"ควีนอลิซาเบธ"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน"ราชวงศ์อังกฤษ"

"ควีนอลิซาเบธ"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน"ราชวงศ์อังกฤษ"

"ควีนเอลิซาเบธ"ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 96 พรรษา เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมา ทรงมีพระพลานามัยไม่แข็งแรงนัก และพระองค์ก็ต้องจัดการเรื่องอื้อฉาวของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งทั่วโลกจับตาดูอยู่

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการคลี่คลายปัญหาที่มีกับสมาชิกราชวงศ์เข้าไปเกี่ยวพัน รวมทั้งคดีล่วงละเมิดทางเพศ สะท้านโลกที่เจ้าชายแอนดรูว์ พระโอรสองค์โปรด เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย 

ก่อนจะมีงานเฉลิมฉลองการครองราชย์ครบ 70 ปีของพระองค์ สื่ออังกฤษหลายสำนักคาดเดากันว่า พระองค์คงอยากจะทรงทำอะไรๆ ให้เรียบร้อยก่อน เพราะพระองค์มีพระชนมพรรษา 96 พรรษาแล้ว พระพลานามัยก็ไม่แข็งแรงเหมือนเดิม อีกทั้งยังทรงเพิ่งหายประชวรจากไวรัสโควิด-19 อีกด้วย

กษัตริย์อังกฤษที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด

ควีนเอลิซาเบธ กำลังจะทรงก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์อังกฤษพระองค์แรกที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด พระองค์เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 1952 หลังจากสมเด็จพระราชบิดาสวรรคตขณะมีพระชนมพรรษา 25 พรรษา และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกถูกจัดขึ้นในวันที่ 2 มิถุนายน 1953 ที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์

แต่งานนี้จะเป็นการฉลองครองราชย์ครั้งแรกของควีนเอลิซาเบธ ที่ไม่มีดยุคแห่งเอดินบะระ พระราชสวามีอยู่เคียงข้าง เพราะพระองค์สิ้นพระชนม์ไปเมื่อ 9 เมษายน 2021 ขณะมีพระชนมายุ 99 พรรษา คาดกันว่า ควีนเอลิซาเบธเองก็จะไม่ทรงออกงานเฉลิมฉลองมากนักเพราะในปีนี้ พระองค์มีพระชนมพรรษามากแล้ว

\"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\" (สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระ) 

\"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\" (เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าชายแห่งเวลส์และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ พระชายา) 

ก่อนหน้านี้ มีการสงสัยกันทั่วไปว่า ใครจะเป็นขึ้นเป็นกษัตริย์ต่อจากสมเด็จพระราชินี ถ้าตามพระราชพิธีแล้ว ก็น่าจะเป็นรัชทายาทอันดับ 1 คือ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส แต่ก็มีหลายคนติติงว่า พระชายาของเจ้าชายแห่งเวลลส์ ซึ่งก็คือ ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ หรือพระนามเดิม คามิลลา ปาร์กเกอร์ โบว์ลส์ แม่ม่ายลูกติด จะมีความเหมาะสมในการก้าวขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีองค์ต่อไปของอังกฤษหรือไม่ 

เพราะเป็นที่รู้กันดีว่า ดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ เป็นมือที่ 3 ในการทำลายชีวิตคู่ และนำมาสู่การหย่าร้างระหว่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าหญิงไดอานา ผู้ล่วงลับ

\"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\" (สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่2และดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ )

ในอนาคตราชบัลลังก์จะเป็นของใคร

ไม่มีใครทราบว่า ควีนอลิซาเบธคิดอย่างไรในเรื่องนี้ แต่การที่พระองค์ยังไม่มีการมอบราชบัลลังก์แก่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส ซึ่งรั้งตำแหน่งรัชทายาทอันดับ 1 มากว่า 70 ปี ทำให้มีข่าวลือว่า พระองค์ซึ่งทรงมีความคิดเห็นทันสมัย อาจจะอยากให้สหราชอาณาจักรมีกษัตริย์ที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับ 

โดยมีการมองไปที่ เจ้าชายวิลเลี่ยม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งปัจจุบันมีพระชนมายุ 39 พรรษา พระโอรสของเจ้าฟ้าชายชาร์ลสว่า น่าจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์มากกว่าพระบิดา

แต่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สมเด็จพระราชินีก็ทรงออกมาสยบข่าวลือนั้น โดยในแถลงการณ์ของพระองค์ที่ออกมาในโอกาสฉลองการครองศิริราชสมบัติ 70 ปี พระองค์ทรงชื่นชมดัชเชสแห่งคอร์นวอลล์ ที่ช่วยงานในฐานะสมาชิกราชวงศ์อย่างเต็มที่มาโดยตลอด

ในแถลงการณ์ตอนหนึ่ง พระองค์กล่าวว่า ....

"เมื่อถึงเวลาที่พระราชโอรสของข้าพเจ้า ชาร์ลส์ ขึ้นเป็นกษัตริย์ ข้าพเจ้ารู้ดีว่า ท่านทั้งหลายจะให้การสนับสนุนเขาและคามิลลา พระชายา ในแบบเดียวกับที่ให้การสนับสนุนข้าพเจ้า และข้าพเจ้าปรารถนาเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อเวลานั้นมาถึง “คามิลลา จะเป็นที่รู้จักในฐานะพระราชินีและปฏิบัติพระกรณียกิจต่อไป”

\"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\"

(เจ้าชายแอนดรูว์เสด็จพร้อมควีนเอลิซาเบธเพื่อร่วมในงานพิธีรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระพระบิดา) 

เรื่องอื้อฉาวเจ้าชายแอนดรูว์

ปัญหาอีกประการหนึ่งที่เชื่อกันว่า สมเด็จพระราชินีมีบทบาทในการคลี่คลายนั่นคือ การที่เจ้าชายแอนดรูว์ พระโอรสองค์ที่ 2 เจอคดีฉาวโลกหลังจากเวอร์จิเนียร์ จูฟเฟร ฟ้องร้องพระองค์ในศาลสหรัฐ ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ เธออ้างว่า มีเพศสัมพันธ์กับพระองค์ในขณะที่เธอมีอายุ 17 ปีซึ่งถือว่า เป็นผู้เยาว์ภายใต้กฎหมายสหรัฐ 

เธอให้การว่า รู้จักเจ้าชายแอนดรูว์ผ่าน เจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีนักการเงินชาวสหรัฐฯ ซึ่งโดนข้อหาค้าประเวณีเด็กหญิงและฆ่าตัวตายในเรือนจำระหว่างรอการพิจารณาคดีก่ออาชญากรรมทางเพศ

เมื่อเดือนมกราคม 2022 สำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมออกมาประกาศว่า เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุคแห่งยอร์ก ทรงคืนยศทางทหาร และยุติการใช้พระยศ His Royal Highness และยกเลิกพระกรณียกิจทั้งหมด เพื่อทรงเตรียมต่อสู่คดีในฐานะสามัญชน 

แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ควีนเอลิซาเบธเสียใจและไม่สบายใจอย่างมาก และเรื่องนี้ยังทำให้ราชวงศ์อังกฤษต้องอับอาย เชื่อกันว่า เจ้าชายแอนดรูว์เป็นพระราชโอรสที่ควีนเอลิซาเบธทรงโปรดที่สุด

แต่เมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทนายความของจูฟเฟรส่งหนังสือถึงผู้พิพากษา โดยระบุว่า ทั้ง 2 ฝ่ายบรรลุข้อตกลงนอกศาลแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเงื่อนไขในเรื่องเงินชดเชย 

มีรายงานต่อมาว่า ฝ่ายเจ้าชายแอนดรูว์จะบริจาคเงินที่ไม่เปิดเผยจำนวนแก่มูลนิธิการกุศลที่จัดตั้งขึ้นโดย จูฟเฟร ซึ่งมูลนิธินี้จะทำหน้าที่คอยให้การช่วยเหลือเหยื่อค้าประเวณี

ข้อตกลงยุติคดีนี้หมายความว่า จะไม่มีการนำคดีแพ่งเข้าสู่การพิจารณาของศาล และเจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก จะไม่ถูกสอบปากคำอีกต่อไป  \"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\" (เจ้าชายแอนดรูว์ถ่ายรูปร่วมกับเวอร์จิเนียร์ จูฟเฟร)

สยบข่าวลือเรื่องเจ้าชายแอนดรูว์

ก่อนหน้านี้ ทนายความมีกำหนดเดินทางมายังกรุงลอนดอนเพื่อสอบปากคำพระองค์ แต่หลายฝ่ายสงสัยว่า เจ้าชายแอนดรูว์ทรงนำเงินมาจากไหนมาจ่ายเพื่อยุติคดีนี้

 สื่อมวลชนอังกฤษรายงานว่า การบรรลุข้อตกลงนอกศาลนี้ เกิดจากแรงผลักดันของควีนเอลิซาเบธ เพราะพระองค์ต้องการให้เรื่องนี้จบให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกำลังจะมีการเฉลิมฉลองการครองราชย์ของพระองค์

ก่อนหน้านี้ เจ้าชายแอนดรูว์ทรงเก็บตัวเงียบมาโดยตลอด แต่เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ควีนเอลิซาเบธเสด็จไปทรงประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิป ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ โดยมีพระบรมวงศานุวงศ์อังกฤษ และพระประมุขจากราชวงศ์ต่าง ๆ ทั่วยุโรปทรงร่วมพิธีด้วย งานนี้มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศอีกด้วย

การเสด็จมายังมหาวิหารฯ ของควีนเอลิซาเบธ ทำให้หลายคนประหลาดใจ เพราะพระองค์เสด็จมาด้วยรถยนต์พระที่นั่งพร้อมเจ้าชายแอนดรูว์

ซึ่งนี่เป็นการปรากฏพระองค์ของเจ้าชายแอนดรูว์ต่อสาธารณะชนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มีเรื่องอื้อฉาวและยังเสด็จมาพร้อมกับพระมารดาอีกด้วย 

สื่ออังกฤษรายงานแตกต่างกัน บ้างว่า เจ้าชายแสดงความประสงค์เองว่า จะเสด็จไปและกลับจากงานพิธีพร้อมกับพระมารดา

ในขณะที่อีกหลายฝ่ายอ้างว่า เป็นพระราชประสงค์ของพระมารดาเองที่จะให้พระโอรสองค์ที่ 2 เสด็จมาด้วย เพื่อเป็นการบอกกับสาธารณะชนว่า ทรงอภัยให้กับเจ้าชายแล้ว

\"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\" (สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ )

เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่ ทรงสละฐานันดรศักดิ์

ส่วนสมาชิกราชวงศ์อีกพระองค์ที่ทำให้ราชวงศ์อังกฤษสั่นสะเทือนคือ เจ้าชายแฮรี่ พระโอรสองค์สุดท้องของเจ้าชายชาร์ลสและเจ้าหญิงไดอาน่า โดยหลังจากพระองค์ทรงอภิเษกสมรสกับ เมแกน มาร์เคิล ดาราฮอลลีวู้ดชาวอเมริกัน

และมีพระโอรสพระนามว่า อาร์ชี่ พระองค์ทรงขอสละพระยศและฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์ และจะย้ายจากรุงลอนดอนไปอยู่สหรัฐอเมริกา

ตอนแรก ทุกคนคิดว่า คงจะเป็นไปไม่ได้ที่ควีนเอลิซาเบธจะทรงยอม เรื่องเช่นนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

แต่ในที่สุด ทางสำนักพระราชวังบักกิ้งแฮม ได้ออกแถลงการณ์เมื่อเดือนมกราคม 2020 ว่า เจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน มาร์เคิล จะพ้นสภาพการเป็นสมาชิกราชวงศ์อังกฤษอย่างเป็นทางการ โดยทั้งคู่สละยศ และฐานันดรศักดิ์แห่งราชวงศ์ แต่ยังเป็นที่รู้จักในฐานะของดยุก และดัชเชสแห่งซัสเซกซ์อยู่เสมอ

