สหรัฐฟื้นสัมพันธ์ทางการทูตคิวบา

ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ และนายราอูล คาสโตร ผู้นำคิวบา ต่างประกาศต่อประชาชนของแต่ละประเทศถึงการยุติการทำสงครามเย็นที่ดำเนินมานานกว่า 50 ปี โดยประธานาธิบดีโอบามา ระบุว่า สหรัฐจะเดินหน้าสู่การสร้างสัมพันธ์ระดับปกติกับคิวบา และจะเปิดสถานทูตสหรัฐ ในประเทศนี้ต่อไป

เช่นเดียวกับประธานาธิบดีคาสโตร ที่แถลงในกรุงฮาวานา ยืนยันว่า ทั้ง 2 ประเทศ ที่เคยเป็นอดีตศัตรูกันนั้น เห็นพ้องที่สานสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันขึ้นมาใหม่

การประกาศของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเกิดขึ้นหลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายได้มีการหารือกันทางโทรศัพท์นานเกือบ 1 ชั่วโมง ซึ่งในการฟื้นสัมพันธ์รอบใหม่นี้ คิวบาได้ตัดสินใจปล่อยตัวนายอลัน กรอส เจ้าหน้าที่ด้านการบรรเทาทุกข์ชาวอเมริกันวัย 65 ปี ที่ถูกคุมขังในคิวบามานาน 5 ปี รวมถึง สายลับอเมริกัน 2 คน ที่ถูกคุมขังมานานเกือบ 20 ปี

ขณะที่ทางสหรัฐเอง ก็ยินยอมปล่อยตัวสายลับคิวบา 3 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในประเทศด้วย

อย่างไรก็ดี แม้จะมีการบรรลุข้อตกลงทางการทูตกันแล้ว แต่การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหรัฐต่อคิวบา ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ซึ่งประธานาธิบดีคาสโตร ระบุว่า เป็นเรื่องที่ต้องมีการแก้ไขกันต่อไป ส่วนผู้นำสหรัฐ ยอมรับว่า สหรัฐล้มเหลวในเรื่องการคว่ำบาตรนี้ และว่า จะมีการหารือกับสภาคองเกรส เพื่อหารือถึงการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้ ควบคู่ไปกับการเดินหน้าทางการทูต และการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกัน