'เกริก'ห่วงงานธอส.ล่าช้า

'เกริก'ห่วงงานธอส.ล่าช้า

"เกริก" ปัดข่าวปลด "อังคณา" พ้นเอ็มดี ธอส. ลั่นแค่ทำหนังสือรายงานผลปฏิบัติงานถึงรองนายก ยอมรับงานหลายอย่างสะดุดจากเอ็มดีไม่ตัดสินใจ

หลังจากปรากฎข่าวว่า นายเกริก วณิกกุล ประธานคณะกรรมการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.) ได้ทำหนังสือถึง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์และปัญหาการทำงานภายใน ธอส. จนเป็นที่มาของกระแสข่าวการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของ นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธอส. ในช่วงที่ผ่านมา

นายเกริก กล่าวยอมรับว่า ได้ทำหนังสือถึง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร จริง แต่ได้ส่งไปตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย.2557 และหนังสือดังกล่าวก็เป็นเพียง การรายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามหน้าที่ที่ต้องปฎิบัติ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการเสนอให้ปลด นางอังคณา พ้นจากตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ธอส. แต่อย่างใด

“ยืนยันว่าไม่ได้เสนอให้ปลด ซึ่งจริงๆ ถ้าจะปลดทางบอร์ดก็สามารถปลดได้ แต่เราไม่ได้เสนอแบบนั้น และที่ผมเสนอให้ดึง คุณขรรค์ ประจวบเหมาะ อดีตกรรมการผู้จัดการ ธอส. มา ก็เป็นเพียงการมานั่งในตำแหน่งที่ปรึกษา กินเงินเดือนแค่ 1 หมื่นบาท เท่านั้น ขณะที่การบริหารถ้าคุณอังคณาไม่อยากทำ ก็ให้รองกรรมการเป็นผู้ดำเนินการแทน เพียงแต่ถ้าเกิดข้อติดขัดอะไรก็ให้ไปปรึกษากับคุณขรรค์เท่านั้น”นายเกริกกล่าว

นายเกริก กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องดึงนายขรรค์มาเป็นที่ปรึกษา เนื่องจากนายขรรค์เป็นคนที่มีความสามารถและยังเป็นอดีตกรรมการผู้จัดการของ ธอส. จึงเข้าใจระบบการดำเนินงานของธอส.เป็นอย่างดี ซึ่งจะช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างติดขัดไปหมด

“คือตอนนี้มันเหมือนกับไม่มีการบริหารงาน ผมเองก็อยากให้งานออกมาเร็ว อย่างระบบปฏิบัติการต่างๆ ที่ควรต้องปรับปรุง เราเสนอในที่ประชุมและคุยกันแล้ว ตอนประชุมก็รับปากว่าจะดำเนินการ แต่เอาเข้าจริงก็ไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง ขณะนี้มีระบบคอมพิวเตอร์ทั้งในส่วนของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จะหมดอายุทั้งคู่ในปี 2560 การวางแผนเพื่อพัฒนาระบบเหล่านี้ต้องใช้เวลาเป็นปีๆ แต่ก็ยังไม่ดำเนินการอะไร จนที่ปรึกษาบางคนเริ่มออกมาแสดงความเป็นห่วงว่าจะไม่ทันการ”นายเกริกกล่าว

สำหรับหนังสือที่ นายเกริก ส่งถึง ม.ร.ว.ปรีดิยาธร นั้น ได้รายงานให้ทราบถึงสถานะทางการเงิน และปัญหาการบริหารจัดการของธอส. โดยระบุว่า สถานะทางการเงินของธอส. อยู่ในระดับที่ดีพอสมควร มีกำไรปีละ 7 พันล้านบาท

อย่างไรก็ตาม พบว่า ส่วนแบ่งทางการตลาด (มาร์เก็ตแชร์)ในรอบ 10 ปีปรับลดลงจาก 50% เหลือ 30% มีต้นทุนทางการเงิน (Cost of fund) แพงมาก สูงกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่กว่า 1% มีสัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ (Cost to income ratio) ดีมากอยู่ที่ 27% ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อยู่ที่ระดับ 40-45% ส่วนนี้ถือเป็นจุดแข็งของธอส. สำหรับสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของธอส.อยู่ที่ระดับ 5% แต่เอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อยู่ที่ 2%

ในหนังสือดังกล่าว ยังระบุว่า ความสามารถการแข่งขันของธอส.ไม่ค่อยดี เพราะมีต้นทุนทางการเงินสูง ซึ่งต้นทุนต่อรายได้ หรือค่าใช้จ่ายที่ต่ำไม่สามารถชดเชยได้ทั้งหมด สินเชื่อที่ให้ก็ราคาสูงกว่าธนาคารคู่แข่งประมาณ 0.25-0.5% และสินเชื่อก็มีความเปราะบางมากกว่าธนาคารพาณิชย์ที่เป็นคู่แข่ง

นอกจากนี้ธอส.ยังมีปัญหาในการบริหารจัดการ ประกอบด้วย 1. ไม่พยายามคุมค่าใช้จ่าย โดยในปี 2557 ได้ขยายสาขาไปแล้วประมาณ 20 โดยไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ จากขณะนี้ที่มีสาขาอยู่ 195 แห่ง

โดยส่วนนี้นายเกริกได้ให้ความเห็นไว้ว่า “กระผมมองไม่เห็นว่าขยายสาขาแล้วจะทำให้ต้นทุนทางการเงินลดลงได้อย่างไร เมื่อไม่ใช่ Universal Banking และเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่แต่ละแห่งมีกว่า 1 พันสาขา

ส่วนการขยายองค์กร มีการขยายตำแหน่งสูงจำนวนมาก ตั้งแต่ 27% 33% 50% บางปี 500% ส่วนตัวภาคที่คุมสาขาขยายจาก 12 เป็น 21 ไม่แน่ใจว่าเดินมาถูกทางหรือไม่ 2.กระบวนการทำงานล่าช้ามาก ซึ่งปัญหานี้เหมือนทุกคนรู้ แต่ไม่อยากพูด ยิ่งด้านไอทียิ่งมีปัญหา 3.การสรรหาบุคคลเข้ารับตำแหน่งมีปัญหามาก

“ปัญหาเกือบทุกเรื่องติดขัดที่เอ็มดีไม่ได้ตัดสินใจ ซึ่งได้เคยบอกกับคุณขรรค์ ประจวบเหมาะ (อดีตเอ็มดีธอส.)ว่า ถ้ามีโอกาสเข้ามาจะขอให้ดูเรื่องใหญ่ๆ ส่วนเรื่องเล็กๆหรือกลางๆจะขอให้รองเอ็มดีทำ ส่วนเอ็มดีก็ไปดูเรื่องซีเอชอาร์ได้เต็มที่ เพราะเห็นว่า ถ้าปล่อยให้เอ็มดีจัดการเองต่อไป ก็จะสร้างปัญหาเรื้อรังระยะยาว แต่ก็ขออภัยที่กรรมการไม่เห็นด้วย ซึ่งมีมติไปแล้วเมื่อวันที่22 ต.ค.2557 ซึ่งไม่ผ่านวาระให้คุณขรรภ์เข้ามาช่วยด้วยคะแนนเสียง 6ต่อ 3”

อย่างไรก็ตามหลังมี กระแสข่าวการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทำงานของ นางอังคณา ทำให้วานนี้ (2 มี.ค.) มีพนักงานจำนวนหนึ่ง ได้นำดอกไม้มามอบให้กำลังใจ โดยนางอังคณา ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน แต่ได้กล่าวกับพนักงานที่มาให้กำลังใจสั้นๆว่า ตลอดระยะเวลาที่รับตำแหน่งเอ็มดีธอส.ในช่วงที่ผ่านมาได้ใช้ประสบการณ์ที่มีทำงานด้วยความตั้งใจ ใส่ใจและทำเพื่อประเทศตลอดมา และรู้สึกดีใจที่พนักงาน ธอส.เข้าใจและให้กำลังใจ และอยากให้พนักงานธอส.ทั้งหมดที่มีอยู่ 3-4 พันคน ตั้งใจและช่วยกันทำงานเพื่อองค์กรและเพื่อประเทศชาติ ช่วยเหลือให้ผู้มีรายได้น้อยสามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ตามนโยบายของรัฐบาล

นายสัญญา ศรีรัตน์ ประธานสหภาพพนักงาน ธอส. กล่าวว่า สมาชิกสหภาพฯ ส่วนหนึ่งได้รับอีเมลแจ้งว่าประธานบอร์ด ธอส.จะมีการเสนอชื่อนายขรรค์ ประจวบเหมาะ อดีตกรรมการผู้จัดการ ธอส.มาเป็นที่ปรึกษาของธนาคาร และให้ดูแลการบริหารงานแทนนางอังคณา ที่จะให้ไปดูแลเฉพาะงานด้าน ซีเอสอาร์ เท่านั้น เนื่องจากเห็นว่าหากมีการดึงอดีตกรรมการผู้จัดการเข้ามา จะทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงานของธนาคารได้

หลังจากนี้สหภาพฯ จะมีการประชุมคณะกรรมการกิจการสัมพันธ์ เพื่อหาข้อสรุปเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว ก่อนจะทำหนังสือถึงฝ่ายจัดการ ประธานคณะกรรมการธนาคาร และนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลังที่รับผิดชอบดูแล ธอส.เพื่อให้พิจารณาเรื่องดังกล่าว โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 2 สัปดาห์จะได้ข้อสรุป