'พานทองแท้' ขึ้นศาลปฏิเสธฟอกเงิน ย้ำลูกทักษิณพร้อมหนุนฝ่ายปชต.

'พานทองแท้' ขึ้นศาลปฏิเสธฟอกเงิน ย้ำลูกทักษิณพร้อมหนุนฝ่ายปชต.

"พจมาน-พินทองทา-แพทองธาร" พร้อมแกนนำพรรคให้กำลังใจคับคั่ง ศาลให้ยื่นคำให้การ14ธ.ค. ด้าน "พานทองแท้" ลั่นเป็น "ลูกทักษิณ" พร้อมหนุนฝ่ายปชต.

ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี เวลา 10.00 น. ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย อท.245/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพานทองแท้ หรือโอ๊ค ชินวัตร อายุ 38 ปี บุตรชายคนโตของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย วันที่ 10 ต.ค.61 ที่ผ่านมา ในความผิดฐาน ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบคบกันฟอกเงิน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5 , 9 , 60 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2558 มาตรา 10 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ 91

จากกรณีร่วมรับโอนเงินเป็นเช็คจำนวน 10 ล้านบาทเข้าบัญชี ซึ่งเงินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำจากการทุจริตปล่อยกู้สินเชื่อระหว่างธนาคารกรุงไทยฯ กับเอกชนกลุ่มกฤษดามหานคร ที่มีนายวิชัย กฤษดาธานนท์ ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับพวกและอดีตคณะผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ตกเป็นจำเลยในคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองซึ่งศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกกลุ่มนายวิชัยกับพวก โดยในส่วนของนายวิชัยเอง ก็ยังถูกอัยการ ยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วย

โดยวันนี้ “นายพานทองแท้” ซึ่งได้รับการประกันตัวระหว่างพิจารณาคดี 1 ล้านบาทนั้น ก็เดินทางมาพร้อมสอบคำให้การ ซึ่งคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา และน้องสาวทั้งสองคือ น.ส.พินทองทาหรือเอม คุณากรวงศ์ กับน.ส.แพทองธารหรืออุ๊งอิ๊งค์ ชินวัตร ก็เดินทางมาร่วมให้กำลังใจด้วย พร้อมกับ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย , นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายส่วนตัวนายทักษิณ และคณะอดีตรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย อาทิ นายชัยเกษม นิติศิริ , นายวัฒนา เมืองสุข รวมทั้ง น.ส.ขัตติยา สวัสดิ์ผล , ร.ท.(หญิง) สุณิสา เลิศภควัต ,นายวรชัย เหมมะ และอดีต ส.ส.เพื่อไทยอีกจำนวนหนึ่ง

เมื่อถึงเวลาสอบคำให้การ ศาลก็ได้อ่านเเละอธิบายคำฟ้องโดยสรุปให้จำเลยฟัง ซึ่งนายพานทองแท้ จำเลย ก็ให้การปฎิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้อง อ้างว่าเงินดังกล่าวเป็นที่ได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนพร้อม ขอส่งคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้ง และเมื่อศาลสอบถามถึงบัญชีพยาน “ฝ่ายอัยการโจทก์” เเละ “ฝ่ายจำเลย” ต่างเสนอบัญชีพยานเอกสาร ฝ่ายละ 8 เเฟ้ม โดย “ศาล” พิจารณาเเล้วอนุญาตให้ “นายพานทองแท้” จำเลย ยื่นคำให้การเป็นลายลักษณ์อักษร ภายในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ และให้คู่ความ ยื่นพยานเอกสารต่อเจ้าพนักงานคดี พร้อมให้กำหนดประเด็นเเละตรวจดูว่าพยานหลักฐานใดที่สามารถรับกันได้โดยไม่ต้องสืบบ้างก็ให้คู่ความเเนบเหตุผลหรือข้อโต้เเย้ง เพื่อรายงานให้ศาลทราบ โดยศาลกำหนดนัดตรวจพยานเอกสารหลักฐานต่างๆ ดังกล่าว รวม 4 วันในวันที่ 22 ม.ค.62 , 26 ก.พ. , 20 มี.ค. เเละ 29 เม.ย.62 ซึ่งศาลได้กำชับคู่ความด้วยว่าให้ทำตามข้อกำหนดของศาล หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ทำตามข้อกำหนดก็ให้ถือว่าไม่ติดใจ ศาลจะพิจารณาพยานหลักฐานตามที่เสนอ และกำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานกับการกำหนดวันไต่สวนพยานอีกครั้งใน วันที่ 25 มิ.ย.62 เวลา 10.00 น.

ทั้งนี้ในวันนัดตรวจพยานหลักฐานที่ 22 ม.ค.62 นั้น ศาลก็จะมีคำสั่งกรณีการขอรวมพิจารณาคดีนี้กับคดีหมายเลขดำ อท.214/2561 ที่พนักงานงานอัยการพิเศษ ได้ยื่นฟ้องนายวิชัย กฤษดาธานนท์ อายุ 79 ปี ผู้บริหารกฤษดามหานคร กับพวกรวม 6 คนต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ก.ย.61 ซึ่งเป็นกลุ่มผู้โอนเงินจาก การอนุมัติสินเชื่อของธ.กรุงไทยฯ ผู้เสียหาย จำนวน 10,400,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นสี่ร้อยล้านบาท) โดยคดีนั้นมีมูลเหตุเดียวกันกับคดีของนายพานทองแท้ ที่ถูกกล่าวหารับโอนเงินเช็คจำนวน 10 ล้านบาท

ภายหลัง “นายพานทองเเท้” จำเลย ได้กล่าวว่า วันนี้ศาลนัดสอบคำให้การ ตนก็ปฏิเสธไป ส่วนในรายละเอียดคดียังไม่ขอพูดถึง สำหรับเรื่องการเข้าทำงานการเมือง “นายพานทองแท้” กล่าวว่า ตนก็มีความพร้อมตั้งเเต่เกิดเป็นลูกของทักษิณ ชินวัตรเเล้ว พร้อมสนับสนุนพรรคการเมืองที่เป็นรูปเเบบประชาธิปไตยทุกรูปเเบบ ส่วนที่อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทยจะเเยกตัวไปตั้งพรรคการเมืองใหม่นั้น ก็มองว่าเป็นสิทธิเเต่ละบุคคล