แม้อาจมีแกว่งบวกสลับจากหุ้นรายตัว แต่ตลาดยังมีแนวโน้มผันผวนซึมลง  

โดยมองตัวเลขที่ชะลอเป็นบวกต่อการชะลอทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามภาพการจ้างงานของสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ส่งผลให้การรายงานการจ้างงานช่วงหลัง ที่สุดมักออกมาดีกว่าคาด ทำให้ต้องระวังการดีดตัวของหุ้นที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงสัญญาณระยะสั้น และเรายังระวังการซึมลงของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องมาจากการลดงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐฯ (ตั้งแต่ 1 ก.ย.) และแรงกดดันจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (9 ก.ย.) และสหรัฐฯ (21 ก.ย.) // ทั้งนี้ตลาดอาจมีการดีดตัวสลับหากมีตัวเลขเศรษฐกิจที่สนับสนุนการชะลอการขึ้นดอกเบี้ย อาทิ การรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ (13 ก.ย.) 
 

ผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับขึ้น บวกต่อการเก็งกำไรหุ้นกลุ่มประกัน การที่ตลาดปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ล่าสุดปรับขึ้นเป็น 3.267% จากเพียง 2.516% (เมื่อ 2 ส.ค.) ซึ่งเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มประกันที่จะสามารถนำเบี้ยประกันรับไปลงทุนและได้รับผลตอบแทนในอัตราที่สูงขึ้น อย่างไรก็ตามเรายังกังวลถึงต้นทุนการเคลมประกันภัยที่จะสูงขึ้นมาจากฐานที่ต่ำในปีที่แล้ว ทำให้แนะนำเพียงเก็งกำไรแบบกำหนดจุดตัดขาดทุนถึงเพียงก่อนประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/65 โดยหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ TIPH, THRE, TVI, BKI / สำหรับประกันชีวิต จะมีผลดีจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่มากกว่า แต่ Valuation ของหุ้นในกลุ่มนี้ก็แพงกว่าเช่นกัน ทำให้อาจจะน่าสนใจเพียง TLI ที่เพิ่งเข้าตลาด และนักลงทุนยังมีการถือครองต่ำ
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มได้ประโยชน์จากคนละครึ่งเฟส 5 อาทิ OSP, CBG, ICHI, SAPPE, TNP, KK, MAKRO 2) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 3) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 4) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  5) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CPALL, SCGP, TOP, RATCH, CRC, CPF, RS, SC, TH, TLI, BAM, ROJNA

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวซึมลงในกรอบ 1,600-1,650 จุด ภาพใหญ่รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มหุ้นปลอดภัย หุ้นที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกรายตัว มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า   //หุ้นแนะนำ:  ASIAN*, GUNKUL*, THRE*, OR*

แนวรับ: 1,620-1,629 / แนวต้าน : 1,640 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 

 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนี PMI ภาคการผลิตสหรัฐต่ำสุดรอบ 2 ปี – ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 51.5 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี จากระดับ 52.2 ในเดือนก.ค. แต่สูงกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 51.3

ISM เผยดัชนีภาคการผลิตสหรัฐทรงตัว - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 52.8 ในเดือนส.ค. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก.ค. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0

สหรัฐเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานต่ำกว่าคาด – ลดลง 5,000 ราย สู่ระดับ 232,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดที่ระดับ 245,000 ราย

เยนร่วงต่ำสุดรอบ 24 ปีเทียบดอลลาร์ ทะลุ 140 เยน – ดอลลาร์ได้ปัจจัยหนุนจากมุมมองที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ สวนทางธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งยังคงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้ช่องว่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นกว้างขึ้น

ดัชนีเชื่อมั่นธุรกิจส.ค.ทรงตัว เริ่มเห็นสัญญาณดีขึ้น – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนส.ค. อยู่ที่ 49.6 ทรงตัวอยู่ในระดับเดียวกับเดือนก.ค. โดยความเชื่อมั่นด้านต้นทุนปรับดีขึ้นมาก แม้จะยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อ การลงทุน และการจ้างงานปรับลดลงเล็กน้อย สำหรับดัชนีฯ ภาคการผลิตยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 แต่ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากกลุ่มผลิตเหล็ก รวมถึงกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยางและพลาสติก

ASIAN จัดสรรหุ้นเพิ่มทุน "AAI" ที่ 6.385 ต่อ 1 – แจ้งกำหนดวันรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) 19 ก.ย. ขึ้น XB 16 ก.ย. ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บมจ.เอเชี่ยน อะไลอันซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (AAI) โดยให้ Pre-emptive Right ในอัตราส่วน 6.385 หุ้นสามัญ ของบริษัทต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนของ AAI

BANPU-W4 – ซื้อขายวันสุดท้าย 6 ก.ย. ราคาใช้สิทธิ์ 5 บาท

Opportunity day – 2 ก.ย. – SAPPE, SENAJ, TPIPL, RT, BBIK, JDF / 5 ก.ย. – MTI, CKP, TMILL, PORT, AMATAV, GVREIT / 6 ก.ย. – NER, MAKRO, SSP, AMATA, HTC 

หุ้นที่มีโอกาสเข้าเกณฑ์ Cash Balance – ได้แก่ KWI, TSR, KCC

 

ประเด็นติดตาม: 2 ก.ย. – US Nonfarm Payrolls, US Unemployment Rate / 5 ก.ย. – TH CPI / 6 ก.ย. - ISM Non-Manufacturing PMI / 7 ก.ย. – EU GDP / 8 ก.ย. - ECB Interest Rate Decision

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)