ และผลผลิตภาคอุตฯ ของญี่ปุ่น, อัตราเงินเฟ้อของไทย

                                             ------------------------------------------------------------------------
ที่มา...บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