ททท. หวังโกลเด้นวีค ‘จีน-ญี่ปุ่น’ กระหึ่ม! ‘ต่างชาติเที่ยวไทย’ 10 วัน 1 ล้านคน

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดสถานการณ์การเดินทางระหว่างวันที่ 26 เม.ย.-5 พ.ค. 2567 รวม 10 วัน มี “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” เดินทางเข้าไทยรายวันมากกว่าช่วงปกติ 10% เทียบค่าเฉลี่ยนักท่องเที่ยวรายวันราว 89,000 คนต่อวัน

ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. กล่าวว่า ททท. ประเมินว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยในช่วง 10 วันดังกล่าว ราว 996,000 คน เพิ่มขึ้น 29% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2566 สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 32,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% โดยกระแสการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวจีนและญี่ปุ่น จะทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวไทยช่วงฤดูร้อนปีนี้คึกคักขึ้น

หยุดยาว 'วันแรงงาน' คาด 'จีนเที่ยวไทย' กว่า 2.3 แสนคน

สำหรับเทศกาลหยุดยาว “วันแรงงาน” ของ “จีน” (1-5 พ.ค.) จากพฤติกรรม “นักท่องเที่ยวจีน” ในอดีตเมื่อปี 2562 ก่อนโควิด-19 ระบาด นิยมเดินทางเข้าไทยล่วงหน้า 1-5 วัน แม้ในปี 2567 วันหยุดแรงงานวันแรกตรงกับวันพุธ (ช่วงกลางสัปดาห์) แต่จำนวนเที่ยวบินจากจีนเข้าไทย ช่วงวันที่ 26- 30 เม.ย. เพิ่มขึ้น 3% เทียบช่วงเดียวกันของปี 2566 จึงคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะเริ่มเดินทางล่วงหน้าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ของปลายเดือน เม.ย. โดยช่วงวันที่ 26 เม.ย.-5 พ.ค. รวม 10 วัน จะมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย “230,000 คน” เพิ่มขึ้น 75% สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 9,101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท.

ปัจจัยหนุนคือ “การเปิดเที่ยวบิน” รองรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงหยุดยาววันแรงงานของจีน โดยมีการเปิดเที่ยวบินจากจีนเข้าไทยช่วง 10 วันดังกล่าว ใน 5 เส้นทาง เส้นทางละ 1 เที่ยวบินต่อวัน ได้แก่ 1.สายการบินสปริง แอร์ไลน์ส (Spring Airlines) จากซัวเถา- กรุงเทพฯ และ เซี่ยงไฮ้-กรุงเทพฯ 2.สายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส (China Southern Airlines) จากนครกว่างโจวเข้าสู่กรุงเทพฯ และ ภูเก็ต 3.สายการบินเซี่ยเหมิน แอร์ไลน์ส (Xiamen Airlines) จากเซี่ยเหมิน-กรุงเทพฯ

นอกจากนี้ “การยกเว้นวีซ่าระหว่างไทย-จีน” พำนักได้สูงสุด 30 วัน มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มี.ค. 2567 คาดว่าจะจูงใจให้นักท่องเที่ยวจีนเลือกเดินทางมายังเมืองไทยเป็นจุดหมายปลายทางแรก เพราะช่วยลดเวลาในการเตรียมการเดินทาง อีกทั้งนักท่องเที่ยวสามารถตัดสินใจเดินทางได้ทันทีโดยไม่ต้องขอวีซ่าเข้าไทย ทั้งนี้จากการติดตามผลของมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวตลาดจีนช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค. 2567 พบว่า นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยเพิ่มขึ้น 240% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

 

โกลเด้นวีค 'ญี่ปุ่น' ฮิตเที่ยวเกาหลี อันดับ 1

ด้าน “เทศกาลวันหยุดโกลเด้นวีค” ของ “ญี่ปุ่น” ตั้งแต่วันที่ 29 เม.ย.-5 พ.ค. จากพฤติกรรม “นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น” ในอดีต นิยมเดินทางเข้าไทยตั้งแต่วันสุดท้ายของการทำงาน ปีนี้คาดว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจะทยอยเดินทางเข้าไทยตั้งแต่ 26 เม.ย. - 5 พ.ค. รวม 10 วัน มีจำนวน “41,000 คน” เพิ่มขึ้น 30% สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 1,394 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76% เทียบช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวตลาดขาออก (Outbound) ของญี่ปุ่น “เจทีบี” (JTB) บริษัทท่องเที่ยวรายใหญ่ของญี่ปุ่น คาดการเดินทางท่องเที่ยวช่วงวันหยุดโกลเด้นวีค 25 เม.ย. - 5 พ.ค. จะมีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเดินทางออกต่างประเทศ 520,000 คน เพิ่มขึ้น 67.7% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว มีระยะพำนักต่อทริป 4 วัน 3 คืน คิดเป็นสัดส่วน 27.1% มากเป็นอันดับ 1 รองลงมา พำนัก 2 วัน 3 คืน คิดเป็นสัดส่วน 16.7% โดย “จุดหมายปลายทางยอดนิยม” คือ เกาหลีใต้ 20.8% ตามมาด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 16.7% และไต้หวัน 13.5%

ทั้งนี้ จากผลสำรวจของ “เอ็กซ์พีเดีย” (Expedia) พบว่า “กรุงเทพฯ” ติดอันดับ 3 ของจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นช่วงโกลเด้นวีคปี 2567 รองจากอันดับ 1 โซล เกาหลีใต้ และอันดับ 2 ไทเป ไต้หวัน

 

อโกด้า เผย 'ไทย' รั้งอันดับ 2 จุดหมายฮิตโกลเด้นวีค 'ญี่ปุ่น'

อโกด้า (Agoda) แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์ ระบุ การค้นหาของ “นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น” พบว่าสนใจเดินทางมาท่องเที่ยวไทยมากขึ้น ส่งผลให้ไทยติด “อันดับ 2” ของจุดหมายปลายทางต่างประเทศยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นช่วงโกลเดนวีคนี้ ส่วนอันดับ 1 คือ เกาหลีใต้

“ไทย” ถือเป็นจุดหมายปลายทางแห่งเดียวใน “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” ที่อยู่ใน “3 อันดับแรก” และมีการค้นหามากกว่าไต้หวัน สหรัฐ และเวียดนาม

“ประเทศไทยเป็นที่นิยมมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น มีการค้นหาเพิ่มขึ้น 60% ระหว่างเดือน ม.ค.ถึงช่วงกลางเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เทียบช่วงเดียวกันของปี 2566 สะท้อนถึงความชื่นชอบของชาวญี่ปุ่นที่เพิ่มมากขึ้นต่อสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลายและวัฒนธรรมอันเก่าแก่ยาวนานของไทย”

อโกด้า ยังพบอีกว่ามีเมืองใหม่เข้ามาอยู่ในรายชื่อเมืองยอดฮิตในไทย ขณะที่เมืองยอดนิยมตลอดกาลอย่างกรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และเกาะสมุย ยังคงครองตำแหน่งเดิมใน 5 อันดับแรก ตามลำดับ ส่วนเมืองใหม่ที่ไต่ขึ้นมาอยู่ใน 10 อันดับแรกนั้น ได้แก่ ชลบุรี (อันดับ 9) และเขาหลัก (อันดับ 10) พิสูจน์ให้เห็นว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมากขึ้นต้องการสัมผัสประสบการณ์อันหลากหลายของไทย

Pierre Honne ผู้อำนวยการอาวุโสประจำประเทศไทย อโกด้า กล่าวว่า “นักท่องเที่ยวญี่ปุ่นหันมาท่องเที่ยวในไทยมากขึ้น โดยไปสำรวจเมืองท่องเที่ยวติดทะเล อย่างชลบุรีและเขาหลัก แทนการไปพักผ่อนแต่ในเมืองยอดนิยมที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีอย่างกรุงเทพฯ และพัทยา”