บลจ.ยูโอบี ปลุกการลงทุนยั่งยืน วางเป้าดัน AUM ปีนี้โต 10%

บลจ.ยูโอบี ปลุกการลงทุนยั่งยืน วางเป้าดัน AUM ปีนี้โต 10%

บลจ.ยูโอบี เดินหน้าการลงทุนยั่งยืน ตอบโจทย์ลูกค้าสถาบัน ดัน AUM ปีนี้ โต 10% จากปีก่อน ที่ 248,000 ล้านบาท พร้อมมองบวกหุ้นไทย ลุ้นรัฐเร่งเบิกจ่าย ดันดัชนีมีโอกาสทะลุ 1,500 จุด สูงกว่าเป้าที่มองไว้ 1,480 จุด

นายวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) หรือ UOBAM เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้าหมายมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM)  เติบโตที่ระดับ 10% จากปีก่อนเติบโตดี อยู่ที่ 248,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2565  และภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมในไทยเติบโตเพียง 6% เท่านั้น 

สำหรับปีนี้ บริษัทได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มลูกค้าสถาบันเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนย้อนหลังให้กับการลงทุนของกลุ่มลูกค้าสถาบันได้ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มนำเอาปัจจัยสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG)  เข้ามาสู่กระบวนการลงทุนนั้น สอดคล้องกับนโยบายของกลุ่มลูกค้าสถาบัน

ทั้งนี้ ภายใต้ AUM ในปัจจุบัน แบ่งเป็นกองทุนรวม (MF) มูลค่า 124,376 ล้านบาท โต 5% กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (PVD)มูลค่า 67,830 ล้านบาท โต 8% กองทุนส่วนบุคคล (PF) มูลค่า 55,895 ล้านบาท โต 25% รวมมูลค่าทั้งสิ้น 248,101ล้านบาท โต 10%

"กลุ่มลูกค้าสถาบันมีการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมูลค่ากว่า 19,000 ล้านบาท จากการนำเสนอผ่านธุรกิจ กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขณะที่กลุ่มลูกค้ารายบุคคลมีการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นมูลค่ากว่า 11,000 ล้านบาท ร่วมมือในเครือข่ายกลุ่มยูโอบี และพันธมิตร การลงทุน นำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุน เช่น CIO Funds, Term Fund, Private Equity Fund และ Thai ESG fund มั่นใจ ปีนี้ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวเติบโตก้าวกระโดดเหมือนช่วงปีมาแน่นอน" 

นายวนา กล่าวอีกว่า สำหรับกลยุทธ์ลงทุน จากความร่วมมือกันภายใต้เครือข่าย UOB Group เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารายบุคคลของธนาคารยูโอบี ที่ร่วมกับทีม UOB Private Banking CIO ของสิงคโปร์ นำเสนอ 2 เป้าหมายการลงทุนผ่าน CIO Funds คือ เพื่อโอกาสสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอ  ได้แก่ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด อินคัม ฟันด์ TH หน่วยลงทุนชนิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบปกติ (UIFT-N) เพื่อสร้างโอกาสเติบโตของเงินลงทุน ได้แก่ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด โกรท ฟันด์ TH หน่วยลงทุนชนิดเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (UGFT) ซึ่งมีจุดเด่นลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก สามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมในแต่ละภาวะตลาด

ส่วนมุมมองการลงทุนปี 2567  นายวนา มองว่า ตลาดหุ้นไทยคาดดัชนีปีนี้ที่ 1,4801 จุด หากมีการเร่งเบิกจ่ายหรือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจไทยแบบเร่งตัวมากขึ้น ดัชนีมีโอกาสแตะที่ระดับ1,570 จุดได้ โดยกลุ่มหุ้นเด่น  แนะกลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มสุขภาพ

"หลังจากในไตรมาสที่ 4/2566 ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลง โดยเผชิญกับแรงขายต่างชาติอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่ลดลง และความกังวลในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจจะไม่ตรงจุดและเพิ่มภาระทางการคลังในระยะยาว รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับเข้ามาช้ากว่าที่คาด" 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์