ศาลแพ่ง นัดไต่สวนคำรองผู้ถือหุ้นกู้ 4ก.ย.ฟ้องสตาร์ค

ศาลแพ่ง นัดไต่สวนคำรองผู้ถือหุ้นกู้ 4ก.ย.ฟ้องสตาร์ค

“ศาลแพ่ง”นัดไต่สวนคำร้องฟ้องสตาร์ค ของผู้ถือหุ้นกู้นัดแรก 4 ก.ย.  “ทนาย”แนะฟ้องกลุ่มเร็วกว่า ฟ้องคดีเพ่ง แต่ย้ำต้องมั่นใจตัวแทนกลุ่ม รักษาผลประโยชน์ทุกคนได้ เตรียมตั้งคณะทำงาน-ตัวแทนกลุ่ม เร่งฟ้องเรียกค่าเสียหาย

กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และตัวแทนผู้จัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประชุมหารือกันเบื้องต้นผู้เสียหายจะมีการรวมกลุ่มกันฟ้องร้องทั้ง บริษัท กรรมการ และผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยศาลแพ่งนัดไต่สวนคำร้องของกลุ่มผู้เสียหายที่ไปยื่นฟ้อง ในวันที่ 4 ก.ย.2566

นายพีรภัทร ฝอยทอง ทนายความและนักวางแผนการเงิน (CFP) แนะนำว่า การฟ้องร้องสามารถทำได้ 2 วิธี โดยมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน  วิธีที่หนึ่งคือ คดีแพ่งสามัญ ต่างคนต่างฟ้อง ใครฟ้องชนะ คนนั้นก็ได้รับชำระค่าเสียหาย แต่กระบวนการจะช้ากว่าหากมีผู้เสียหายจำนวนมาก เนื่องจากศาลต้องมาไล่พิจารณาทีละคดี

ขณะที่วิธีที่สองคือ ฟ้องกลุ่ม(Class Action) ซึ่งจะมีความรวดเร็วกว่า เพราะมีตัวแทนเป็นผู้ฟ้องแทนผู้เสียหายทุกคน หากชนะคดี ผู้ที่ไม่ได้ร่วมฟ้องก็มีสิทธิร่วมรับชำระเงินได้

“แต่ต้องมั่นใจว่า ตัวแทนกลุ่มมีความรู้ความสามารถเพียงพอเกี่ยวกับหุ้นกู้และอื่นๆ สามารถรักษาผลประโยชน์ของทุกคนได้ ที่สำคัญคือต้องสื่อสารให้ผู้เสียหายทุกคนในกลุ่มทราบรายละเอียดและความคืบหน้าของคดีอย่างทั่วถึง ซึ่งผู้ถือหน่วยทุกคนต้องใส่ใจตามติดข้อมูลด้วย”

นายสมชาย สุภัทรกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  กล่าวว่า หลังจากนี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนเป็นสิ่งสำคัญ กรณีที่เกิดขึ้นกระทบต่อความเชื่อมั่น จึงจำเป็นที่จะต้องเรียกความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับมา เช่น ผู้สอบบัญชีต้องดำเนินการเข้มงวด ตามมาตรฐานการสอบบัญชี

ในขณะเดียวกันในมุมมองของผู้กำกับดูแลนั้น ส่วนตัวก็อยากเห็นบทบาทกำกับดูแลในเชิงรุกมากขึ้น น่าจะมีเครื่องมือ ดักจับวางความผิดปกติของงบการเงิน รวมถึงผู้ลงทุนเองก็ต้องพิจารณาความเสี่ยงข้อมูล มาประกอบการตัดสินใจในการลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ด้วย

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 2566 กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ STARK ได้ประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรก เพื่อหาทางเยียวยาความเสียหายจากกรณี STARK ไม่ชำระหนี้หุ้นกู้ ซึ่งมีมูลค่ารวมราว 9,198 ล้านบาท

โดยในที่ประชุมฯ ได้มีการเสนอความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เพื่อหารือแนวทางการเรียกร้องความเป็นธรรม และการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมถึงมีการตั้งคณะทำงาน เพื่อเป็นตัวแทนผู้ถือหุ้นกู้ STARK ในการรับฟังความคิดเห็น และพิจารณาตัดสินใจดำเนินการร่วมกันในกลุ่มผู้ถือหุ้นกู้ และเป็นตัวแทนในการประสานงานติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานและบุคคลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป