KBSลุยโปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าขนาด 35 MW

KBSลุยโปรเจ็กต์โรงไฟฟ้าขนาด 35 MW

น้ำตาลครบุรีลุยโปรเจคโรงไฟฟ้าขนาด 35 MW แบงก์กรุงศรีเชื่อมั่นในศักยภาพยยอมควักเงินให้สินเชื่อ 1.15 พันล้านบาท

นายอิสสระ ถวิลเติมทรัพย์ กรรมการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) (KBS) เปิดเผยว่าบริษัทได้ร่วมลงนามในสัญญาเงินกู้ยืมระยะยาวกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 1,150 ล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า จากพลังงานชีวมวลกำลังการผลิตขนาด 35 เมกกะวัตต์ ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด (KPP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ KBS ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.99 โดยโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลนี้มีการลงทุนทั้งสิ้น 1,638 ล้านบาท โดยคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรแล้วเสร็จ พร้อมจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ได้ประมาณเดือนมกราคม 2557

"โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 35 เมกกะวัตต์ นี้จะทำให้กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 250 – 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของฝ่ายบริหารที่ต้องการเพิ่มศักยภาพการทำกำไร (Value added) จากการผลิตน้ำตาลและผลพลอยจากการผลิตน้ำตาลได้ให้มากที่สุดและขณะเดียวกันก็พยายามที่จะเพิ่มสัดส่วนของรายได้ที่มีความสม่ำเสมอ เมื่อบริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการนี้แล้ว จะทำไห้ อัตรากำไรของบริษัทสูงขึ้น นอกจากนั้น ฐานกำไรของบริษัทมีความสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น และผลกระทบจากความผันผวนของระดับราคาน้ำตาลในตลาดโลกต่อกำไรของบริษัทจะลดลง เงินกู้ยืมระยะยาวจากธนาคารกรุงศรี เป็นการสนับสนุนให้บริษัทดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวได้อย่างราบรื่น เป็นการตอกย้ำความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง"

ด้าน นายพรสนอง ตู้จินดา กรรมการและประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การให้วงเงินสนับสนุนแก่ บมจ.น้ำตาลครบุรี ในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการผลักดันโครงการด้านพลังงานที่มีศักยภาพให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจรวมถึงเสริมศักยภาพ ให้กับบมจ.น้ำตาลครบุรีแล้ว ยังถือเป็นการเชื่อมต่อความเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีต่อกันในระยะยาวอีกด้วย ธนาคารยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อธุรกิจน้ำตาล ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ประเทศไทยมีความเข้มแข็ง และมีศักยภาพที่จะรักษาความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและระดับโลก เชื่อว่าอุตสาหกรรมน้ำตาลไทยยังสามารถเติบโตตามความต้องการน้ำตาลที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของฐานชนชั้นกลางในเอเซีย ซึ่ง บมจ.น้ำตาลครบุรี ถือเป็นบริษัทน้ำตาลชั้นนำของประเทศไทย มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่ยังมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต มีฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศที่มีความมั่นคง รวมถึงมีผลประกอบการที่เติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี จึงทำให้ธนาคารกรุงศรี มีความเชื่อมั่นในศักยภาพว่า บมจ.น้ำตาลครบุรี จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต