'สมโภชน์' คิดต่างเพื่อเป็นแชมป์ สร้างโอกาสในวิกฤติ Climate Change

'สมโภชน์' คิดต่างเพื่อเป็นแชมป์ สร้างโอกาสในวิกฤติ Climate Change

"สมโภชน์ อาหุนัย" คิดต่างเพื่อเป็นแชมป์ พา "อีเอ" ก้าวสู่ผู้นำรายแรกของโลกที่ทำการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต ระหว่างประเทศ สร้างโอกาสในวิกฤติ Climate Change

รายการ SUITS Sustainability เปลี่ยนโลกธุรกิจ ของ ‘กรุงเทพธุรกิจ’ สัมภาษณ์พิเศษ สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล เข้าสู่ธุรกิจพลังงานสะอาดเป็นรายแรกๆ ในไทย และประกาศศักดาในตลาดโลกได้สำเร็จ

ทิศทางทางธุรกิจทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นเป็นพิเศษเกี่ยวกับแนวทางด้าน ‘พลังงานสะอาด’ การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับแรงผลักดันจากการตระหนักว่า ธุรกิจต่างๆ มีบทบาทสำคัญในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และรับประกันอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้น

\'สมโภชน์\' คิดต่างเพื่อเป็นแชมป์ สร้างโอกาสในวิกฤติ Climate Change

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อหลายปี ธุรกิจพลังงานสะอาดยังเป็นเรื่องใหม่และยาก ยากทั้งเป็นน่านน้ำใหม่ ยากทั้งองค์ความรู้ใหม่ ยากทั้งเงินทุนที่สูงลิ่วกว่าอุตสาหกรรมอื่น ยากทั้งการทำความเข้าใจกับผู้คน คู่ค้า หลายคนจึงมองไม่เห็นการเติบโตของธุรกิจพลังงานสะอาด แต่ไม่ใช่ผู้ชายคนนี้ สมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA วันนี้เขาพิสูจน์แล้วว่า ทิศทางของพลังงานสะอาดนั้นคือฐานที่มั่นของธุรกิจ และคาร์บอน เครดิต คือ อนาคต

EA เป็นรายแรกของโลกที่ทำการซื้อ-ขายคาร์บอนเครดิต ระหว่างประเทศ

ชื่อของ “สมโภชน์” เป็นที่รู้จักดีในกลุ่มธุรกิจว่าใจใหญ่ กล้าได้กล้าเสีย หยิบจับอะไรสร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับวงการ เมื่อเขาผ่อนแรงจากตลาดทุน ประกาศลุยธุรกิจพลังงานสะอาด จนเกิดเสียงปรามาสว่า “ขายฝัน” และในที่สุดวันนี้เขาได้

บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) เป็นรายแรกของโลกที่นำ ‘คาร์บอน เครดิต’ ซื้อ-ขายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากในประเทศโลกที่สาม

“EA เป็น Carbon Negative Company มาตั้งแต่แรกเพราะธุรกิจที่เราทำก่อให้เกิด Carbon Negative ถ้าไปดูคาร์บอน เครดิต จาก องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) ส่วนแบ่งการตลาดเราอยู่ที่ 30-40 เพราะทำมาตลอดช่วง 10 ปี เป็นสิ่งที่เราทำและพยายามนำแผนธุรกิจนี้ไปชวนลูกค้าเปลี่ยนมาใช้พลังงานสะอาดเพื่อให้เกิดคาร์บอน เครดิต หรือการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก”

การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกบริษัท รวมถึงการทำคาร์บอน ฟุตพริ้นต์ เพื่อไปสู่การซื้อขายคาร์บอน เครดิต เพราะไม่เพียงช่วยลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ยังทำให้ธุรกิจมีกำไรมากขึ้น และมีโอกาสเติบโตในระดับโลกได้

\'สมโภชน์\' คิดต่างเพื่อเป็นแชมป์ สร้างโอกาสในวิกฤติ Climate Change

“ในฐานะที่ผมเป็นรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานสถาบันวิทยาการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พยายามสร้างศูนย์ซื้อขายคาร์บอน เครดิตขึ้นมา คือแพลตฟอร์ม FTIX จับมือกับ อบก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เราคิดว่าประเทศไทยต้องมีตลาดกลางขึ้นมาให้ได้

ทำไมต้องเป็น FTIX เพราะเป็น Neutral Organization ถ้า EA ทำเองคู่แข่งก็ไม่อยากจะไปซื้อขายก็ต้องหาองค์กรกลาง เพราะในสภาอุตสาหกรรมฯ มีทั้งผู้ผลิตไฟฟ้า ผู้ผลิตส่งออก คนที่จำเป็นต้องใช้คาร์บอน เครดิต อยู่ในนี้เยอะมาก ผมเลยพยายามให้สภาอุตสาหกรรมฯ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานแห่งรัฐ เป็นจุดสร้างตลาดซื้อขายขึ้นมาในประเทศเพื่อให้เกิดการซื้อขายคาร์บอน เครดิต”

ธุรกิจต้องเปลี่ยนสู่ Sustainability

“สมโภชน์” ปักธงเป็นผู้นำในด้านการทำพลังงานสะอาด พร้อมขับเคลื่อน 3 กลุ่มธุรกิจ กลุ่มพลังงานทดแทน ไบโอดีเซล กรีเซอรีน สารเปลี่ยนสถานะ และกรีนดีเซล กลุ่มพลังงานหมุนเวียน โรงไฟฟ้าพลังงานลมและแสงอาทิตย์ และกลุ่มแบตเตอรี่ ยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ และสถานีอัดประจุไฟฟ้า เรียกว่าครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ

“การที่บริษัทจะยั่งยืนต้องทำให้องค์กรแข็งแรงแล้วสามารถพัฒนาตัวมันเองไปกับการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมและธุรกิจได้ บริษัทก็เหมือนคนมีการเกิดแก่เจ็บตาย เราจะทำยังไงให้บริษัทเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่เสมอ

แนวความคิด คือ ต้องพยายามสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมา เอาความเชื่อให้คิดเหมือนๆ กันว่าเราต้องการที่จะทำในสิ่งที่มีพลัง แล้วสร้างคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ แล้วเราจะทำยังไงให้คุนรุ่นใหม่อยากมาอยู่กับเรา ต้องกลับไปดูว่าในแต่ละรุ่นเขาต้องการอะไร เราต้องเข้าไปหาให้ได้ เพราะว่าองค์กรจะโตเราต้องมีบุคลากรที่ดี

สิ่งที่ทำทุกวันนี้ด้านหนึ่งจะเห็นว่าผมไปยุ่งเรื่องธุรกิจ อีกด้านหนึ่งผมกำลังจัดองค์กรเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจาก Leadership มาถึงจุดหนึ่งเราจะทำไง เปลี่ยนจากวันแมนโชว์ให้เกิดเป็นระบบ ให้ระบบเกิดเป็นสถาบัน สถาบันที่มีความเชื่อแบบนี้ส่งต่อจากคนรุ่นหนึ่งไปอีกรุ่นหนึ่ง ที่มี DNA ของ EA องค์กรจะโตต้องมีคนเก่ง คนดี คนมีพลัง” 

EA ความบริสุทธิ์ที่มีพลังปัจจัยแห่งความสำเร็จ

ในด้านผลิตภัณฑ์ EA มีเป้าหมายเป็นแชมเปี้ยน โปรดักต์ ของประเทศ ที่สามารถเข้าไปแข่งขันในตลาดโลกได้

“เราต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่าจุดเด่น จุดแข็งของเราคืออะไร โปรดักต์ที่เราจะเข้าไป Key Success Factors อยู่ตรงไหน จะทำยังไงให้เรายั่งยืน ก๊อปปี้ยาก ฉะนั้นถ้าเราคิดและเข้าไปอยู่ในธุรกิจที่มันซับซ้อนขึ้น ไม่เหมือนเมื่อก่อนทำโซล่าร์เซลล์พอดีมันคนก็แห่มา เราต้องคิด ถ้าเราอยากอยู่ตรงนี้ ต้องคิดเร็วกว่าเขาก้าวหนึ่งเสมอ แล้วต้องคิดอะไรที่มีอินโนเวชัน มีสิทธิบัตร ซึ่งวันนี้ผมเชื่อว่า EA อยู่จุดนั้น”

พลังงานสะอาด แต้มต่อในการดึงโอกาสใหม่เข้ามาประเทศและสร้างงาน สร้างเศรษฐกิจ เชื่อมโลกให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น

“EA อยากเป็นบริษัทที่ประเทศภูมิใจ รัฐบาลพูดว่าการสนับสนุนครั้งนี้ทำให้เกิดอุตสาหกรรมจริงๆ ทำให้ประเทศเจริญ เกิดการจ้างงาน เกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เป็นแชมเปี้ยนโปรดักต์ คือ Commitment ที่ EA ทำมาตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ผมพูดเสมอว่า อยากจะเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัทความบริสุทธิ์ที่มีพลัง จำกัด (มหาชน) เราอยากจะทำสิ่งดีให้เกิดขึ้นในประเทศ” 

ธุรกิจที่สอดคล้อง Sustainability ไม่เพียงเป็นธุรกิจเมกะเทรนด์ แต่ยังเป็นธุรกิจอนาคต อนาคตที่จะรอดไปด้วยกัน ทั้งคน ธุรกิจ ธรรมชาติ โลก ซึ่งภารกิจของคุณสมโภชน์ คือ ‘พลังงานบริสุทธิ์ พลังเพื่ออนาคต’ และก้าวต่อไปของ EA ยังดำเนินไปด้วยยุทธศาสตร์เป็นองค์กรที่มีผลต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศ และการทำธุรกิจให้เข้าถึงความมั่นคงด้านพลังงานอย่างยั่งยืน