ปชป.ส่ง'อภิสิทธิ์-ชำนิ'หารือกกต.

ปชป.ส่ง'อภิสิทธิ์-ชำนิ'หารือกกต.

“ปชป.” ส่ง “มาร์ค-ชำนิ” หารือ กกต. นัด 70 พรรคการเมือง หาทางออก ลต. 22 เม.ย.นี้ ย้ำ เคารพ ปชต.- พร้อมร่วมแก้วิกฤติชาติ

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่ากรณีที่ 70 พรรคการเมือง ตอบรับเข้าร่วมหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันที่ 22 เม.ย. ที่ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ วิภาวดี ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะเดินทางไปร่วมหารือ พร้อมนายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ซึ่งเป็นการแสดงความจริงใจและเป็นเครื่องยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ เคารพประชาธิปไตยและพร้อมเข้าร่วมแก้วิกฤติของประเทศ ในการจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด แต่ไม่ใช่เป็นการยอมรับให้มีการเลือกตั้ง เนื่องจากขณะนี้บ้านเมืองมีปัญหาอย่างหนัก และเห็นได้ว่าสถานการณ์ขณะนี้ ประเทศยังไม่มีความพร้อมจะเดินเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาการเรียกร้องของพรรคประชาธิปัตย์ ต่อรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้รับการแก้ไข คือ ยังมีการใช้กำลังข่มขู่ คุกคามของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง เช่นเมื่อวานนี้ (18 เม.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้นำนักศึกษาหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.)รุ่นที่5 ของกกต. ตรวจสอบลงพื้นที่จังหวัดลำพูนก็ถูกคนเสื้อแดงใช้อาวุธข่มขู่ คุกคามเพื่อขอเข้าพบนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารจัดการเลือกตั้ง แต่หาตัวนายสมชัยไม่พบ ทำให้คนเสื้อแดงพุ่งเป้าไปที่อดีต 4 ส.ส พรรคประชาธิปัตย์ คือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง, นางศิริวรรณ ปราศจากศรัตรู , นายอภิชาติ ศักดิเศรษฐ์ และนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ที่ร่วมเป็นนักศึกษาในหลักสูตรดังกล่าว และโดนปิดล้อมทั้ง 4 คน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต้องย้ายบุคคลดังกล่าว ออกจากพื้นที่ขณะที่ยังศึกษาดูงานอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านี่คือเหตุผลที่ไม่สามารถเลือกตั้งได้ ดังนั้นพรรคเพื่อไทยต้องตอบคำถามให้ได้

โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการโพสเฟสบุ๊คของคนเสื้อแดง ที่ข่มขู่ว่าจะมีหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งเข้าร่วม ที่กกต.เป็นเจ้าภาพและจะจัดการกับนายอภิสิทธิ์ในวันดังกล่าว ซึ่งเป็นการข่มขู่คุกคามอย่างชัดเจน หากพรรคเพื่อไทย ไม่สามารถควบคุมมวลชนและตอบคำถามให้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งจะมีความสงบเรียบร้อยโดยไม่มีการข่มขู่คุกคามได้เช่นไร

นายชวนนท์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าได้รายงานข้อมูลทุกขั้นตอน ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีร่วมอยู่ด้วย เป็นการยืนยันว่านายกรัฐมนตรีรู้ความเป็นไปในโครงการับจำนำข้าวทุกขั้นตอน ซึ่งล่าสุดก็มีชาวนาผูกคอตายที่ไม่ได้รับเงิน

ส่วนกรณีที่นายอุกฤษ มงคลนาวิน ประธานคณะกรรมการองค์กรอิสระว่าด้วยหลักนิติธรรมแห่งชาติ(คอนธ.) ระบุว่า การพ้นตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี ต้องมีพระบรมราชโองการนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า เป็นการโกหกที่โยงสถาบันอ้างพระราชอำนาจอย่างน่ารังเกียจ และการพ้นตำแหน่งของนายสมัคร สุนทรเวช เมื่อปี 2549 ก็ไม่ต้องมีพระบรมราชโองการ ถ้าหากยังมีการก้าวล่วงแบบนี้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป รวมทั้งรัฐบาลยังปล่อยปะละเลยไม่มีการดำเนินคดีกับผู้หมิ่นสถาบัน เช่น นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋ ) ดีเจเสื้อแดงปทุมธานี ที่ขณะนี้หนีออกไปนอกประเทศแล้ว หลังถูกออกหมายจับ ซึ่งหากรัฐบาลยังละเลยเรื่องเหล่านี้ เชื่อว่าการเลือกตั้งที่สงบเรียบร้อยจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน และพรรคประชาธิปัตย์ก็จะไม่ลงสมัครรับการเลือกตั้งเช่นกัน

“ขอให้กำลังใจข้าราชการที่ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของข้าราชการไทย โดยเฉพาะนพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่ถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี จากนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ จึงขอให้หยุดดูหมิ่นข้าราชการ เพราะไม่ใช่ขี้ข้าของนักการเมือง แต่เป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอให้กำลังใจให้ทำงานอย่างดีที่สุด เพราะขณะนี้เป็นเวลาสำคัญที่ราชการที่ดีต้องปกป้องประเทศไทยจากรัฐบาลทรราชย์” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว