วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง

จะเป็นสัญญาณยืนยันว่าดัชนีฯ เลือกที่จะแกว่งตัว Sideways ในกรอบใหญ่ 1,376-1,404 จุดเช่นเดิม

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

Weekly Strategy: ในช่วงที่ผ่านมา (4Q23-ปัจจุบัน) KTX แนะนำให้นักลงทุนเรียกส่วนชดเชยความเสี่ยง (Market Risk Premium) สูงขึ้นกว่าปกติ โดยแนะนำซื้อเมื่อ MRP ที่ 4.64% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 90 วัน (4.15%) เกิน 2 S.D. เพื่อรองรับความเสี่ยงจาก 1. ภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว 2. กระแสเงินทุนต่างชาติไหลออก อย่างไรก็ตาม ด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยที่เริ่มชัดเจนมากขึ้น (ดังที่กล่าวไปข้างต้น) กอปรกับปัจจัยหนุนจาก Earnings yield ของดัชนีตลาดหุ้นจีนซึ่งมีความสัมพันธ์กับ Earnings yield ของดัชนี SET เริ่มลดระดับลง หลังจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนดัชนี CSI 300 เร่งตัวขึ้นทาจุดสูงสุดใหม่ของ 1Q24 KTX จึงแนะนาให้ปรับกลยุทธ์ลงทุนโดย“ซื้อ” เมื่อดัชนี SET อยู่ในกรอบ 1,340-1,387 จุด อิง MRP 4.64%- 4.39% (+2 S.D., +1 S.D.) “เก็งกาไร” เมื่อดัชนี SET อยู่ในกรอบ 1,387-1,437 จุด อิง MRP 4.39%-4.15% (+1 S.D., ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 90 วัน) และ “ขาย” เมื่อดัชนี SET สูงกว่า 1,437 จุด อิง MRP ต่ำกว่า 4.15% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 90 วัน)

 

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ / รายงานผลประกอบการบจ. มีต่อเนื่อง

Global Earnings Results: จับตารายงานผลประกอบการบจ. ที่น่าสนใจ ได้แก่ Lowe’s (คาด 4Q23E EPS USD 1.68 Vs Previous USD 2.28) American Tower (คาด 4Q23E EPS USD0.94 Vs Previous -USD1.47) MACY’s (คาด 4Q23E EPS USD1.99 Vs Previous USD 1.71) ฯลฯ ส่วนผลประกอบการบจ. ไทย ที่น่าสนใจ ได้แก่ AWC (คาด 4Q23E รายงานกำไร -31% YoY, -7% QoQ เป็น 1,054 ล้านบาท) CENTEL (คาด 4Q23E รายงานกำไร -19% YoY, +446% QoQ เป็น 403 ล้านบาท) CPF (คาด 4Q23E รายงานกำไร -132% YoY, +68% QoQ เป็น -572 ล้านบาท) SAWAD (คาด 4Q23E รายงานกำไร +2% YoY, -11% QoQ เป็น 1,240 ล้านบาท) SIRI (คาด 4Q23E รายงานกำไร -28% YoY, -17% QoQ เป็น 1,286 ล้านบาท) ทั้งนี้ รายงานผลกำไรที่ดีหรือแย่กว่าคาด จะส่งผลเชิงบวกหรือลบต่อหุ้นรายตัว และมีผลทางอ้อมต่อ Sentiment หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน

US: รายงานตัวเลขเศรษฐกิจจำนวนมากที่จะส่งสัญญาณต่อภาพรวมเศรษฐกิจใน 1Q24E โดย Durable Goods orders เดือน ม.ค. Consensus คาด -4.8% MoM (Vs เดือน ธ.ค. 0% MoM) รายงาน CB Consumer Confidence เดือน ก.พ. Consensus คาด 114.8 (Vs เดือน ม.ค. 114.8) และรายงานเศรษฐกิจเกี่ยวกับภาคอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ S&P/Case-Schiller Home Price เดือน ธ.ค. คาด -0.1% MoM, +6% YoY (Vs เดือน พ.ย. -0.2% MoM, +5.4% YoY)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ SAWAD TIDLOR PTT

 

Strategic daily picks

SAWAD    ปิด 41.00 บาท/แนวรับ 39.50 บาท แนวต้าน 43.75 บาท

แนวโน้มกำไร 4Q23 ยังถูกกดดันจากผลขาดทุนรถยึด แต่ในอัตราที่ลดลง ขณะที่ปี 2024E แนวโน้มเติบโตจาการขยายพอร์ตจำนำทะเบียนและธุรกิจเช่าซื้อจักรยานยนต์จะเป็นตลาดที่มีผู้เล่นรายใหญ่น้อยราย จากการควบคุมอัตราเพดานดอกเบี้ยทำให้ผู้ประกอบการรายเล็กออกจากตลาดทำให้มีโอกาสที่จะเพิ่ม market share ได้ในอนาคต KTX คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 56.43 บาท

TIDLOR   ปิด 22.90 บาท/แนวรับ 22.50 บาท แนวต้าน 23.70 บาท

KTX ปรับประมาณการกำไรขึ้น 2.2% ในปี 2023 จากการปรับลด cost to income และรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย เพื่อให้สะท้อนคาดการณ์กับประมาณการ 4Q23E ทำให้กำไรหลังปรับประมาณการอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6% YoY และปรับกำไรเล็กน้อยแบบไม่มีนัยในปี 2024E และ 2025E KTX ปรับคำแนะนำเป็น Outperform (จากเดิม “ซื้อ”) และปรับลดมูลค่าเหมาะสมใหม่เป็น 24.11 บาท (จากเดิม 24.42 บาท) อิงวิธี Earnings Yield บนอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังที่ 6.8% (จากเดิม 6.3%) จากการปรับขึ้นของ 10Y Bond Yield ของไทย

PTT    ปิด 36.00 บาท/แนวรับ 34.50 บาท แนวต้าน 38.00 บาท

รายงานกำไร 4Q23 ที่ 3.28 หมื่นล้านบาท (EPS 1.15 บาท/หุ้น) เพิ่มขึ้น 75.5% YoY โดย EBITDA เพิ่มขึ้น 16.8% YoY หลัก ๆ มาจากผลการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และกลุ่มธุรกิจใหม่และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มขึ้น ขณะที่ปี 2023 มีกำไรสุทธิ 1.12 แสนล้านบาท (3.92 บาท/หุ้น) เพิ่มขึ้น 22.9% YoY ทั้งนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผล 1.20 บาท/หุ้น โดย XD และ PD ในวันที่ 29 ก.พ. และ 30 เม.ย. 2024 ตามลำดับ