\"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\" (เจ้าชายแฮรี่และเมแกน มาเคิลในวันพระอภิเษกสมรส )

สมเด็จพระราชินีเองก็ออกแถลงการณ์ว่า พระองค์มีความยินดีที่พบทางออกที่สร้างสรรค์ต่อกรณีนี้และว่า พวกเขาจะเป็นที่รักของสมาชิกของครอบครัวพระองค์ตลอดไป 

“ข้าพเจ้าทราบดีว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แฮรี่และเมแกนเผชิญกับการตรวจสอบเข้มข้นมากเพียงใด ข้าพเจ้าสนับสนุนความปรารถนาที่จะมีชีวิตที่เป็นอิสระ และต้องการขอบคุณพวกเขาที่ทำงานอย่างเสียสละตลอดมา 

ข้าพเจ้ารู้สึกภูมิใจที่เมแกนกลายเป็นสมาชิกของราชวงศ์ได้อย่างรวดเร็ว และหวังว่า ข้อตกลงในวันนี้จะทำให้พวกเขาเริ่มต้นสร้างครอบครัวที่มีความสุข เป็นอิสระและมีชีวิตที่สงบสุข”

อีกปัญหาของราชวงศ์อังกฤษ

แต่ต่อมา เจ้าชายแฮรี่และเมแกนไปให้สัมภาษณ์สื่อในสหรัฐฯ ว่า ราชวงศ์อังกฤษมีการเหยียดผิว โดยเฉพาะต่อเมแกนซึ่งเป็นลูกครึ่งผิวสี ทางสำนักพระราชวังบักกิงแฮมต้องออกแถลงการณ์ปฏิเสธเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิง 

หลายคนคิดว่า ควีนเอลิซาเบธคงทรงโกรธเรื่องนี้มาก แต่เมื่อพระองค์ทรงมีสาส์นอวยพรประชาชนเนื่องในวันคริสมาสต์เมื่อปีที่แล้ว พระองค์ทรงกล่าวถึงลูกๆ ของเจ้าชายแฮรี่และเมแกนด้วย

\"ควีนอลิซาเบธ\"กับการจัดการปัญหาอื้อฉาวใน\"ราชวงศ์อังกฤษ\" (การ์ดซึ่งออกโดยสำนักพระราชวังบักกิ้งแฮมเนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2)

และล่าสุด ควีนเอลิซาเบธทรงอนุญาตให้เจ้าชายแฮรี่และพระชายา เข้าเฝ้าเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ในระหว่างที่ทั้งคู่แวะที่กรุงลอนดอนระหว่างเดินทางไปร่วม The Invictus Games ที่เนเธอร์แลนด์ 

นอกจากนี้ หนังสือพิมพ์เดอะซันรายงานว่า ทั้งคู่ยังได้เข้าเฝ้าเจ้าฟ้าชายชาร์ลสระหว่างเยือนปราสาทวินด์เซอร์อีกด้วย 

นี่เป็นการเดินทางมาอังกฤษและพบกับครอบครัวครั้งแรกของทั้งคู่ นับตั้งแต่ลาออกจากการเป็นสมาชิกพระราชวงศ์ในเดือนมีนาคม 2020 ทั้งคู่ไม่ได้มาร่วมงานพิธีรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิป หลังจากตกลงกับรัฐบาลอังกฤษไม่ได้เรื่องการอารักขาความปลอดภัย

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 96 พรรษาไปเมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมาและทรงมีพระพลานามัยที่ไม่แข็งแรงนักแล้ว ทั่วโลกกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวต่อไปของพระองค์และราชวงศ์อังกฤษอย่างใกล้ชิด

...............

ที่มา รูปและเรื่อง : บีบีซี เดอะซัน เดอะการ์เดี้ยน