EKH การเติบโตรออยู่ข้างหน้า (10 มี.ค. 2566)

EKH การเติบโตรออยู่ข้างหน้า (10 มี.ค. 2566)

ประชุมนักวิเคราะห์หลังผลประกอบการงวด 4Q65 และการปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น

เรามีโอกาสได้ไปเยี่ยมชมศูนย์ IVF ของบริษัทที่ถนนพระราม 9 เพื่ออัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับผลประกอบการ 4Q65 และแนวโน้มโดยรวมในระยะต่อไป โดยสรุปแล้ว เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2566F ทั้งนี้ กำไรสุทธิของ EKH ใน 4Q65 อยู่ที่ 352 ล้านบาท (+293.1%YoY, +363.0% QoQ) ส่งผลให้กำไรสุทธิเต็มปีอยู่ที่ 551 ล้านบาท อันที่จริงกำไรจากธุรกิจหลักของบริษัทใน 4Q65 ออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้ เพราะต้นทุนและค่าใช้จ่ายสูงเกินคาดจากการใช้นโยบาย write-off การให้บริการรักษา COVID-19 ตามแนวทางของรัฐบาลในช่วงปี 2564 อย่างไรก็ตาม เรารู้สึกดีกับแนวโน้มผลการดำเนินงานโดยรวมในปีนี้ เพราะปัจจัยลบดังกล่าวเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวใน 4Q65 ประเด็นสำคัญที่น่าสนใจจากการเยี่ยมชมครั้งนี้ได้แก่:

i) ธุรกิจใน 1Q66 จะกลับไปแข็งแกร่งกว่าช่วงก่อน COVID ระบาด เรามองบวกหลังจากที่ได้หารือกับผู้บริหารเกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจใน 1Q66 โดยผลการดำเนินงานโดยรวมมีแนวโน้มจะแข็งแกร่งกว่าช่วงก่อน COVID ระบาด เพราะ EKH พบว่ามีอุปสงค์การรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โรคระบาด ดังจะเห็นได้จากการที่ในปัจจุบันมีการใช้บริการโรงพยาบาลในกลุ่มที่ขยายตัวขึ้นอย่างเต็มที่ (fully utilized) ซึ่งเร็วกว่าที่คาดไว้จากการเปิดโรงพยาบาลใหม่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ป่วย COVID-19 จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ในปัจจุบัน EKH ให้บริการผู้ป่วยที่ไม่เกี่ยวกับ COVID เต็ม capacity ในขณะที่ผู้ป่วยบางรายต้องรอคิวเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (IPD)

 

 

ii) โรงพยาบาลคูนมีผลการดำเนินงานดี ซึ่งหลังจากที่เปิดบริการโรงพยาบาลเฉพาะทางที่ให้การรักษาแบบประคับประคอง (Palliative Care) โดยใช้ชื่อว่า “โรงพยาบาลคูน” มาได้ห้าเดือน ผลการดำเนินงานของโรงพยาบาลใหม่แห่งนี้ออกมาน่าประทับใจ โดยมีกำไรสุทธิเป็นครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ สำหรับในระยะต่อไป EKH คาดว่าจะเปิดสาขาใหม่ในส่วนของบริการ palliative care ปีละหนึ่งสาขา ซึ่งนอกจากการขยายบริการในทำเลเดิมที่ถนนพระราม 2 แล้ว บริษัทจแสวงหาความร่วมมือในการขยายกิจการในจังหวัดที่อยู่ในภาคเหนือ และภาคใต้ด้วย

iii) บริการ IVF มีแนวโน้มจะฟื้นตัวขึ้น โดย EKH มีสำนักงานตัวแทนเพื่อให้บริการลูกค้าชาวจีน โดยสำนักงานตัวแทนดังกล่าวเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของ EKI-IVF ทั้งนี้ จำนวนผู้ใช้บริการ IVF มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากเฉลี่ย 10 รายในเดือนมกราคม เป็น 20 รายในเดือนกุมภาพันธ์คงประมาณการกำไรปี 2566F เอาไว้เท่าเดิม เราคาดว่า EKH สามารถบรรลุเป้าหมายกำไรสุทธิในปี 2566 ที่เราคาดการณ์ไว้ที่ 254 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของกำไรปกติ YoY ดังนั้น เราจึงยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566F เอาไว้เท่าเดิม (โดยยังไม่รวมกำไร/ขาดทุนจาก KLINIQ)

 

Valuation & Action

เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ โดยประเมินราคาเป้าหมาย DCF ปี 2566 ใหม่ที่ 9.80 บาท (ใช้ WACC ที่ 9%, TGที่ 3%) จากเดิมที่ 9.20 บาท เนื่องจากเราปรับสมมติฐาน margin เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม

 

Risks

COVID-19 ระบาด, เกิดปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองไทยรอบใหม่ และเกิดเหตุก่อการร้าย