กูรูมั่นใจ'ไอพีโอ'ปีแพะสดใส

กูรูมั่นใจ'ไอพีโอ'ปีแพะสดใส

(รายงาน) กูรูมั่นใจ "ไอพีโอ" ปีแพะสดใส บริษัทจ่อยื่นไฟลิ่งกว่า20แห่ง

ตลาดหลักทรัพย์-โบรกเกอร์ มั่นใจไอพีโอปีหน้าสดใส หลังปีที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 50% และได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจฟื้นตัว เผยมีบริษัทจ่อยื่นไฟลิ่งแล้วกว่า 20 แห่ง ตั้งเป้ามูลค่าหุ้นไอพีโอไม่ต่ำกว่า 2.5 แสนล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าใหม่ หรือที่เรียกกันติดปากว่า ‘หุ้นไอพีโอ’ ในปี 2557 ถือได้ว่าเป็นอีกปีหนึ่งน่าจะสร้างความพึงพอใจให้กับนักลงทุนไม่มากก็น้อย เพราะตลอดทั้งปีที่ผ่านมามีหุ้นไอพีโอที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ รวม 36 บริษัท ซึ่งให้ผลตอบแทนเฉลี่ยถึง 88.62% จากราคาไอพีโอ (ณ ราคาปิดวันที่ 25 ธ.ค. 2557)

สำหรับในปี 2558 นักลงทุนหลายรายก็มีคำถามขึ้นมาว่า หุ้นไอพีโอจะให้ผลตอบแทนดีเหมือนปี 2557 ที่ผ่านมาหรือไม่?

ชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า ในปี 2558 ตลาดหลักทรัพย์ได้ตั้งเป้าหมายในเบื้องต้นเอาไว้ว่ามูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอจะต้องไม่แพ้ปีนี้ หรืออยู่ที่ระดับ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีบริษัทที่เตรียมจะยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้วกว่า 20 แห่ง

“ในปี 2558 ยังคงมั่นใจว่าภาวะของหุ้นไอพีโอจะสดใสต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่านักลงทุนยังคงต้องการซื้อหุ้นไอพีโออยู่ เนื่องจากในปีที่ผ่านมาผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นไอพีโอโดยเฉลี่ยจะมากกว่า 50% ขึ้นไป” ชนิตร กล่าว

ขณะที่ ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้ช่วยผู้จัดการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ยังเดินหน้านำบริษัทเข้าจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเปิดเผยว่า มีบริษัทที่พร้อมเข้าทำการซื้อขายในวันแรกแล้ว 2 บริษัทในเดือน ม.ค. 2558 คือ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ซึ่งกำหนดราคาไอพีโอที่ 12.75 บาท มีมูลค่าการระดมทุน 1,140.48 ล้านบาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอ 5,100 ล้านบาท และเตรียมเข้าซื้อขายในวันที่ 8 ม.ค. 2558

ส่วนอีกบริษัทหนึ่งคือ บริษัท เอ็น.ดี.รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NDR คาดว่าจะกำหนดราคาไอพีโอช่วงต้นเดือน ม.ค. 2558 เปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 6-9 ม.ค. 2558 และเตรียมเข้าซื้อขายในช่วงกลางเดือน ม.ค. 2558

“ปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้นักลงทุนยังคงมองหุ้นไอพีโอค่อนข้างดี แต่อย่างไรก็ตามยังคงต้องรอดูกันต่อไปว่าหุ้นไอพีโอจะร้อนแรงเหมือนในปี 2557 หรือไม่ อย่างไรก็ตามได้ตั้งเป้าว่าจะมีบริษัทหลักทรัพย์จดทะเบียนเข้าใหม่อย่างน้อย 20 แห่ง เข้าจดทะเบียนในตลาด เอ็ม เอ ไอ” ประพันธ์ กล่าว

ทางฝั่งฝ่ายวาณิชธนกิจของบริษัทหลักทรัพย์ต่างมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าภาวะของหุ้นไอพีโอในปี 2558 จะเป็นไปในทิศทางเชิงบวกดังเช่นในปี 2557 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวชัดเจน ส่งผลให้นักลงทุนยังคงเชื่อมั่นในการจัดสรรเงินลงทุนเข้ามาในส่วนนี้

สมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของหุ้นไอพีโอในปีหน้าจะเป็นปีที่ดีต่อเนื่อง ตามแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งคาดว่าตัวเลขจีดีพีของไทยน่าจะเติบโตได้ 4-5% จากปีนี้ ที่คาดว่าน่าจะเติบโตได้ประมาณ 1% ส่งผลให้ภาวะตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นไปในทิศทางเชิงบวก

