กรมศิลป์ใช้เวลา2เดือนตรวจของกลาง2หมื่นชิ้น

กรมศิลป์ใช้เวลา2เดือนตรวจของกลาง2หมื่นชิ้น

กรมศิลปากรสรุปตรวจวัตถุโบราณคดี "พงศพัฒน์" พบบางชิ้นอายุพันปี ใช้เวลา2เดือนตรวจ2หมื่นกว่าชิ้น

นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร พร้อมด้วย นายสมชาย ณ นครพนม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโบราณคดี (โบราณคดีและพิพิธภัณฑ์) นายสหภูมิ ภูมิธฤติรัฐ ผู้อำนวยการสำนักพิพิธภัณฑสถาน แห่งชาติ และ นางพัชรินทร์ ศุขประมูล หัวหน้ากลุ่มทะเบียนคลัง พิพิธภัณฑ์และสารสนเทศ สำนักพิพิธภัณฑสถานแถลงผลการตรวจวัตุโบราณกว่า 3 หมื่นชิ้น ในคดีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์และพวกอดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับพวกรวมทั้งหมด 12 คน

ซึ่งเป็นผู้ต้องหาความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ มาตรา 148 และเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 149 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งจากการตรวสอบในภายหลังพบว่ามีการซุกซ่อนทรัพย์สินจำนวนมาก อาทิ เงินสดสกุลดอล์ลาร์ วัตถุโบราณ และทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ และได้ทำการยึดมาเป็นของกลางแล้วนั้น กรมศิลปากรจึงทำการสรุปผลการร่วมตรวจสอบเบื้องต้นจากการตรวจยึดทรัพย์สินของกลางได้ จากการกระทำความผิด

นายบวรเวท กล่าวว่าในการตรวจสอบของกลางที่เกี่ยวข้องกับกรมศิลปากรสรุปได้ดังนี้1.ชนิดวัตถุแยกตามประเภทของกลาง ประกอบด้วย ประติมากรรมทำด้วยวัสดุหลากหลายทั้งโลหะ ไม้ และหิน เช่น พระพุทธรูปเทวรูป ภาพแกะสลักไม้ เครื่องปั้นดินเผา เช่นเครื่องถ้วยและ รวมถึงภาพเขียนด้วย 2.ประเภทของกลางตามรูปแบบศิลปะและอายุสมัย เป็นโบราณวัตถุที่มีค่าทางประวัติศาสตร์ศิลปะแบบไทย ส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปทำด้วยโลหะและไม้ตั้งแต่สมัยอยุทธยาจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 23-25 และพบศิลปะวัตถุที่ทำด้วยฝีมือประณีต จำแนกตามศิลปะรูปแบบต่างประเทศ เช่นภาพสลักหินแบบศิลปเขมร รูปเทพเจ้าศิลปะแบบจีน รูปสลักหินอ่อน ศิลปะตะวันตก ร๔ปสลักหินอ่อนศิลปะอินเดีย และพระพุทธรูปศิลปะพม่า บางรายการอาจเป็นโบราณวัตถุ บางรายการอาจจะทำเลียบแบบรวมถึงการจำลองวัตถุเหล่านั้นด้วย 3.ภาพถ่ายทางวัตถุโบราณนั้นพบเป็นศิลปะที่ยึดได้จำนวนไม่ต่ำกว่า 20,000รายการ โดยเก็บไว้เป็นหลักฐานเบื้องต้น และคาดว่าน่าจะพบเพิ่มขึ้นอีก

นายบวรเวท กล่าวต่อว่า ผลการประชุมหารือกับหน่วยงานต่างๆโดยมี พ.ต.อ.เอกลักษณ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บังคับการ กองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจนครบาลและพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา ผู้บัญชาการตำรวจ ร่วมหารือกันนั้น มีการประสานขอความร่วมมือจากกรมศิลปกร ดำเนินการร่วมตรวจสอบ 1.การตรวจพิสูจน์แนกประเภทและจัดทำบัญชีรายละเอียดวัตถุโบราณ พร้อมด้วยการประเมินราคา 2.ของกลางที่เป็นวัตถุโบราณที่ยึดได้และตรวจแล้วนั้นรับฝากที่กรมศิลปากรจนกว่าคดีจะสิ้นสุด 3.ในการตรวจสอบได้ขอรับความร่วมมือปฏิบัติงานร่วมกับ ปปง. ทหาร ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมศิลปกรแจ้งรายชื่อร่วมถึงการจัดทำบัตรประจำตัวผู้ปฏิบัติงานด้วย 4.การประเมินค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ในด้านของวัสดุที่ใช้ในการจัดทำทะเบียนและบรรจุหีบหอร่วมถึงการปฏิบัติการย้ายหีบห่อวัตถุโบราณด้วย

"ในด้านของการเก็บของกลางวัตถุโบราณที่ตรวจยึดได้นั้นจะนำเข้าฝากที่คลังกลางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี และวัตถุที่มีค่าทางสูงในทางศิลปะ ด้านของทำเลียนแบบการจำลองวัตถุโบราณ การจำลองศิลปะวัตถุ ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้หาที่จัดเก็บ โดยทางกรมศิลปากรมีเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์ กำหนดอายุสมัย กำหนดค่าทรัพย์สิน และประเมินราคาวัตถุโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุอย่างละเอียด โดยจะเริ่มตรวจอย่างละเอีายดเพื่อแยกจำแนกประเภทวัตถุนั้นๆ กว่า 20,000ชิ้นคาดว่าน่าจะใช้เวลา กว่า2เดือน" นายบวรเวท กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามประเด็นวัตถุโบราณของกรมศิลปากรเคยมีแจ้งหายก่อนหน้านี้บ้างหรือไม่ นายบวรเวท กล่าวว่า วัตถุโบราณที่เรามีอยู่นั้นเท่าที่ตรวจสอบไม่มีของหายแต่อย่างใด ยังอยู่ครบทุกชิ้นทั้งในคลังกรมศิลปากรและพิพิธภัณฑ์

เมื่อผู้สื่อข่าวถามอีกว่าของบางชิ้นอาจเป็นของที่ถูกโจรกรรมมา หรือเป็นของที่ถูกซื้อผ่านร้านขายของเก่า ทั้งนี้สามารถตรวจสอบได้หรือไม่ และมีมาตราการการควบคุมร้านขายของเก่าอย่างไรบ้าง นายบวรเวทตอบว่า สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นของที่ถูกซื้อผ่านร้านค้าของเก่าหรือโจรกรรมมา เนื่องจากการเปิดร้านค้าของเก่าต้องมีการขออนุญาต จึงจะสามารถเปิดได้อย่างถูกกฎหมาย นอกจากนี้ยังต้องทำบัญชีว่าได้ของเก่าชิ้นนั้นมาอย่างไร ขายทอดไปสู่ผู้ใดต้องมีการระบุชัดเจน ส่วนของวัตถุโบราณบางชิ้นที่เป็นศิลปะของต่างประเทศนั้นก็จะสอบถามไปยัง ประเทศนั้นๆว่ามีวัตถุโบราณหายหรือไม่ ถ้าหายมีเอกสารที่ตรงกับของกลางที่เรามีก็จะส่งคืนให้กับ ประเทศดังกล่าว เคยมีกรณีของกัมพูชาที่แจ้งวัตถุโบราณหายพอพบในไทยเราก็ประสานคืนไปยังกัมพูชา 2-3ครั้งแล้ว เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไว้ และกรณีของที่กล่าวแก่ที่ตรวจพบนั้นเราคาดว่าที่เก่าแก่สุด 1,200กว่าปี บางชิ้นที่ไม่เคยพบเลย เช่นพระพุทธรูปไม้เก่าแก่ จะต้องมีการสอบถามผู้ต้องหา ว่าได้มาอย่างไร

นายบวรเวทกล่าวอีกว่า กรณีที่ประชาชนหรือแม้กระทั่งวัดหรือศาลเจ้าต่างๆ มีของวัตถุโบราณหายก็สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ชั้น 2 สำนักงานพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ ก็มีบางรายแจ้งเข้ามาพร้อมหลักฐานหลายรายแล้ว ก็จะนำหลักฐานมาเปรียบเทียบกับของกลางวัตุโบราณที่มีอยู่ แต่ทั้งหมดที่มีอยู่กว่า 20,000ชิ้นนั้นก็ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ คาดว่า 1-2เดือนน่าจะแถลงการทั้งหมดให้สื่อมวลชนและประชาชนได้ทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง