พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กล่าวถึงหนังสือขอหารือของพรรคพลังประชารัฐว่า มีสอบถามเรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช.สามารถขึ้นดีเบตและช่วยหาเสียงได้หรือไม่เพราะเป็นช่วงเวลาที่กกต.กำลังจัดเวทีดีเบตประชันนโยบายของพรรคการเมืองว่า มีหนุงสือสอบถามในประเด็นดังกล่าวเข้ามาจริง ในช่วงเวลาแบบนี้ไม่อยากให้พรรคการเมืองใดพลาด กกต.จะเร่งตอบให้เร็ว แต่ต้องรอมติกกต.ก่อน โดยจะพิจารณาจากกฎหมายทุกฉบับที่เกี่ยวข้อง เพราะพล.อ.ประยุทธ์ มีหลายสถานะ
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการซื้อลำดับส.ส.บัญชีรายชื่อในพรรคเพื่อชาติว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่เรื่องไพรมารีโหวต การคัดสรรผู้สมัครเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งต้องดูข้อบังคับพรรคว่าเป็นอย่างไร ส่วนที่มีการระบุว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.เข้าไปเกี่ยวข้องนั้น ยังไม่ทราบในรายละเอียด ขณะนี้พูดได้เฉพาะข้อกฎหมายเท่านั้น และการตรวจสอบจะดูว่ามีคนยืนยันว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ อย่างเรื่องการเก็บบัตรประชาชน เราก็ตรวจสอบอยู่ ดูว่าประเด็นอะไรที่เป็นหน้าที่กกต.เข้าไปเกี่ยวข้อง ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนเพียง 10 เรื่อง แต่เรื่องกกต.ตรวจสอบเองมี 30 เรื่อง
เมื่อถามถึงกรณีมีการร้องขอให้พิจารณายุบ 12 พรรคการเมืองที่เข้าไปแก้ไขข้อมูลผู้สมัครในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรค พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบของสำนักงานฯ ส่วนที่พรรคอ้างว่าระบบฐานข้อมูลของกกต.ไม่เสถียรนั้น ยืนยันว่าระบบของ กกต.เสถียร และการกรอกข้อมูลสมาชิกพรรค กกต.ไม่ได้เป็นผู้กรอกแต่นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือเจ้าหน้าที่พรรคที่มีรหัส เป็นผู้กรอกข้อมูลเข้ามาในระบบ เรื่องการแก้ไขระยะเวลาจึงเป็นประเด็นข้อกฎหมายต้องไปพิจารณากัน
พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.พ.)ว่า ยังไม่ทราบว่าศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้มีการไต่สวนหรือไม่ ต้องรอฟังในวันพรุ่งนี้ แต่เบื้องต้นกกต.มีมติให้ใช้อำนาจตามมาตรา 93 วรรคสาม ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้สำนักงานฯประสานไปยังอัยการสูงสุดเพื่อให้ส่งพนักงานอัยการมาช่วยดำเนินการในการพิจารณาคดีของศาล
