'กรุงไทย'รับให้กู้โรงสีประมูลข้าวรัฐ

'กรุงไทย'รับให้กู้โรงสีประมูลข้าวรัฐ

"กรุงไทย"ระบุปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการโรงสีเพื่อประมูลข้าวสารรัฐเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน ระบุเป็นสินเชื่อเดิมที่ออก ธ.ค.56

นายประสิทธิ์ วสุภัทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารได้ออกหนังสือเวียน เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2557 เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผลิตภัณฑ์สินเชื่อระยะสั้นสำหรับผู้ประกอบการค้าข้าว เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวที่มีศักยภาพ ที่ชนะการประมูลข้าวสารจากองค์การคลังสินค้า ( อคส.) สำหรับนำไปซื้อข้าวสาร ซึ่งเป็นไปตามวงจรธุรกิจปกติ และเป็นสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกค้าในกลุ่มโรงสีมานานแล้ว เพียงแต่ได้พัฒนาเพื่อให้มีกรอบการพิจารณาที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และเป็นมาตรฐานเดียวกัน

โดยจะเน้นลูกค้าสินเชื่อรายเดิมที่ต้องการขอสินเชื่อเพื่อประมูลซื้อข้าวจากภาครัฐและผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าหรือ AFET ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารได้ออกมาแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ที่ออกหนังสือเวียนมาในจังหวะเวลานี้ เนื่องจากต้องการทบทวนคุณสมบัติลูกค้าและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้รัดกุมมากขึ้น ตามหลักการบริหารความเสี่ยงการให้สินเชื่อที่จะต้องรัดกุมมากขึ้น

เนื่องจากในขณะนี้นักวิชาการและหลายภาคส่วนต้องการให้รัฐบาลขายข้าวออกมาเพื่อใช้หนี้ชาวนา โดยเปิดให้โรงสีและผู้ส่งออกมาประมูลซื้อข้าว แต่ธนาคารต้องการดูคุณสมบัติลูกค้าและแผนในการประมูลและขายข้าวที่ชัดเจนหากจะเป็นการบรรจุถุงขายในประเทศผู้ประมูลต้องมีศักยภาพเพียงพอ โดยธนาคารจะเน้นลูกค้าเดิมที่มีวงเงินอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว และทบทวนคุณสมบัติใหม่ในภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป

คุณสมบัติลูกค้าที่กำหนดใหม่นั้น จะต้องเป็นลูกค้าที่ดี ผลประกอบการมีกำไรต่อเนื่อง 2 ปี และดูประวัติจากเครดิตบูโรประกอบด้วย ขณะเดียวกันต้องพิจารณาแผนการประมูลข้าวและขายที่ชัดเจน เช่นราคาประมูลแพงหรือไม่ โอกาสในการขายเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้ธนาคารจะปล่อยสินเชื่อในวงเงินไม่เกิน 70% ของราคาประมูลที่เหลือผู้ประกอบการต้องมีทุนส่วนตัว และกำหนดว่าวงเงินที่ให้ไปไม่เกิน 9 เดือน และการจ่ายเงินจะเป็นการจ่ายให้ อคส.โดยตรงด้วย เชื่อว่าจะช่วยเหลือชาวนาทางอ้อม

สำหรับวงเงินสินเชื่อในกลุ่มโรงสีนั้นปัจจุบันมีภาระหนี้กับธนาคารอยู่ 2 หมื่นล้านบาท และมีวงเงินสำหรับเบิกใช้ได้อีก 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งในวงเงินที่รอเบิกใช้นี้ในเบื้องต้นธนาคารจะควบคุมให้เป็นวงเงินที่ใช้ในโครงการรับจำนำข้าวตลอดปี 2557 ไม่เกิน 5 พันล้านบาท