‘TikTok’ จ่อฟ้อง ‘ทรัมป์’ บีบขายธุรกิจในสหรัฐ

TikTok แอพพลิเคชั่นแชร์วิดีโอสั้นยอดนิยมในสหรัฐ ซึ่งมีสำนักงานในเมืองคัลเวอร์ซิตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ยืนยันเมื่อวันเสาร์ (22 ส.ค.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า มีแผนยื่นฟ้องศาลเพื่อคัดค้านคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ให้เวลาชาวอเมริกันและหน่วยงานต่าง ๆ 45 วันในการหยุดทำธุรกิจร่วมกับไบต์แดนซ์

นอกจากนี้ รัฐบาลของทรัมป์ยังออกคำสั่งอีกฉบับเมื่อวันที่ 14 ส.ค. กดดันให้บริษัทแม่สัญชาติจีนขายธุรกิจ TikTok แก่บริษัทอเมริกัน พร้อมขีดเส้นตายใน 90 วัน ก่อนแอพพลิเคชั่นนี้จะถูกแบนในสหรัฐ

“แม้เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความกังวลของรัฐบาลสหรัฐ และเป็นเวลาเกือบ 1 ปีที่เราหาทางติดต่อพูดคุยด้วยความจริงใจเพื่อหาทางออกที่สร้างสรรค์ แต่สิ่งที่เราเผชิญคือการปราศจากความคืบหน้าใด ๆ โดยรัฐบาลแทบไม่สนใจข้อเท็จจริงต่าง ๆ มิหนำซ้ำยังพยายามแทรกกลางการเจรจาระหว่างสองธุรกิจเอกชน” โฆษก TikTok ระบุ

“เพื่อรับประกันว่าหลักนิติรัฐไม่ได้ถูกละทิ้ง และเพื่อให้บริษัทของเราและผู้ใช้บริการของเราได้รับการปฏิบัติอย่างยุติธรรม เราไม่มีทางเลือกอื่น ๆ ยกเว้นแต่ยื่นคัดค้านคำสั่งพิเศษผ่านระบบยุติธรรม”

TikTok คาดหมายว่า จะสามารถยื่นฟ้องคัดค้านคำสั่งรัฐบาลสหรัฐ “อย่างเร็วที่สุด” ต้นสัปดาห์หน้า

ขณะนี้ ไบต์แดนซ์อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทไมโครซอฟท์ และบริษัทโอราเคิล ที่แสดงความสนใจจะเข้าซื้อธุรกิจ TikTok ในสหรัฐ โดยคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ไม่มีผลกับการเจรจาซื้อขายกิจการกับ 2 บริษัทนี้

รายงานระบุว่า โอราเคิล ซึ่งนายแลร์รี เอลลิซัน ประธานบริษัทได้ร่วมบริจาคเงินทุนหาเสียงของนายทรัมป์ กำลังพิจารณายื่นข้อเสนอซื้อกิจการของ TikTok ในสหรัฐ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ อ้างว่า จีนอาจใช้ TikTok แกะรอยที่ตำแหน่งของเจ้าหน้าที่รัฐ รวบรวมข้อมูลส่วนตัวเพื่อแบล็คเมล และจารกรรมข้อมูลขององค์กรต่าง ๆ แต่ไบต์แดนซ์ตอบโต้ว่า ไม่เคยส่งมอบข้อมูลใด ๆ ของผู้ใช้ในสหรัฐแก่รัฐบาลจีน

ส่วนรัฐบาลปักกิ่งกล่าวหาความพยายามปราบปรามของนายทรัมป์ว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง

มาตรการต่าง ๆ ของสหรัฐมีขึ้นก่อนหน้าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งนายทรัมป์ ที่มีคะแนนนิยมตามหลังคู่แข่งอย่างนายโจ ไบเดน ในผลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนัก กำลังมุ่งเน้นอย่างเข้มข้นในยุทธศาสตร์หาเสียงต่อต้านจีน ทั้งในด้านการค้า กลาโหม และเศรษฐกิจ

นอกจากไบต์แดนซ์แล้ว บริษัทจีนอีกรายอย่าง “เทนเซ็นต์” (Tencent) ซึ่งเป็นเจ้าของแอพพลิเคชั่นส่งข้อความอย่าง “WeChat” (วีแชท) ก็ได้รับผลกระทบจากคำสั่งฝ่ายบริหารของสหรัฐด้วย

ในสหรัฐ TikTok มีผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 100 ล้านราย ส่วนภาพรวมทั่วโลก TikTok มีผู้ใช้งานราว 800 ล้านรายและยอดดาวน์โหลดทั่วโลกอีกกว่า 2,000 ล้านครั้ง