GULF เผยถือ KBANK อันดับ 14 แค่ลงทุนปกติ แย้มอาจขายถ้าหุ้นขึ้น

GULF เผยถือ KBANK อันดับ 14 แค่ลงทุนปกติ แย้มอาจขายถ้าหุ้นขึ้น

ผู้บริหาร GULF เปิดเผยลงทุน KBANK อันดับ 14 ไม่มีอะไรพิเศษ แย้มหากอนาคตราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นสูงก็อาจพิจารณาขายทำกำไรต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานข้อมูลภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK โดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (ภาพรวมข้อมูลผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 14 มี.ค. 2567 ประเภท : XM) พบอันดับที่ 14 เป็นรายชื่อ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ถือจำนวน 20,542,400 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 0.87%

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า การเข้ามาถือหุ้นจำนวนนี้ถือเป็นการลงทุนเพื่อบริหารการเงินของบริษัทฯ ตามปกติ และมิได้มีจุดประสงค์เพื่อเข้าไปครอบงำหรือเพื่อเอื้อต่อความร่วมมือใดๆ 

อย่างไรก็ตาม หากอนาคตราคาหุ้น KBANK ปรับเพิ่มขึ้นสูงก็อาจพิจารณาขายทำกำไรต่อไป หรือหากราคาหุ้นปรับลดลงลงมาในระดับน่าสนใจก็อาจทยอยลงทุนเพิ่มก็ได้

"ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งถ้าอนาคตมีกำไรก็คงจะขายไปตามปกติ ส่วนธนาคารอื่นๆ ก็เหมือนกันถ้ารายไหนน่าสนใจก็อาจเข้าไปลงทุนเหมือนกัน" นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ กล่าว

แหล่งข่าวระดับสูง จากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ระบุสอดคล้องกันว่า ไม่ได้รับการแจ้งใดๆ เป็นพิเศษจากทาง GULF ถึงการลงทุนดังกล่าวนี้ แต่ประเมินว่า เป็นแค่การเข้ามาซื้อหุ้นเพื่อลงทุนตามปกติ และอาจจะมีการทยอยลงทุนมาก่อนหน้านี้แล้ว เพียงแต่การปรากฏชื่อในลำดับผู้ถือหุ้นใหญ่เนื่องจากมีการถือครองเกินระดับ 0.50% 

"น่าจะเป็นการซื้อธรรมดาเพราะผลงานดีซึ่งก่อนหน้านี้ที่ไม่เห็นชื่อเข้ามาเพราะคงถือไม่ถึง 0.50% แต่พอเกินแล้ว มีคนไปเห็นก็เลยเป็นประเด็นก็เท่านั้น" แหล่งข่าวระบุ

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เพิ่งประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 มีกำไรสุทธิ 13,485.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.55% โดยในไตรมาสแรก ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นและภาษีเงินได้ 29,439 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.93% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ตั้งสำรองเผื่อหนี้สูญ 11,684 ล้านบาท ด้าน NPL อยู่ที่ 3.19%