เปิดพอร์ตหุ้น ตระกูล ‘พุ่มพันธุ์ม่วง’ รวยอู้ฟู่ระดับ 1.29 พันล้านบาท 

เปิดพอร์ตหุ้น ตระกูล ‘พุ่มพันธุ์ม่วง’ รวยอู้ฟู่ระดับ 1.29 พันล้านบาท 

เปิดพอร์ตหุ้น ตระกูล ‘พุ่มพันธุ์ม่วง’ รวยอู้ฟู่ระดับ 1.29 พันล้านบาท 'สมยศ' ปัจจุุบันถือหุ้น 4 ตัว รวมมูลค่า 557 ล้านบาท ด้านลูกสาว ชมกมล CEO หุ้น wp เข้าถือหุ้นใหญ่ 4 ตัวเช่นกันมูลค่า 459 ล้านบาท ขณะที่ลูกชาย พ.ต.ต.รชต ถือหุ้น 2 ตัว มูลค่า 255 ล้านบาท

ชื่อของ ‘บิ๊กอ๊อด-พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง’ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และอดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล 2 สมัย ผู้กว้างขวางหลากหลายวงการทั้ง ตำรวจ นักการเมือง ธุรกิจ หุ้น บอล และพระเครื่อง กลับมาเป็นที่สนใจของสาธารณชนอีกครั้ง หลังจากที่ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 กับพวก รวม 8 คน ว่ามีส่วนช่วยเหลือ ‘บอส อยู่วิทยา’ ในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อ เสียชีวิตเมื่อปี 2555 

โดย ผู้สื่อข่าวเนชั่นทีวี ได้มีการสอบถามไปยัง พล.ต.อ.ดร.สมยศ ถึงประเด็นดังกล่าว ได้รับคำตอบว่า ยังไม่ทราบข่าว กรณีที่ สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) มีคำสั่งฟ้อง แต่ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และไม่มีส่วนช่วยเหลือให้ “บอส อยู่วิทยา” พ้นผิด พร้อมปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในรายละเอียดเพิ่มเติม

ทั้งนี้ ในมิติทางธุรกิจและวงการหุ้น ‘บิ๊กอ๊อด-พล.ต.อ.ดร.สมยศ’ จัดเป็นนักลงทุนรายใหญ่คนหนึ่ง โดย ‘กรุงเทพธุรกิจ’ สำรวจพบว่า มีคนในตระกูลเป็นเจ้าของกิจการในบริษัทจดทะเบียน และเข้าถือหุ้น รวมมูลค่ากว่า 1,290.15 ล้านบาท

เปิดพอร์ตหุ้น ตระกูล ‘พุ่มพันธุ์ม่วง’ รวยอู้ฟู่ระดับ 1.29 พันล้านบาท

1.บริษัท ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) WP

มูลค่ารวม 621,263,284.2 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ก.พ.2567ที่ 3.90 บาท)

  • ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง (ลูกสาว) ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 1 จำนวน 93,156,847 หุ้น หรือ 17.97% มูลค่า 363,311,703.3 ล้านบาท 
  • รชต พุ่มพันธุ์ม่วง (ลูกชาย) ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 4 จำนวน 35,097,517 หุ้น หรือ 6.77% มูลค่า 136,880,316.3 ล้านบาท
  • พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 5 จำนวน 31,043,914 หุ้น หรือ 5.99% มูลค่า 121,071,264.6 ล้านบาท

สำหรับ ผลการดำเนินงานของ WP ในปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยรายได้รวมอยู่ที่ 18,183.97 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,652.38 ล้านบาท หรือ 17.08 % เทียบปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 15,531.58 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดใหม่ และมีกำไรสุทธิ 122.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.61 ล้านบาท หรือ 6.63% เทียบปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 114.66 ล้านบาท 

โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ส่งผลให้ยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศ เติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และภาคการท่องเที่ยว รวมถึง ราคาขายก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามราคาตลาดโลก

ทั้งนี้ ในปี 2567 WP ตั้งเป้ารายได้แตะที่ระดับ 18,250 ล้านบาท โดยมาจากยอดขายก๊าซ LPG จำนวน 820,000 ตัน จากอุตสาหกรรมก๊าซ LPG เป็นสินค้าที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ประกอบกับความต้องการใช้ก๊าซ LPG ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงราคาก๊าซ LPG ที่ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้แนวโน้มผลงานในปีนี้มีโอกาสสร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง

2.บริษัท เซเว่น ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) 7UP

มูลค่ารวม 287,946,919.26 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ก.พ.2567ที่ 0.39 บาท)

  • รชต พุ่มพันธุ์ม่วง ตำแหน่งกรรมการ ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 2 จำนวน 301,950,000 หุ้น หรือ 5.87% มูลค่า 117,760,500 ล้านบาท 
  • พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตำแหน่ง ประธานการกรรมการ ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 จำนวน 266,375,434 หุ้น หรือ 5.18% มูลค่า 103,886,419.26 ล้านบาท
  • ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 5 จำนวน 170,000,000 หุ้น หรือ 3.31% มูลค่า 66,300,000 ล้านบาท


3.บริษัท กิฟท์ อินฟินิท จำกัด (มหาชน) GIFT 

พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 4 จำนวน 60,800,000 หุ้น หรือ 4.60% มูลค่า 346,560,000 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ก.พ.2567ที่ 5.70 บาท)

สำหรับผลประกอบการปี 2567 GIFT สามารถสร้างรายได้ถึง 806 ล้านบาท เติบโตทะยานกว่า 577% เกินเป้าหมายที่วางไว้ ในขณะเดียวกันก็สร้างกำไรสุทธิ 40 ล้านบาท เติบโตกว่า 463% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ ปัจจุบันตลาดค้าปลีกสินค้าไอที และอุปกรณ์ IoT ในประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตที่สูงมาก ทั้งยังอยู่ในความสนใจและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคดิจิทัล สะท้อนจากตัวเลขการใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 101.2 ล้านเครื่อง คิดเป็นกว่า 141% ของจำนวนประชากรไทยทั้งหมด ด้านผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยมีจำนวนกว่า 61.21 ล้านคน หรือคิดเป็น 85.3% แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการเติบโตของตลาดค้าปลีกสินค้า IoT ซึ่งสามารถใช้ต่อยอดการเติบโตทางธุรกิจได้อีกมาก


4.บริษัท สามารถ ดิจิตอล จำกัด (มหาชน) SDC

มูลค่ารวม 18,201,486 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ก.พ.2567ที่ 0.06 บาท)

  • ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 3 จำนวน 217,909,900 หุ้น หรือ 1.40% มูลค่า 13,074,594 ล้านบาท
  • พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 7 จำนวน 85,448,200 หุ้น หรือ 0.55% มูลค่า 5,126,892 ล้านบาท

สำหรับ SDC มีรายได้รวมปี 2566 ที่  1,965 ล้านบาท เติบโตขึ้น 205 % และมีขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 754 ล้านบาท โดยขาดทุนลดลงถึง 422 ล้านบาท ถือว่าปรับตัวดีขึ้นเกือบ 40 % โดยปีนี้ เป็นปีที่คาดว่า บริษัทฯจะมีการเติบโตที่ดียิ่งขึ้น จะมีการรับรู้รายได้ค่าแอร์ไทม์จากธุรกิจ Digital Trunk Radio เต็มปี ซึ่งคาดว่าจะทำให้ผลประกอบการพลิกฟื้นเป็นบวกได้ อีกทั้ง ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา SDC ได้หยุดการตั้งสำรองการลงทุนเครือข่ายลงแล้ว ทำให้ลดการทุนทางบัญชีลง และเชื่อมั่นว่า บริษัทฯจะสามารถขยายฐานผู้ใช้บริการเครือข่าย DTRS ครอบคลุมทั่วประเทศได้อย่างต่อเนื่อง


5.บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) SAMTEL

ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ถือหุ้นใหญ่ลำดับ 6 จำนวน 6,222,700 หุ้น หรือ 1.01% มูลค่า 16,179,020 ล้านบาท (ราคาปิด ณ 29 ก.พ.2567ที่ 2.60 บาท)

SAMTEL มีรายได้รวมปี 2566 ที่  4,588 ล้านบาท ลดลง 12.9% และ มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ อยู่ที่ 72 ล้านบาท ลดลง 189 ล้านบาท หรือลดลง 72.5% โดยในปีนี้ ตั้งเป้าเซ็นสัญญาโครงการใหม่ มูลค่า 7,000 ล้านบาท ส่งเสริมให้มีรายได้เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 30%

 

อย่างไรก็ตาม ยังพบรายชื่อ พล.ต.อ.ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นั่งเป็น “กรรมการ” นอกเหนือบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ดังนี้ 

  • ห้างหุ้นส่วนจำกัด ส.พุ่มพันธุ์ม่วง จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 เม.ย. 2553
  • บริษัท เขาใหญ่ กรีน จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่19 ก.พ. 2564 ดำเนินธุรกิจทำการเกษตร
  • บริษัท แซม วอเตอร์ ซัพพลาย จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 มี.ค. 2560 ดำเนินธุรกิจการจัดการน้ำเสีย 
  • บริษัท ไทย ลีก จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 ก.ค. 2559 ดำเนินธุรกิจหลักเกี่ยวกับการจัดการเเข่งขันด้านกีฬา