คาด 'จีดีพีเกษตร' ปีหน้าโต2-3 % สศก.ห่วงภัยแล้ง - บาทแข็งกระทบ

คาด 'จีดีพีเกษตร' ปีหน้าโต2-3 % สศก.ห่วงภัยแล้ง - บาทแข็งกระทบ

สศก.คาดปี 63จีดีพีเกษตรขยายตัว 2 - 3% เตือนระวังแล้งจัดค่าเงินบาทแข็งกระทบผลผลิตสินค้าเกษตรปีหน้า

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร(สศก.) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ในส่วนของภาคเกษตร ปี 2562 จะ ขยายตัว 0.5% เมื่อเทียบกับปี2561 ส่วนในปี 2563 สศก.คาดว่าจีดีพีภาคเกษตรจะขยายตัวประมาณ2 – 3% จากปัจจัยอันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐบาลการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย และเศรษฐกิจโลกขณะที่แนวโน้มการส่งเสริมการบริโภคและการใช้สินค้าเกษตรในประเทศอย่างต่อเนื่องที่สนับสนุนให้ภาคเกษตรในปี 2563 ขยายตัวได้ดี

อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของภาคเกษตรในปีหน้ายังต้องระวังเรื่องเงินบาทแข็งค่า หากแข็งกว่า 30 บาทต่อดอลลาร์ คาดว่าจะกระทบกับการส่งออกสินค้าเกษตรอย่างแรง โดยสศก. ได้ประสานและตั้งคณะทำงานร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อเฝ้าระวังเรื่องค่าเงินดังกล่าว

รวมทั้งปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าปริมาณน้ำจะน้อยกว่าปี2562 ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญด้านการบริหารจัดการน้ำให้พอเหมาะ ในขณะที่ราคาสินค้าเกษตรภาพรวมในปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้น จากนโยบายประกันราคาของรัฐบาล ความต้องการของตลาดโลกที่ยังมีอยู่ ในขณะผลผลิตมีคุณภาพมากขึ้นจากการดูแลเอาใจใส่ของเกษตรกร

สำหรับในปี 2562 คาดว่าจีดีพีภาคเกษตรจะขยายตัว 0.5%เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาต่ำกว่าคาดการณ์เมื่อต้นปีที่ตั้งไว้ 3-4 %โดยปัจจัยหนุนที่จีดีพีเกษตรยังขยายตัวมาจากไม้ผลทั้งทุเรียน มังคุด และเงาะมีการออกดอกติดผลให้ผลผลิตได้จำนวนมาก ไม้ยืนต้นมีเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น ทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น และในส่วนของการผลิตสินค้าปศุสัตว์ มีระบบการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการวางแผนการผลิตและการเฝ้าระวังควบคุมโรคระบาดอย่างต่อเนื่องประกอบกับนโยบายกระทรวงเกษตรฯเช่น การพัฒนาเกษตรกรสู่ Smart Farmer และพัฒนาสถาบันเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพมากขึ้นการผลิตสินค้าเกษตรสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและมีคุณภาพมากขึ้น