นายกฯแนะทุกกระทรวงเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถกตปท.

นายกฯแนะทุกกระทรวงเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถกตปท.

"ประยุทธ์"แนะทุกกระทรวงเตรียมตัวให้พร้อมก่อนถกกับตปท. ระบุเขายื่นอะไรมาไม่ควรรับอย่างเดียวต้องมีของไปเสนอด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ กล่าวถึงการหารือและการร่วมประชุมกับต่างประเทศของรัฐบาลในช่วงนี้ ว่า ในการเดินทางไปประชุมร่วมกับต่างประเทศ วันนี้ก็ให้นโยบายไปกับทุกกระทรวงว่า เวลาประชุมมีเรื่องหลายเรื่องที่ต้องไปพูดกับเขา ไปรับอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีข้อเสนอจากเราไปด้วย ไม่ว่าจะเรื่องโลกร้อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพลังงานสีเขียว มันต้องมีข้อเสนอของประเทศเราไปด้วย ตนยกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องโลกร้อนนี่ เราไม่ใช่ประเทศที่สร้างโลกร้อน มลพิษมากนัก แต่เรามีป่าไม้ ทำยังไงให้เขาสนใจเราตรงนี้ ประเทศใดที่รักษาป่าไม้ได้ดี เคยพูดกันมาแล้ว ในเรื่องคาร์บอนเครดิต ก็คงต้องทำให้ต่อเนื่อง ว่าทำอย่างไรประเทศเหล่านี้จะได้เงินมาสนับสนุนในเรื่องของการดูแลป่าไม้ ในเรื่องของการรักษาทรัพยากรสิ่งแวดล้อม เพื่อจะได้เป็นปอดของโลก เราสร้างความสำคัญตรงนี้ให้ได้แล้วกัน เพราะงั้น การไปประชุมในทุกๆ เรื่อง

" ทุกกระทรวงต้องรู้ทุกเรื่องว่าเราจะไปพูดอะไรกับเขา ไปประชุมเศรษฐกิจ ก็พูดความมั่นคงได้ เพราะมันพันยึดโยงกันไปหมดขณะนี้ ต้องมีข้อมูล เพราะจะทำงานอิสระ กระทรวงใคร กระทรวงมันไม่ได้แล้ว ต้องรู้กระทรวงอื่นด้วย เพราะงั้นเวลาประชุมครม.ทุกกระทรวงต้องรู้ทุกเรื่องว่าเราจะไปพูดอะไรกับเขา ไปประชุมเศรษฐกิจ ก็พูดความมั่นคงได้ ผมจะพูดเยอะเพราะต้องการให้เข้าใจว่านโยบาย รัฐบาลว่ายังไง กระทรวงนั้น กระทรวงนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรตรงไหน อะไรหลัก อะไรรอง อะไรเสริม จะได้มีเรื่องไปพูดกับเขา ไปยื่นข้อเสนอเขาบ้างไม่ใช่ไปรับเขามาอย่างเดียวไม่ได้ " พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องของการส่งเสริมการค้าการลงทุน วันนี้เราแก้ไขไปหลายอย่างด้วยกัน เรื่องกฎกติกา เรื่องขั้นตอน เรื่องเวลา ระยะเวลานี่ เดิมเคยใช้เวลาเป็นเดือนๆ วันนี้ต้องเรียบร้อยภายใน 30 วัน แล้วการลงทุนทั้งหมด ต้องไปเข้าที่ BOI ก่อนแล้ว BOI จะชี้แจงได้ ถ้าเป็นต่างประเทศในประเทศก็ได้ ถ้านึกอะไรไม่ออกก็ไปที่ BOI นึกอะไรไม่ออกก็มาที่รัฐบาล ตนก็พร้อมจะชี้แจงพร้อมจะมีผู้นำพาหรือตอบรายละเอียดผมว่าไปให้ถูกช่องดีกว่า ทางพาณิชย์ก็มี ทางอุตสาหกรรม ทาง BOI มีหมด ศูนย์ One Stop Services ซึ่งเรื่อง One Stop Services ก็เหมือนกัน วันนี้ก็มีปัญหาอีกเรื่อง คือ การค้ามนุษย์ ตนให้ความสำคัญเรื่องนี้ ที่ทำมาทั้งหมด จดทะเบียนประเทศเพื่อนบ้านไปแล้ว แต่บางประเทศก็ยังไม่ได้จดเช่น เวียดนามก็ได้คุยกัน หารือกันว่าจะต้องตั้งขึ้นมาแล้วจดทะเบียนชาวเวียดนามที่ทำงานในประเทศไทย อีกประเทศหนึ่งที่ทางประเทศต้อนทางเขาขอมา ปัญหาอยู่ที่ไหน ทราบไหมครับ ปัญหาอยู่ที่การพิสูจน์สัญชาติทำได้ช้า วันนี้ที่ผ่านมา สองประเทศก็ยังทำอยู่ แล้วใช้บัตรชั่วคราวไปก่อน ต่อไปคงต้องทำยังไงให้เร็ว แล้วต้องเตรียมการรองรับ AEC ในปีหน้าด้วย ปีหน้าต้องเตรียมคนงาน แรงงานให้พร้อม ทั้งไทย และต่างประเทศให้ถูกกฎหมาย เดี๋ยวเปิดพื้นที่ขึ้นมา มีโรงงานมากขึ้น แล้วจะเอาคนงานจากที่ไหนมาล่ะ ถ้าไม่เตรียมไว้ ขึ้นบัญชีไว้

" ปัจจัยวันนี้ที่อยากให้พวกเราทุกคนได้เข้าใจก็คือปัจจัยในการกำหนดให้แต่ละประเทศมีความก้าวหน้าได้อย่างไร สร้างความเข้มแข็งได้อย่างไร หลายประการด้วยกันไม่ใช่ปัจจัยในประเทศอย่างเดียว ในประเทศขออย่างเดียว เสถียรภาพ มั่นคง แล้วก็ปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน อันนี้เป็นหลัก ที่ 1 แล้วจะเกิดเรื่องอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะต่างประเทศ ด้านความมั่นคง ความขัดแย้งยังคงมีอยู่ ดูข่าวในทีวี ก็ยังมีขัดแย้งหลายประเทศ เราก็ต้องอย่าให้เกิดขึ้นในประเทศเราดีกว่าเราจะได้รองรับความเจริญที่จะเข้ามา ที่ไหนขัดแย้งมากๆ เขาก็ไม่ไป เขาจะได้มาที่เราไง เราไม่ขัดแย้ง ก็ฝากไว้ด้วย เพราะความเจริญทางเศรษฐกิจวันนี้ ก็ต้องใช้คำว่าเป็นพลวัตนะ ก็คือต่อเนื่องเชื่อมโยงหมุนเป็นพลวัต ไม่ใช่เดินไปแล้วก็หยุดปั๊บ หยุดรอเขา ไม่ได้ ต้องเดินไปเรื่อยๆ พลวัต ก้าวทดแทนไปเรื่อยๆ เพิ่มเติมไปเรื่อยๆ ขยายขนาดอะไรไปเรื่อยๆ " นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่ออีกว่า ในเรื่องของกติกาสากล เรื่องโลกร้อน เรื่องโรคระบาด เรื่องการใช้ความรุนแรง การค้ามนุษย์ การใช้แรงงานทาส ต้องแก้ใหญ่โตนะ วันนี้ประเทศไทยเราไม่ได้ดูแลลึก รายละเอียดมานานวันนี้ต้องแกทั้งระบบ ใช้เวลาให้เร็วนะครับ มีเวลาแค่ปีเดียว การพัฒนาความยั่งยืนเป็นเรื่องของกายภาพสำคัญ ถนน เส้นทาง สาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ทุกหน่วยงานต้องมาช่วยกัน ประชาชนก็ต้องร่วมมือนะ ช่วยกัน ในการที่จะแสดงความคิดเห็น ความต้องการ ในสิ่งที่เป็นไปได้ ถ้าต้องการเวลาเดียว เร็วไม่ได้ ส่วนอีกเรื่องที่จะมีผลต่อการพัฒนาประเทศ คือ ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่าประเทศเรากับประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าความเชื่อถือระหว่างผู้นำของแต่ละประเทศ เชื่อถือกันให้ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อนกัน นับถือซึ่งกันและกัน ให้เกียรติกันมันก็พูดอะไรกันก็ได้ แต่อยู่ในกรอบที่เป็นผลประโยชน์ของชาติ ก็อยากจะฝากว่า ขอเถอะ อย่าไปขัดแย้งกับใครอีกเลย ในประเทศก็ไม่ได้ ต่างประเทศก็ไม่ได้ อย่าไปขัดแย้งกับเขา ในเรื่องการสร้างความเข้าแข็งในอาเซี่ยนนี่มีผลกระทบกับประชาคมโลกด้วย เพราะเราเป็นแหล่งข้าวแหล่งน้ำ แหล่งอาหารโลก แหล่งพลังงานทดแทนของโลก ในอนาคตผมคิดว่าประเทศเราจะเป็นผู้นำทางด้านอาหาร ร่วมกับประเทศหลายประเทศในอาเซี่ยนด้วย อดใจรอให้ถึงเวลานั้นนะ ตอนนี้ก็ร่วมมือกันแล้วกัน ความขัดแย้งในประเทศจะเป็นตัวถ่วงความเจริญ ทุกด้านเลย ไม่ใช่ว่าผมจะไปกดดันใคร ไม่ฟังความคิดเห็นของใคร ใช้อำนาจมาจำกัดสิทธิเสรีภาพ ไม่ใช่ วันนี้ตนถือว่าเต็มที่แล้วนะ ที่เราผ่อนผันให้ทุกอย่างเลย งั้นขอร้องเรื่องการสร้างวาทะกรรม สร้างผลกระทบที่มีต่อการปฏิรูป ไม่เกิดประโยชน์