จับตา 'จีน' ในวันที่คลาย 'ล็อคดาวน์'

จับตา 'จีน' ในวันที่คลาย 'ล็อคดาวน์'

ขณะนี้ ดูเหมือนจีนเป็นประเทศเดียวในโลก ที่วุ่นวายกับการรับมือการแพร่ระบาดของ โควิด-19 น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มทุเลาลงตามลำดับ เป็นข่าวดีสำหรับชาวจีนทั่วประเทศที่จะได้กลับมาดำเนินชีวิตและทำงานกันตามปกติ

เมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) พระราชวังต้องห้ามแห่งกรุงปักกิ่ง ได้กลับมาเปิดให้ประชาชนเข้าชมอีกครั้ง หลังจากปิดไปนาน 3 เดือน แต่มีเงื่อนไขเพิ่มขึ้นตามมาตรการเฝ้าระวังด้านสาธารณสุข จากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 โดยพระราชวังต้องห้าม หรือพระราชวังกู้กง ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงปักกิ่ง เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันศุกร์ที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป หลังปิดยาวนานตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. ตามมาตรการทางสังคมของรัฐบาลจีน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

แต่การกลับมาให้บริการครั้งนี้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดหลายประการ คือการลดจำนวนผู้เข้าชมจากปกติซึ่งอยู่ที่วันละประมาณ 80,000 คน ให้เหลือวันละไม่เกิน 5,000 คน และต้องเป็นการจองบัตรล่วงหน้าเท่านั้น ผู้ที่อยู่ภายในอาณาเขตของพระราชวังต้องห้ามทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า

แม้ประชาชนมีบัตรเข้าชมแต่ต้องผ่านจุดคัดกรองโรคเบื้องต้น หากมีอุณหภูมิร่างกาย 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือมีอาการที่เป็นสัญญาณของโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น การไอแห้งติดต่อกัน จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าสู่พื้นที่ ส่วนผู้ที่สามารถเข้าสู่อาณาเขตของพรราชวังได้ต้องรักษาระห่างทางกายภาพไม่น้อยกว่า 1 เมตร

การเปิดพระราชวังต้องห้ามให้บุคคลทั่วไปเข้าชมอีกครั้ง เกิดขึ้นในขณะที่โรงเรียนมัธยมในกรุงปักกิ่งกลับมาเปิดการเรียนการสอนในห้องเรียนอีกครั้ง หลังต้องจัดห้องเรียนออนไลน์มานาน 3 เดือน เพื่อลดความเสี่ยงของการติดโรค ส่วนสภาประชาชนแห่งชาติ (เอ็นพีซี) เตรียมเปิดประชุมใหญ่ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ หลังเลื่อนจากกำหนดการเดิม คือวันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา

คณะกรรมการถาวรของสภาประชาชนแห่งชาติ ( เอ็นพีซี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพุธ(27พ.ค.) ว่ากำหนดการประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ของสมาชิกเอ็นพีซีชุดที่ 13 จะเปิดฉากอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พ.ค. นี้ โดยก่อนหน้านั้น 1 วันจะเป็นการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติของสภาที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง

เดิมทีนั้น เอ็นพีซีมีกำหนดประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่มติของคณะกรรมการถาวรให้เลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ที่จีนเลื่อนการจัดประชุมเอ็นพีซี นอกเหนือจากการเปลี่ยนช่วงเวลาจัดการประชุมจากเดือนก.ย. ของทุกปี มาเป็นเดือนมี.ค. ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา

158842854190

“จาง จุน” เอกอัครราชทูตจีนประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า พื้นฐานสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นอยู่กับความเป็นพหุภาคีของประชาคมโลก บนพื้นฐานของความไว้วางใจและการเคารพซึ่งกันและกัน ท่ามกลางวิกฤติด้านสาธารณสุขเช่นนี้ ไม่มีประเทศใดสามารถปฏิบัติตนฝ่ายเดียวได้ ไม่ว่าจะเป็นประเทศใหญ่หรือประเทศเล็ก ร่ำรวยหรือยากจน

ผู้สันทัดกรณีกล่าวถึงการที่จีนประกาศกำหนดการประชุมใหญ่ของเอ็นพีซีประจำปีนี้ได้ในที่สุด ว่า เป็นการส่งสัญญาณให้โลกภายนอกรับทราบว่า สถานการณ์ภายในประเทศกำลังกลับมาเข้ารูปเข้ารอย หลังต้องทุ่มเทสรรพกำลังต่อสู้กับภาวะโลกระบาดมาอย่างยาวนาน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับชาวจีน โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ 

นอกจากนี้ สำนักข่าวซินหัว ซึ่งถือเป็นกระบอกเสียงของรัฐบาลปักกิ่ง รายงานว่า การประชุมเอ็นพีซีครั้งนี้จะมีการออกกฎหมายใหม่และแก้ไขกฎหมายเดิมรวม 17 มาตราที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข รวมถึงกฎหมายป้องกันโรคระบาดจากสัตว์

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัว 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นการหดตัวรายไตรมาสครั้งแรกของจีดีพีจีน นับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลเป็นรายไตรมาส เมื่อปี 2535

นอกจากนี้ เทศบาลกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน เริ่มนโยบายไม่แจกผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น อุปกรณ์รับประทานอาหาร เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของรัฐบาลกลางในการลดขยะพลาสติก

สถานประกอบการในกรุงปักกิ่ง โดยเฉพาะร้านอาหาร คาเฟ่ โรงแรม และบริการเดลิเวอรี่ งดการแจกผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์รับประทานอาหารและแปรงสีฟัน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งเป็นมาตรการตามเทศบัญญัติของกรุงปักกิ่ง ที่กำหนดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ส่วนกลาง ซึ่งกำหนดเป้นหมายให้เมืองใหญ่ในจีนลดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งให้ได้ 30% ภายใน 5 ปีนับจากนี้

มาตรการดังกล่าว ยกเว้นกรณีที่ลูกค้าเป็นฝ่ายขออุปกรณ์พลาสติกจากพนักงานก่อนเท่านั้น หมายความว่า หากผู้ประกอบการเป็นฝ่ายเสนอมอบอุปกรณ์พลาสติกให้กับลูกค้าก่อน ถือว่ามีความผิด และหากกระทำการซ้ำหลายครั้งอาจต้องชำระค่าปรับขั้นต่ำ 10,000 หยวน และสูงสุด 50,000 หยวน