วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา US การจ้างงานเดือน ก.พ.

ส่วนระยะสั้นอยู่ระหว่างทางเลือกว่าจะเป็นรูปแบบ 1. ปรับขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านของกรอบใหญ่ 1,400 จุด โดยมีสัญญาณยืนยันขาขึ้น คือ การทะลุเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน ที่ 1,388 จุด ขึ้นไป หรือ 2. รีบาวนด์เพื่อลงต่อ โดยอาจมี New Low ใหม่ (แนวรับหลักของกรอบใหญ่อยู่ที่ 1,333 จุด) โดยมีสัญญาณยืนยันหากดัชนีฯ ร่วงหลุดแนวรับเดิม 1,352 จุด

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

US Fed Comments: สุนทรพจน์ของประธานเฟด สาขานิวยอร์ก Willaims (Voter, N) คาดว่าจะส่งสัญญาณคล้ายกับประธานเฟดท่าน อื่น ๆ ที่สนับสนุนการไม่เร่งลดอัตราดอกเบี้ย แม้เงินเฟ้อเริ่มชะลอลงมาเข้าหากรอบเป้าหมาย

Opportunity Day: SCGD CIVIL BEM SJWD TTW MICRO ORN LALIN BGRIM ORI BAFS ANI KCG PDJ SONIC RABBIT HMPRO PLUS CRD

Ex-Dividend Effect มีผลเชิงลบต่อดัชนีตลาดฯ วันนี้ -0.14 จุด โดยบจ. ที่มีผลกระทบสูงสุด ได้แก่ EA ปันผล 0.30 บาท มีผลต่อดัชนีฯ -0.09 จุด SISB ปันผล 0.31 บาท มีผลต่อดัชนีฯ -0.02 จุด
 

 

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ/รายงานผลประกอบการบจ. มีต่อเนื่อง

US: รายงานจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ. โดย Consensus คาดว่าลดลงเป็น +200k (Vs เดือน ม.ค. +353k) อัตราว่างงานคงเดิมที่ 3.7% ค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงเดือน ก.พ. คาดลดลงเป็น +0.3% MoM, +4.4% YoY (Vs เดือน ม.ค. +0.6% MoM, +4.5% YoY) เราคาดว่า แนวโน้มการจ้างงานที่ปรับลดลง และการปรับขึ้นของอัตราค่าจ้างเฉลี่ยรายชั่วโมงที่ลดลง จะเป็นหนึ่งในปัจจัยสนับสนุนให้เฟดมีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ โดย CME FedWatch Tool ให้โอกาส 55.7% สำหรับการประชุมวันที่ 12 มิ.ย. 2024 ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก โดยมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยปีนี้ 4 ครั้ง จากเดิม 7 ครั้ง แต่ยังสูงกว่า Dot Plot ของเฟด ที่คาดว่าจะลดดอกเบี้ยเพียง 3 ครั้ง

EU รายงาน 4Q23E GDP Growth ครั้งสุดท้าย คาดเติบโต 0% QoQ, +0.1% YoY (Vs 3Q23 GDP Growth -0.1% QoQ, +0% YoY) เราคาดว่ารายงานเศรษฐกิจอียูที่มีแนวโน้มเติบโตต่ำ จะเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักต่อการสนับสนุนให้ผลประชุมอีซีบีมีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุมเดือน มิ.ย.

China: วันเสาร์ รายงานเงินเฟ้อ CPI เดือน ก.พ. คาดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็น +0.5% MoM, +0.4% YoY (Vs เดือน ม.ค. +0.3% MoM, -0.8% YoY) สะท้อนกิจกรรมทางการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ผลจาก NPC ตั้งเป้าเงินเฟ้อสูงถึง 3% YoY ในปี 2024E ทำให้ตลาดคาดว่าทางการจีนจะต้องมีการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศปรับสูงขึ้น ซึ่งจะเป็น Positive Sentiment ต่อตลาดหุ้นจีนและประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะไทย

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ JPARK TKN BA

 

 

 

 

Strategic daily picks

JPARK   ปิด 6.65 บาท/แนวรับ 6.30 บาท แนวต้าน 7.05 บาท

ปี 2024 ตั้งเป้าจะมีช่องจอดรถยนต์เพิ่มอีก 1 หมื่นช่องจอด เป็น 4 หมื่นช่องจอด พร้อมคาดประมาณกลางปี 2024 จะรับงานใหม่เพิ่มเติม โดยล่าสุดบริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้พัฒนาพื้นที่เพื่อก่อสร้างและบริหารอาคารจอดรถยนต์ ศูนย์การแพทย์ กาญจนภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จำนวน 1,014 ช่องจอด ระยะเวลาสัมปทาน 30 ปี สำหรับปี 2023 มีรายได้รวม 573.06 ล้านบาท (+26.70% YoY) กำไรสุทธิ 62.59 ล้านบาท (+14.17% YoY) และจ่ายเงินปันผล 0.0375 บาท/หุ้น (XD=19 เม.ย. และ PD=7 พ.ค. 2024) โดย Bloomberg consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 7.20 บาท

TKN   ปิด 10.20 บาท/แนวรับ 9.75 บาท แนวต้าน 10.80 บาท

บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้รวมเติบโต 15% ในปี 2024 โดยจะสานต่อกลยุทธ์ “3GO” อย่างต่อเนื่อง เพื่อใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ สำหรับปี 2023 มีรายได้จากการขาย 5.32 พันล้านบาท (+21.9% YoY) กำไรสุทธิ 743 ล้านบาท (+70.9% YoY) และจ่ายเงินปันผล 0.15 บาท/หุ้น (XD=7 มี.ค. และ PD=7 พ.ค. 2024) โดย Bloomberg consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 11.80 บาท

BA    ปิด 15.70 บาท/แนวรับ 15.40 บาท แนวต้าน 16.20 บาท

ปี 2024 ได้รับอานิสงส์การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ขานรับการเปิดฟรีวีซ่าจีน สำหรับปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวม 2.17 หมื่นล้านบาท (+70.6% YoY) กำไรสุทธิ 3.11 พันล้านบาท (พลิกจากขาดทุน 2.11 พันล้านบาท ในปี 2022) ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร 3.97 ล้านคน (เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 2.65 ล้านคน) และจ่ายเงินปันผล 0.50 บาท/หุ้น (PD=23 เม.ย. 2024) โดย Bloomberg consensus ให้มูลค่าเหมาะสมที่ 20.58 บาท