โคราช เร่งระบายน้ำ คาด 3 วันมวลน้ำจะไปรวมที่พิมาย

ผู้ว่าฯ โคราช ระดมกำลังเร่งระบายน้ำพื้นที่ ต.จอหอ หลังน้ำจากลำบริบูรณ์เอ่อเข้าท่วม ขณะนี้น้ำท่วมเขตเทศบาลระดับน้ำเริ่มลด คาด 3วัน มวลน้ำทั้งหมดจะไปรวมที่ อ.พิมาย

เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 64 ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จังหวัดนครราขสีมา ห้องประชุมมูลนิธิท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประชุมวางแผนการบริหารจัดการสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยว อาทิ ปภ.จังหวัด ชลประทานจังหวัด นายอำเภอทั้ง 32 อำเภอของจังหวัด ผอ.โครงการบำรุงรักษาอ่างเก็บน้ำภายในจังหวัดและผู้แทนจากเทศบาลนครนครราช

อ่านข่าว : มวลน้ำจาก "ลำเชียงไกร"ทะลักเข้าท่วมนาข้าว รอบ 2 หนักกว่าเดิม

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลนครนครราชสีมาสถานการณ์เริ่มดีขึ้นระดับน้ำจากลำน้ำลำตะคองเริ่มลดลงต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันมีมวลน้ำจากลำบริบูรณ์กำลังไหลเอ่อเข้าท่วมเขตพื้นที่ ต.จอหอ ซึ่งทางจังหวัดได้เร่งที่จะผลักดันน้ำผลักดันน้ำมวลนนี้ให้พ้นจากพื้นที่ ต.จอหอ ให้ได้ภายในวันนี้ ภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่เหนือน้ำลุ่มน้ำลำตะคอง ตั้งแต่ อ.สูงเนิน

อ.ขามทะเลสอ และ อ.เมือง บางพื้นที่ เช่น บริเวณชุมชนมิตรภาพซอย 4 หมู่บ้านวีไอพี หลัง รพ.เซนเมรี่ และ บริเวณ รพ.มหาราชนครราชสีมา ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่น้ำจากลำตะคองจะไปเพิ่มในพื้นที่ อ.โนนสูง อ.เฉลิมพระเกียรติ และไปลงลำมูลพื้นที่ อ.พิมาย คาดว่า 3 วันนี้ มวลน้ำนี้จะเข้าไปในพื้นที่ อ.พิมาย

สำหรับการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมือง ที่น้ำจากลำบริบูรณ์เอ่อเข้าท่วมนั้น ได้มีการถอนเครื่องสูบน้ำจากพื้นที่ที่ระดับน้ำลดแล้ว ไปติดตั้งเพื่อเร่งผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ ต.จอหอ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จึงต้องรีบเร่งดำเนินการ ซึ่งหากไม่มีฝนตกลงมา มวลน้ำก้อนนี้จะอยู่ในพื้นที่ ต.จอหอ เพียง 1-2 วันเท่านั้น หลังจากนี้จะต้องจับตามวลน้ำจากทุกลุ่มน้ำซึ่งจะรวมกันอยู่ที่ อ.พิมาย ซึ่งน่าเป็นห่วงได้สั่งกันให้เตรียมการป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจ โบราณสถาน ในพื้นที่ อ.พิมาย แล้ว อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่ประสบกับภัยน้ำท่วมระลอก2นี้ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ประสบภัยใน 11 อำเภอ จากทั้งหมด 32 อำเภอ มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมประมาณ 10,000 หลังคาเรือน