แกว่งตัวในกรอบ ปัจจัยภายนอกอาจผันผวนจากเงินไหลไปพันธบัตร

แกว่งตัวในกรอบ ปัจจัยภายนอกอาจผันผวนจากเงินไหลไปพันธบัตร

สัญญาณเงินเฟ้อที่ชะลอตัวอาจทำให้เงินไหลจากตลาดทุนสู่ตราสารหนี้ แม้ความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก่อนหน้านี้ปัจจัยดังกล่าวกดดันตลาดทุนในมุมของผลประกอบการที่อาจจะชะลอตัวลง

อย่างไรก็ตามเมื่อเงินเฟ้อเริ่มส่งสัญญาณผ่านจุดสูงสุด (คาดการณ์เงินเฟ้อ สหรัฐฯ ธ.ค.ที่จะประกาศ 12 ม.ค.66 นี้ อยู่ที่ 6.70% ชะลอตัวลงจาก พ.ย.ที่ 7.1%) ซึ่งแปลว่าวัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดสูงสุดเช่นกัน สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้ตลาดตราสารหนี้ยุติขาลง และเปิดโอกาสให้เงินทุนไหลเข้า ซึ่งอาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตราสารทุนในระยะสั้นผันผวน โดยเฉพาะในตลาดหุ้นของประเทศที่อยู่ในความเสี่ยงของการปรับประมาณการกำไรลง เช่น สหรัฐฯ 

 

คาดหุ้นไทยยังทรงตัวได้ดีกว่าตลาดโลก โดยมีอานิสงค์จากโมเมนตัมทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แม้หุ้นไทยอาจผันผวนในระยะสั้นแต่โดยรวมกลุ่มที่มีความเสี่ยงเชิงลบน่าจะอยู่ในหุ้นที่อิงเศรษฐกิจโลก อาทิ พลังงาน ส่งออก แต่โมเมนตัมเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ยังช่วยประคองตลาด ซึ่งมาจาก 1) โอกาสในการปรับเพิ่มประมาณการเติบโตหลังจีนเปิดประเทศเร็วกว่าที่ตลาดคาด (8 ม.ค.66 จากเดิมที่ตลาดคาดว่าจะเป็นกลางปี) ทำให้อาจมีการปรับเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศขึ้นเป็น 25 ล้านคน (จาก 20 ล้านคน) 2) การทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) 3) ชุดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภค อาทิ ช้อปดีมีคืน และมาตรการอื่นๆ ส่งผลบวกต่อการบริโภคก่อนการเลือกตั้งที่น่าจะเกิดในช่วง พ.ค.66
 

 

 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ STP, TNR, DMT, TVDH, KLINIQ, FLOYD, SORKON 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR

 

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังคงมุมมองบวกต่อหุ้นไทยแม้อาจมีแรงขายปรับพอร์ตบ้างช่วงต้นปี หุ้นกลุ่มเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ค้าปลีก ธนาคาร) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวโดดเด่นในระยะสั้น เน้นตัวที่ยัง Laggard หรือที่มีสัดส่วนรายได้จากคนจีนสูงมากๆ  //หุ้นแนะนำ: MAJOR, SCGP, VRANDA, AU*

แนวรับ: 1,668 / แนวต้าน : 1,690 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่ 2 – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 46.2 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 47.7 ในเดือนพ.ย. แต่สอดคล้องกับตัวเลขเบื้องต้น

Tesla ร่วงหลังส่งมอบรถยนต์ต่ำกว่าคาด – ล่าสุดบริเวณ $108.10 โดยเทสลาส่งมอบรถยนต์ 405,278 คันในไตรมาส 4 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับ 308,600 คันในช่วงเดียวกันของปี 2564 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 409,000-433,000 คัน

นายกฯพร้อมรับคนจีนเที่ยวไทย ยันมาตรการไม่กระทบการท่องเที่ยว – สาธารณสุข และคณะแพทย์ จะทำหน้าที่กำหนดมาตรการในการดูแลป้องกันโควิด-19 ขณะที่หลายประเทศก็กำลังเตรียมการรับมือเช่นกัน ซึ่งมาตรการอาจจะมีความเหมือนหรือแตกต่างกันบ้าง เพราะมาตรฐานในการดูแลรักษาพยาบาลของแต่ละประเทศไม่เท่าเทียมกัน โดยของไทยนั้นอยู่ในเกรดเอ

ไทยตั้งเป้า 5 ปี เพิ่มสัดส่วน GDP จากท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 25% - ครม.เห็นชอบให้ประกาศใช้แผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2566-70) หรือ มีตัวชี้วัดสำคัญในระยะ 5 ปี เช่น สัดส่วน GDP ด้านการท่องเที่ยวต่อ GDP ประเทศไม่ต่ำกว่า 25%, จำนวนธุรกิจบริการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวได้รับการรับรองมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย และอาเซียนเพิ่มขึ้นปีละไม่ต่ำกว่า 3,000 ราย

ตลท.ให้ SKY ใช้ Cash Balance – ตั้งแต่ 4-24 ม.ค.66

 

ประเด็นติดตาม: 4 ม.ค. - ISM Manufacturing PMI, JOLTs Job Openings / 6 ม.ค. – EU CPI, Nonfarm Payrolls, US Unemployment Rate, ISM Non-Manufacturing PMI / 12 ม.ค. – US CPI / 13 ม.ค. – EU Industrial Production / 18 ม.ค. – EU CPI, US Retail Sales, US PPI   

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)