วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก Rebound

และแรงขายกลุ่มไอซีที ขนส่งรวมถึงกลุ่มพลังงานต้นน้ำที่ปรับตัวลง จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มค้าปลีก ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,391.03 จุด -8.32 จุด -0.59% มูลค่าการซื้อขาย 49,584 ลบ. ต่างชาติ -1,444.49 ลบ. TFEX -3,146 สัญญา ตราสารหนี้ +645.32 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 204.97 จุด หรือ +0.62% ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนและการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ
+ สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.0 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 50.2 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI อยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ
+ การส่งออกไทยเดือนก.ย.66 มีมูลค่า 25,476.3 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 2.1% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 1.0% ขณะที่การนำเข้า มีมูลค่า 23,383.5 ล้านดอลลาร์ หดตัว 8.3% ดุลการค้าเกินดุล 2,092.7 ล้านดอลลาร์ ภาพรวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกมีมูลค่า 213,069.4 ล้านดอลลาร์ หดตัว 3.8%
+ ครม.รับหลักการลดราคาเบนซินแก๊สโซฮอล์ 91 ลง 2.50 บาทต่อลิตร โดยใช้วิธีลดภาษีสรรพสามิต

ปัจจัยลบ 

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1.75 ดอลลาร์ หรือ -2.1% ปิดที่ 83.74 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนี อังกฤษ และยูโรโซน ทำให้นักลงทุนกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
- พลโทเฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการกองกำลังป้องกันตนเองของอิสราเอล (IDF) ส่งสัญญาณพร้อมเปิดฉากใช้ปฏิบัติการภาคพื้นดินโจมตีฉนวนกาซาเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาส
- ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในเยอรมนีมีแนวโน้มลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 ในเดือนพ.ย. เนื่องจากภาคครัวเรือนยังคงเผชิญความยากลำบากจากอาหารที่มีราคาแพง
 

- ส.อ.ท.ปรับเป้าการผลิตรถยนต์เหลือ 1.85 ล้านคัน ลดจากปีก่อน 1.78% เนื่องจากสถาบันการเงินยังเข้มอนุมัติสินเชื่อ กดดันการจำหน่ายในประเทศ
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการขั้นต้น ยูโรโซน ลดลงสู่ระดับ 46.5 ในเดือนต.ค. จากระดับ 47.2 ในเดือนก.ย. หดตัวต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี ต่ำกว่าผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 47.4 ดัชนีต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะหดตัว

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาส Rebound ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ หลังปรับตัวลงแรงกว่าภูมิภาค โดยมีแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่อ่อนตัวลง ประกอบกับ PMI สหรัฐออกมาดีกว่าตลาดคาด ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลงแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,380-1,400 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน  

• นโยบายแจกเงินดิจิทัลคนละ 10,000 บาท : HMPRO ILM COM7 CPALL CPAXT CRC TNP KK
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BDMS CPALL TOP
• น้ำมันขึ้นจากสงคราม : PTTEP SPRC BCP ESSO
• งบ 3Q23 ออกมาดีกว่าตลาดคาด : KBANK BBL KTB TTB
• ส่งออกเดือน ก.ย. ขยายตัว : KSL KBS BRR XO PDJ

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

WINDOW - บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน)
SET / CONMAT (ราคา IPO 2.10 บาท)
ราคาเหมาะสม consensus 2.20 บาท

•WINDOW ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายประตูและหน้าต่าง โดยบริษัทฯ ได้นำทั้งเส้นอลูมิเนียม (Aluminium) และเส้นยูพีวีซี (Unplasticized Polyvinyl Chloride: UPVC) มาใช้เป็นวัตถุดิบหลักในกระบวนการผลิต ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างที่มีคุณสมบัติแตกต่างกัน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีทั้งส่วนที่บริษัทฯ ผลิตขึ้นและถูกจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ เอง ผลิตภัณฑ์ภายใต้เครื่องหมายการค้า วินโดว์ เอเชีย (Window Asia) วินด์เฟม (Wind Fame) เฟรมเม็กซ์ (FRAMEX) และเอ็นโซ (Enzo) และส่วนที่บริษัทฯ รับจ้างผลิตและจัดจำหน่ายภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า (Original Equipment Manufacturer: OEM)

•บริษัทมีรายได้ปี 63-65 และงวด 6M66 เท่ากับ 748 ลบ. 836 ลบ. 913 ลบ. และ 520 ลบ.(ทรงตัว YoY) ตามลำดับ โดยปัจจัยหลักที่ทำให้รายได้เติบโตเพิ่มขึ้นมาจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าของบริษัทฯ ส่งผลให้ปริมาณการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตูและหน้าต่างเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างต่อเนื่อง และรายงานผลประกอบการ ปี 63-65 และงวด 6M66 มีกำไรสุทธิที่ 73 ลบ. 99 ลบ. 75 ลบ.และ 42 ลบ.(-35%YoY) ตามลำดับ การลดลงของกำไรสุทธิมีสาเหตุมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการประชาสัมพันธ์บริษัทฯ ประกอบกับการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมที่บริษัทฯ ได้เข้าไปร่วมลงทุน จำนวน 9.56 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น

•จำนวนหุ้น IPO ไม่เกิน 244.2 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 27.5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด มูลค่าที่ตราไว้ 0.5 บาทต่อหุ้น โดยราคา IPO คิดเป็น historical P/E ที่ประมาณ 35.8 เท่า คิดเทียบกับ P/E กลุ่มวัสดุก่อสร้าง (CONMAT) 14.1x วัตถุประสงค์การระดมทุน 1) ลงทุนก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่ และจัดซื้อ เครื่องจักร และเครื่องมือ 2) คืนเงินกู้ยืมให้กับสถาบันการเงิน 3) เป็นเงินทุนหมุนเวียน

หุ้นมีข่าว

(+) BGRIM (Bloomberg consensus 44.00 บาท) เผยเข้าซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ในประเทศอิตาลี กำลังการผลิตติดตั้ง 80.9 เมกะวัตต์ (MWp) มูลค่ารวมทั้งสิ้นกว่า 10,000 ยูโร ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีการต่อยอดและขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TEAMG (Bloomberg consensus 3.61 บาท) ลุยประมูลงานโครงการขนาดใหญ่มูลค่าสูง ในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดจะทยอยประกาศปี 2567 เติมแบ็กล็อกทะลุ 6,000 ล้านบาท มั่นใจผลงานปี 2566 โตเข้าเป้า ส่งซิกปีหน้าผลงานมีโอกาสทำนิวไฮทยอยส่งมอบงานต่อเนื่อง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) SCGP (Bloomberg consensus 45.00 บาท) คาดไตรมาส 4/2566 ยอดขายเติบโตต่อเนื่อง หนุนจากบรรจุภัณฑ์กลุ่มอาหารฟื้นตัวจากช่วงไฮซีซัน มั่นใจธุรกิจพ้นจุดต่ำสุดมาแล้ว และความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ในภูมิภาคอาเซียนเร่งตัวขึ้น สอดคล้องกับเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวได้ต่อเนื่อง เดินหน้านา AI ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต คงเป้ายอดขายทั้งปี 1.6 แสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CPW (Bloomberg consensus 3.16 บาท) ส่งสัญญาณยอดขายไตรมาส 4/2566 ดี หนุนจาก iPHONE 15 บวกสินค้าแบรนด์อื่นๆ ที่ทยอยเปิดตัว หนุนยอดขายโค้งสุดท้ายเข้าเป้าโต 20% เดินหน้าเพิ่มพันธมิตรใหม่ๆ Synergy เสริมพอร์ตสินค้ากลุ่ม IoT ส่วนแนวโน้มปี 2567 ภาพรวมความต้องการสินค้าเทคโนโลยีดิจิทัลไลฟ์สไตล์ยังมีต่อเนื่อง พร้อมเน้นบริหารต้นทุน (ที่มา ทันหุ้น)