“เชื่อว่า 90% ของผู้ที่ซื้อหุ้นไอพีโอในปี 2557 จะได้ผลตอบแทนที่ดีหลังจากที่หุ้นเหล่านั้นเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แล้ว ซึ่งผลตอบแทนส่วนใหญ่ที่เป็นบวกนี้จะดึงดูดให้นักลงทุนยังให้ความสนใจกับหุ้นไอพีโอเช่นเคย สำหรับปี 2558 บล.ฟินันเซียคาดว่าจะสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ประมาณ 3-4 บริษัท จากปีนี้ทั้งหมด 7 บริษัท” สมภพ กล่าว

ขณะที่ สุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจวาณิชธนกิจ และที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท หลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปี 2558 คาดว่าจะสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนได้ 3-5 บริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ประมาณ 40,000 - 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทที่มีมูลค่าประมาณ 8,000-10,000 ล้านบาท 3 บริษัท และบริษัทที่มีมูลค่า 5,000 ล้านบาท 2 บริษัท ส่วนในปีนี้ได้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนทั้งสิ้น 2 บริษัท ซึ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 1 บริษัท และในตลาด เอ็ม เอ ไอ 1 บริษัท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคาไอพีโอรวม 2,254 ล้านบาท

“คาดว่ามูลค่าการระดมทุนของทั้งตลาดในปี 2558 น่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยบริษัทส่วนใหญ่น่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่มากกว่า เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกของปีที่ผ่านมามีปัญหาภายในประเทศ ทำให้การเตรียมการของหลายๆ บริษัทต้องล่าช้าออกไป นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจะมีดีลในส่วนของอินฟราฟันด์และกองรีทออกมาเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทก็มีดีลในส่วนของกองทุนเหล่านี้ที่อยู่ระหว่างการพิจารณา 2-3 ดีลเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้” สุวภา กล่าว

ด้าน อรรถพงศ์ พรธิติ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายวาณิชธนกิจ กลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2558 คาดว่าจะนำบริษัทและบริษัทหลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนได้ 5-6 แห่ง มูลค่าหลักทรัพย์รวมประมาณ 30,000-40,000 บาท โดยแบ่งเป็นหุ้นไอพีโอ 2-3 ตัว ซึ่งอยู่ในธุรกิจอาหารและอุตสาหกรรมน้ำตาล คาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในเซ็ท นอกจากนี้ยังมีกองรีทและกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

“เชื่อว่าปี 2558 จะมีกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเข้าจดทะเบียนเพิ่มมากขึ้น แต่ในส่วนของหุ้นไอพีโอนั้นอาจจะไม่เยอะเท่ากับปีนี้ หลังบริษัทขนาดเล็กทยอยเข้าจดทะเบียนไปมากในปีนี้ ส่วนบรรยากาศการลงทุนในหุ้นไอพีโอนั้น ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งโดยส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะดีขึ้น หากไม่มีปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้อย่างเช่นปีนี้เข้ามากระทบ” อรรถพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2557 ที่ผ่านมาหุ้นไอพีโอทั้งสิ้น 36 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 16 แห่ง บริษัทจดทะเบียนในตลาดเอ็ม เอ ไอ 20 แห่ง โดยบริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูงสุดหลังจากเข้าจดทะเบียน 3 อันดับแรก คือ บริษัท ระยองไวร์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ RWI ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 5.45 บาท จากราคาไอพีโอที่ 1.60 บาท หรือ 340% บริษัท ไอร่า แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ AIRA ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 2.43 บาท จากราคาไอพีโอที่ 0.75 บาท หรือ 324% และบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 17.50 บาท จากราคาไอพีโอที่ 6.90 บาท หรือ 253%

ส่วนบริษัทที่ให้ผลตอบแทนติดลบมีทั้งสิ้น 6 บริษัท โดยบริษัทที่ให้ผลตอบแทนติดลบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TAE ราคาหุ้นลดลง 1.82 บาท จากราคาไอพีโอที่ 5.60 บาท หรือ 32.5% บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ราคาหุ้นลดลง 1.23 บาท จากราคาไอพีโอที่ 4.75 บาท หรือ 25.89% และบริษัท เจ.เอส.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JSP ราคาหุ้นลดลง 0.66 บาท จากราคาไอพีโอที่ 2.60 บาท หรือ 25.38%

ขณะที่หุ้นไอพีโอที่ให้ผลตอบแทนเกินกว่า 100% มีทั้งสิ้น 16 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทในเซ็ท 4 บริษัท และในตลาด เอ็ม เอ ไอ 12 บริษัท เชื่อว่าในปี 2557 นักลงทุนคงจะได้ผลตอบแทนที่ดีจากหุ้นไอพีโอ โดยเฉพาะในตลาด เอ็ม เอ ไอ ซึ่งมีหุ้นไอพีโอที่ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นกว่า 100% ถึง 12 บริษัท ส่วนในปี 2558 หากเศรษฐกิจสามารถเติบโตได้ดีอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ภาวะของหุ้นไอพีโอก็น่าจะเป็นไปในทิศทางเชิงบวกดังเช่นปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ‘การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน’