น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดทะลักกลางดึก ผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิต 1 ราย

สภาพความเสียหายที่เกิดจากน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด และจากน้ำตกไพรสวรรค์ ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ที่ไหลหลากลงมากลางดึก เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ของคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งสัตว์เลี้ยง ใน พื้นที่หมู่ 4 บ้านโคกทราย ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หนักสุดในรอบ 40 ปี เจ้าหน้าที่เร่งเข้าสำรวจและช่วยเหลือประชาชน โดยมวลน้ำป่าจากเขาบรรทัดไหลทะลักหอบเอาต้นไม้ขนาดใหญ่พัดเอาบ้านเรือนประชาชน หมู่ที่ 4 บ้านโคกทราย ต.โพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นานกว่า 2 ชั่วโมงทำบ้านเรือนได้รับผลกระทบรวม 50 หลังคาเรือน บ้านเรือนเสียหายหนัก 2 หลัง รถยนต์ ประมาณ 4-5คัน รถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน สัตว์เลี้ยง เช่น วัวล้ม 4 ตัว ควายหายไปกับน้ำอีกจำนวนหนึ่ง 

นอกจากนี้มีผู้เสียชีวิตติดในบ้าน 1 คนคือ นายทวี แป้นนวล อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง หลังเกิดเหตุทางญาติรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือกลางดึก แต่เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ไม่ได้ เพราะกระแสน้ำไหลแรงมากมีจำนวนมาก ตัดขาดพื้นที่ และเมื่อเข้าได้ก็เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตในระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาล  ขณะนี้ญาติพี่น้องนำศพมาตั้งไว้ที่วัดห้วยสอ ต.โพรงจระเข้หลังเกิดเหตุผู้นำท้องถิ่นรีบรายงานให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ทราบ

โดยมีเจ้าหน้าที่ ตชด.435 ตรัง เข้ามาช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว มีเจ้าหน้าที่ อบจ.ตรังนำรถแบ็คโฮ เพื่อเข้ามาช่วยชาวบ้านรื้อต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ทับบ้านเรือน ทรัพย์สิน รถยนต์ ออกมา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี่ บอกว่าไม่พบไม่เห็นน้ำป่าจำนวนมหาศาลและสร้างความเสียหายเหมือนครั้งนี้  เพราะผู้สูงอายุบอกว่า น้ำที่ท่วมอ.ย่านตาขาวหนักสุดปี 2518 และ 2524แต่ปี 2564 ครั้งนี้หนักที่สุดเพราะมีผู้เสียชีวิต ทรัพย์เสียหายจำนวนมาก สวนยาง สวนปาล์มน้ำมัน เสียหายหมดขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจ

นายวิสุทธิ์ ศิริพันธ์ อดีตข้าราชการบำนาญ กล่าวว่า ตนเองรู้ตอนที่น้ำไหลเข้าท่วมเวลาประมาณ 3 นาฬิกา เมื่อเปิดบ้านออกมาดูพบว่า รถยนต์เก๋งมาสด้า 2 และรถยนต์กระบะมิตซูบิชิ 4ประตู ลอยไปกับน้ำเสียแล้ว ส่วนรถเก๋งลอยป่าพาไปกว่า 1 กิโลเมตร จักรยานยนต์ 2 คัน อุปกรณ์ไฟฟ้า เท่าที่ตนเองจำความได้ ในปี 2518และ 2524 น้ำป่าไหลเข้าท่วมหมู่บ้านหนักสุดแล้ว ครั้งนี้หนักกว่า บ้านตนเองสร้างเผื่อไว้แล้วเพราะบ้านติดกับคลองสอซึ่งรับน้ำมาจากน้ำตกไพรสวรรค์ ครั้งนี้เสียหายมาก หนักสุดในรอบ 40 ปี ทุกอย่างหายไปในพริบตา

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ขณะนี้ฝนหยุดตก แต่ทางจังหวัดตรัง ยังคงแจ้งเตือนประชาชนต่อเนื่องให้ติดตามสภาพอากาศ และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำให้ระวังน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่